นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกเฟส 2 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด (เป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL) ตั้งอยู่ที่อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังการผลิต 4.4 เมกกะวัตต์ ว่าขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปกว่า 85% แล้ว คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ประมาณต้นเดือนสิงหาคมนี้ เมื่อรวมกับเฟสที่ 1 ที่จำหน่ายไฟฟ้าได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 54 ที่ผ่านมา (มีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 3 เมกกะวัตต์) ทำให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้รวม 7.4 เมกกะวัตต์ จากกำลังการผลิตรวม 30.9 เมกกะวัตต์ ซึ่งในส่วนของกำลังการผลิตที่เหลืออีก 23.5 เมกกะวัตต์ วางแผนว่าจะก่อสร้างให้ทันภายในกลางปี 55
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 4 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 26 เมกกะวัตต์ ของ บริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด (เป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL) ปัจจุบันมีความคืบหน้า มากแล้ว คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ช่วงไตรมาส 4 ปี 54 โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ลงนามเพื่อขอสนับสนุนด้านสินเชื่อกับสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการก่อสร้าง ขณะเดียวกันจะเปิดหาพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมทุนในโครงการดังกล่าวประมาณเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 54 โดยบริษัทมีนโยบายถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
" งานด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันผลประกอบการของ GUNKUL ให้ขยายตัวสูงขึ้น พร้อมกันนี้ยังเป็นการรุกขยายธุรกิจควบคู่ไปกับธุรกิจเดิมของบริษัท คือการผลิต จัดหาและจำหน่ายอุปกรณ์ สำหรับระบบไฟฟ้า รวมถึงการรุกขยายตลาดด้านการส่งออก และเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือให้มากขึ้นจากปัจจุบันบริษัทมีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) แล้วประมาณ 1,600 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ผลประกอบการของ GUNKUL จะมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นมาก" นางสาวโศภชากล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 4 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 26 เมกกะวัตต์ ของ บริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด (เป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL) ปัจจุบันมีความคืบหน้า มากแล้ว คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ช่วงไตรมาส 4 ปี 54 โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ลงนามเพื่อขอสนับสนุนด้านสินเชื่อกับสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการก่อสร้าง ขณะเดียวกันจะเปิดหาพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมทุนในโครงการดังกล่าวประมาณเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 54 โดยบริษัทมีนโยบายถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
" งานด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันผลประกอบการของ GUNKUL ให้ขยายตัวสูงขึ้น พร้อมกันนี้ยังเป็นการรุกขยายธุรกิจควบคู่ไปกับธุรกิจเดิมของบริษัท คือการผลิต จัดหาและจำหน่ายอุปกรณ์ สำหรับระบบไฟฟ้า รวมถึงการรุกขยายตลาดด้านการส่งออก และเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือให้มากขึ้นจากปัจจุบันบริษัทมีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) แล้วประมาณ 1,600 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ผลประกอบการของ GUNKUL จะมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นมาก" นางสาวโศภชากล่าว