เมืองไทยเป็นเป็นทั้งดินแดนแห่งความ “คาดไม่ถึง” และ “อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้” อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของค่านิยม แนวทางปฏิบัติ ธรรมเนียมของสังคมโลก ทำให้คำกล่าวขานว่า “อเมซิ่งไทยแลนด์” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ
การทำโพลโดยเอแบคตอกย้ำซ้ำซากโพลก่อนหน้านี้ ในการถูกสอบถามความเห็น คนไทยมองว่าการโกงกิน ทุจริต คอร์รัปชันเป็นการกระทำที่ยอมรับได้ ถ้าหากพฤติกรรมเช่นนั้นนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในยุค “ทักษิณมหาราษฎร์”
ชาวบ้านอยู่ดีกินดี ยิ้มแย้มแจ่มใสถ้วนหน้า! ไม่อยู่ในสภาพอกไหม้ไส้ขม!
น่าจะเป็นสังคมเดียวในโลก ที่มีคนหน้าซื่อตาใส ชื่นชอบ นิยมการโกงบ้านกินเมือง คนส่วนหนึ่งคงรู้สึกอัปยศอดสู อายคนชาติอื่น ไปไหนแทบเอาปี๊บคลุมหัว
คงเป็นเพราะความคิดเช่นนี้ นักการเมืองกังฉินกินคำโต หน้าด้าน จึงเดินเข้าสภาฯ ทุกยุค ด้วยการลงทุนซื้อเสียง! จ่ายรอบเดียวได้สิทธิโกงนาน 4 ปี
ไทยจึงเป็นยุคของสังคมเสื่อม ไร้คุณธรรม จิตสำนึก ความสามารถแยกแยะ ถูกผิด ชั่วดี ถี่ห่าง คนกาเบอร์ส่วนหนึ่ง ประมาณ 1 ใน 4 ของประชากร ลงคะแนนให้นักเลือกตั้งภายใต้สังกัดเครือข่ายของชาวคณะ “โกงทั้งโคตร” มีตัวกังฉินเพียบ
เป็นสังคมที่ชื่นชมคนชั่วช้าเลวทรามร่ำรวยจากการโกงบ้านกินเมือง เลือกอาชญากร นักปล้นทรัพย์ เผาบ้าน เผาเมือง เดนคุก ตัวตลก โจ๊กคาเฟ่ซกมก ให้เป็นผู้ทรงเกียรติ! เลือกขบวนการนอกกฎหมายให้เป็นผู้พิจารณาออกกฎหมาย
บ้านเมืองจะไม่เสี่ยงต่อความล่มจม วอดวายยุคนี้ จะมีครั้งไหนอีก?!
เจอสภาพเช่นนี้ คนรักห่วงบ้านเมือง สถาบันหลักอาจรู้สึกท้อแท้ หมดอาลัยตายอยาก เริ่มสงสัยว่า “ทำดีได้ดีจริงหรือ” เมื่อตัวบรรลัย มหาวายร้ายการเมือง หมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนเข้ามาผลาญทรัพย์สินแผ่นดินให้เห็นว่า “ทำชั่วแล้วรวย”
มีนักชุมนุม “สู้แล้วรวย” ยึดสี่แยกย่านธุรกิจเผาบ้าน เผาเมือง! ตัวการใหญ่ใช้เครือข่าย เงินร้อน ซื้อเสียงชิงอำนาจรัฐผูกขาดให้ครอบครัวเป็นผู้นำรัฐบาล
“ถ้าไม่ใช่ครอบครัว ญาติโกโหติกา โคลนนิ่งของข้า อย่าหวังว่าจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ” นั่นเป็นปฏิญญา ไม่ต้องประกาศ แต่พฤติกรรมฟ้องให้เห็นชัด
แม้ “น้องปู” น้องรักโคลนนิ่งนอมินีของพี่เหลี่ยมร้ายเป็นเพียงว่าที่นายกฯ ยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าพิธีกรรมต่างๆ จะจบ รอคณะกรรมการตรายางรับรองนักซื้อเสียงให้รอดสันดอนเข้าไปนั่งในสภาฯ อย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์
ไม่ต้องห่วง “จ่ายครบ เรื่องจบแน่” ไม่แช่เย็นหรือตามไปสอยทีหลัง! ฮ่า!
แม้จะมั่นใจเต็มร้อยว่าได้เป็นนายกฯ แน่ ยังมีช่วงเวลาของความจริงคอยกระตุ้นเตือนเสมอว่า ถ้าให้นั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศจริงๆ การเป็นเพียงตัวแทนหุ่นเชิดจะเป็นวันคืนทรมาน ถ้ายังมีความรู้สึกเปราะบาง ความเป็นตัวตนยังเหลือ
ชาวบ้านซึ่งไม่ได้เลือกพรรคเพื่อเหลี่ยมร้ายจะหัวใจสลาย จิตตก หมดอาลัยตายอยาก สิ้นหวังในอนาคตของชาติบ้านเมือง รู้สึกไร้ที่พึ่ง มองแม่ทัพนายกอง ขุนทหาร ข้าราชการเห็นผิดเป็นชอบ ไม่คิดกอบกู้บ้านเมืองให้พ้นมารการเมือง
ขอบอกว่าอย่ายอมให้พวกมารการเมืองเป็นต้นเหตุแห่งความไม่สุขกาย สบายใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับของพวกท่าน! เท่ากับว่าจะเป็นการพ่ายแพ้ซ้ำสอง
ตรงกันข้าม ต้องแสดงออกให้เห็นความรื่นรมย์ของตัวเรา ดูซิว่าพวกถ่อยเถื่อน เผาบ้านเผาเมืองจะเรียกร้องเอาอำนาจวาสนา โอกาสได้เงินตราแลกกับการเป็นขี้คุกเดนตะรางจากนายจ้าง นายทาส ทำให้ปั่นป่วนวุ่นวายแค่ไหน
ต้องทำใจ มองสภาพนี้ด้วยการยอมรับว่าคนในโลกนี้เกิดมาสติปัญญา ความคิดอ่าน ระดับกิเลสตัณหาไม่ทัดเทียมกัน! ฝรั่งยังพูดแนวประชดประชันว่า “มีพวกโง่เง่า บ้องตื้นลืมตามาดูโลก เป็นเหยื่อผู้อื่นทุกๆ นาที” นั่นแล!
ผู้กลัดกลุ้ม ต้องไม่ใช่คนห่วงบ้านเมือง แต่เป็นเครือข่ายเหลี่ยมร้าย คอยระวังกังวลว่าจะอยู่ในอำนาจได้นานแค่ไหน ความกร่างกร้าวผสมโกงจะทำให้ชาวบ้านทนอีกเพียงใด ก่อนรวมตัวชุมนุมเดินขบวนขับไล่ให้เป็นมารตกสวรรค์
อย่าถึงขั้นปลงตก ประกาศว่า “บ้านเมืองไม่ใช่ของข้าคนเดียวโว้ย ให้พวกมีอำนาจหน้าที่ ผลประโยชน์เดิมพันสูง แก้ปัญหาเองก็แล้วกัน” จะเข้าทางเหล่ามารร้าย เปิดช่องให้โดนหัวเราะเยาะ ถูกจัดอยู่ในทฤษฎีผู้นิยมคิดเชิงยอมแพ้
คนน่าสงสารที่สุดช่วงนี้คือ “น้องปู” เพราะไม่มีใครจริงใจ มุ่งแต่จะตักตวงประโยชน์จากการใช้เธอเป็นหน้าฉากในการประกอบอาชญากรรมต่อบ้านเมือง! คนแวดล้อมเธอไม่ใช่เพราะชื่นชมบูชา แต่ดีใจที่เธอยอมเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยม
พวกเฒ่าเจนโลกหนอกคอหนาเอาอกเอาใจ เห็บเหาการเมืองกระโดดเกาะออเซาะ พวกนี้ล้วนแต่ซ่อนมีดซุยไว้ในรอยยิ้ม! แม้แต่พี่เหลี่ยมร้ายยังไม่สนใจว่าเธอจะประสบชะตากรรมอย่างไร ช่วงนี้ปล่อยให้หลอกตัวเองไปแต่ละวัน
“น้องปู” เริ่มแสดงอาการโรยรา ล้า สายตาเลื่อนลอย ตอบคำถามสื่อแต่ละครั้งเหมือนเคี้ยวแหนมป้าย่นฝังพริกขี้หนู! สื่อเป็นตัวเชิดให้เธอลอยละล่องฟูฟ่องในช่วงแรก และสื่อนั่นแหละจะเป็นตัวฉุดลากให้เธอเผชิญเคราะห์กรรมในที่สุด
สื่อยังยอมทนฟังเธอว่าเป็นตัวจริง เลือกรัฐมนตรีเอง! กว่าจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ เกรงว่าเธอจะบักโกรกจากแรงเสียดทานจนเสียศูนย์ซะก่อนนะดิ! อิอิอิ!!!
การทำโพลโดยเอแบคตอกย้ำซ้ำซากโพลก่อนหน้านี้ ในการถูกสอบถามความเห็น คนไทยมองว่าการโกงกิน ทุจริต คอร์รัปชันเป็นการกระทำที่ยอมรับได้ ถ้าหากพฤติกรรมเช่นนั้นนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในยุค “ทักษิณมหาราษฎร์”
ชาวบ้านอยู่ดีกินดี ยิ้มแย้มแจ่มใสถ้วนหน้า! ไม่อยู่ในสภาพอกไหม้ไส้ขม!
น่าจะเป็นสังคมเดียวในโลก ที่มีคนหน้าซื่อตาใส ชื่นชอบ นิยมการโกงบ้านกินเมือง คนส่วนหนึ่งคงรู้สึกอัปยศอดสู อายคนชาติอื่น ไปไหนแทบเอาปี๊บคลุมหัว
คงเป็นเพราะความคิดเช่นนี้ นักการเมืองกังฉินกินคำโต หน้าด้าน จึงเดินเข้าสภาฯ ทุกยุค ด้วยการลงทุนซื้อเสียง! จ่ายรอบเดียวได้สิทธิโกงนาน 4 ปี
ไทยจึงเป็นยุคของสังคมเสื่อม ไร้คุณธรรม จิตสำนึก ความสามารถแยกแยะ ถูกผิด ชั่วดี ถี่ห่าง คนกาเบอร์ส่วนหนึ่ง ประมาณ 1 ใน 4 ของประชากร ลงคะแนนให้นักเลือกตั้งภายใต้สังกัดเครือข่ายของชาวคณะ “โกงทั้งโคตร” มีตัวกังฉินเพียบ
เป็นสังคมที่ชื่นชมคนชั่วช้าเลวทรามร่ำรวยจากการโกงบ้านกินเมือง เลือกอาชญากร นักปล้นทรัพย์ เผาบ้าน เผาเมือง เดนคุก ตัวตลก โจ๊กคาเฟ่ซกมก ให้เป็นผู้ทรงเกียรติ! เลือกขบวนการนอกกฎหมายให้เป็นผู้พิจารณาออกกฎหมาย
บ้านเมืองจะไม่เสี่ยงต่อความล่มจม วอดวายยุคนี้ จะมีครั้งไหนอีก?!
เจอสภาพเช่นนี้ คนรักห่วงบ้านเมือง สถาบันหลักอาจรู้สึกท้อแท้ หมดอาลัยตายอยาก เริ่มสงสัยว่า “ทำดีได้ดีจริงหรือ” เมื่อตัวบรรลัย มหาวายร้ายการเมือง หมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนเข้ามาผลาญทรัพย์สินแผ่นดินให้เห็นว่า “ทำชั่วแล้วรวย”
มีนักชุมนุม “สู้แล้วรวย” ยึดสี่แยกย่านธุรกิจเผาบ้าน เผาเมือง! ตัวการใหญ่ใช้เครือข่าย เงินร้อน ซื้อเสียงชิงอำนาจรัฐผูกขาดให้ครอบครัวเป็นผู้นำรัฐบาล
“ถ้าไม่ใช่ครอบครัว ญาติโกโหติกา โคลนนิ่งของข้า อย่าหวังว่าจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ” นั่นเป็นปฏิญญา ไม่ต้องประกาศ แต่พฤติกรรมฟ้องให้เห็นชัด
แม้ “น้องปู” น้องรักโคลนนิ่งนอมินีของพี่เหลี่ยมร้ายเป็นเพียงว่าที่นายกฯ ยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าพิธีกรรมต่างๆ จะจบ รอคณะกรรมการตรายางรับรองนักซื้อเสียงให้รอดสันดอนเข้าไปนั่งในสภาฯ อย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์
ไม่ต้องห่วง “จ่ายครบ เรื่องจบแน่” ไม่แช่เย็นหรือตามไปสอยทีหลัง! ฮ่า!
แม้จะมั่นใจเต็มร้อยว่าได้เป็นนายกฯ แน่ ยังมีช่วงเวลาของความจริงคอยกระตุ้นเตือนเสมอว่า ถ้าให้นั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศจริงๆ การเป็นเพียงตัวแทนหุ่นเชิดจะเป็นวันคืนทรมาน ถ้ายังมีความรู้สึกเปราะบาง ความเป็นตัวตนยังเหลือ
ชาวบ้านซึ่งไม่ได้เลือกพรรคเพื่อเหลี่ยมร้ายจะหัวใจสลาย จิตตก หมดอาลัยตายอยาก สิ้นหวังในอนาคตของชาติบ้านเมือง รู้สึกไร้ที่พึ่ง มองแม่ทัพนายกอง ขุนทหาร ข้าราชการเห็นผิดเป็นชอบ ไม่คิดกอบกู้บ้านเมืองให้พ้นมารการเมือง
ขอบอกว่าอย่ายอมให้พวกมารการเมืองเป็นต้นเหตุแห่งความไม่สุขกาย สบายใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับของพวกท่าน! เท่ากับว่าจะเป็นการพ่ายแพ้ซ้ำสอง
ตรงกันข้าม ต้องแสดงออกให้เห็นความรื่นรมย์ของตัวเรา ดูซิว่าพวกถ่อยเถื่อน เผาบ้านเผาเมืองจะเรียกร้องเอาอำนาจวาสนา โอกาสได้เงินตราแลกกับการเป็นขี้คุกเดนตะรางจากนายจ้าง นายทาส ทำให้ปั่นป่วนวุ่นวายแค่ไหน
ต้องทำใจ มองสภาพนี้ด้วยการยอมรับว่าคนในโลกนี้เกิดมาสติปัญญา ความคิดอ่าน ระดับกิเลสตัณหาไม่ทัดเทียมกัน! ฝรั่งยังพูดแนวประชดประชันว่า “มีพวกโง่เง่า บ้องตื้นลืมตามาดูโลก เป็นเหยื่อผู้อื่นทุกๆ นาที” นั่นแล!
ผู้กลัดกลุ้ม ต้องไม่ใช่คนห่วงบ้านเมือง แต่เป็นเครือข่ายเหลี่ยมร้าย คอยระวังกังวลว่าจะอยู่ในอำนาจได้นานแค่ไหน ความกร่างกร้าวผสมโกงจะทำให้ชาวบ้านทนอีกเพียงใด ก่อนรวมตัวชุมนุมเดินขบวนขับไล่ให้เป็นมารตกสวรรค์
อย่าถึงขั้นปลงตก ประกาศว่า “บ้านเมืองไม่ใช่ของข้าคนเดียวโว้ย ให้พวกมีอำนาจหน้าที่ ผลประโยชน์เดิมพันสูง แก้ปัญหาเองก็แล้วกัน” จะเข้าทางเหล่ามารร้าย เปิดช่องให้โดนหัวเราะเยาะ ถูกจัดอยู่ในทฤษฎีผู้นิยมคิดเชิงยอมแพ้
คนน่าสงสารที่สุดช่วงนี้คือ “น้องปู” เพราะไม่มีใครจริงใจ มุ่งแต่จะตักตวงประโยชน์จากการใช้เธอเป็นหน้าฉากในการประกอบอาชญากรรมต่อบ้านเมือง! คนแวดล้อมเธอไม่ใช่เพราะชื่นชมบูชา แต่ดีใจที่เธอยอมเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยม
พวกเฒ่าเจนโลกหนอกคอหนาเอาอกเอาใจ เห็บเหาการเมืองกระโดดเกาะออเซาะ พวกนี้ล้วนแต่ซ่อนมีดซุยไว้ในรอยยิ้ม! แม้แต่พี่เหลี่ยมร้ายยังไม่สนใจว่าเธอจะประสบชะตากรรมอย่างไร ช่วงนี้ปล่อยให้หลอกตัวเองไปแต่ละวัน
“น้องปู” เริ่มแสดงอาการโรยรา ล้า สายตาเลื่อนลอย ตอบคำถามสื่อแต่ละครั้งเหมือนเคี้ยวแหนมป้าย่นฝังพริกขี้หนู! สื่อเป็นตัวเชิดให้เธอลอยละล่องฟูฟ่องในช่วงแรก และสื่อนั่นแหละจะเป็นตัวฉุดลากให้เธอเผชิญเคราะห์กรรมในที่สุด
สื่อยังยอมทนฟังเธอว่าเป็นตัวจริง เลือกรัฐมนตรีเอง! กว่าจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ เกรงว่าเธอจะบักโกรกจากแรงเสียดทานจนเสียศูนย์ซะก่อนนะดิ! อิอิอิ!!!