“สุวัตร” ชี้ “นช.แม้ว” ถูกเว้นวรรคห้ามจุ้นการเมือง แต่ยังออกนโยบาย มีภาพ เสียง ข้อความ ชัดเจนสมบูรณ์มาก ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง ม.18 เผยเตรียมฟ้องยุบ “เพื่อไทย” อังคารนี้ แนะ กกต.หนีไปสวีเดนคิดผิดให้คิดใหม่ โค้งสุดท้ายคนร้องเรียนเยอะแยะ ควรกลับมาทำหน้าที่จัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เล็งถวายคืนพระราชอำนาจตาม รธน.มาตรา 7 หากโหวตโน มากกว่าผู้ได้รับคะแนนสูงสุด
วันที่ 17 มิ.ย.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลสั่งเว้นวรรคห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมือง แต่ยังมากำหนดคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี สั่งการให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 กำหนดนโยบายประชาชนิยม บนป้ายหาเสียงเขียนทักษิณคิดเพื่อไทยทำ ช่วงปราศรัย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็พูดหากเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา มีการนิรโทษกรรม มีการปรองดอง นอกจากนี้ คนในพรรคเพื่อไทยอีกจำนวนมานำ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปหาเสียงเพื่อให้ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 การกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต้องถือว่าเข้าแทรกแซงกิจการของพรรคการเมือง หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงาน อาจไม่มีการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.เพราะพรรคเพื่อไทยถูกยุบ
ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 18 บอกว่า “เมื่อมีการประกาศเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีหน้าที่ควบคุมสมาชิกที่ส่งลงเลือกตั้ง ไม่ให้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายรัฐธรรมนูญ” ดังนั้น การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกเว้นวรรค 5 ปี กลับเอานโยบาย เอาความคิด เอารูป เอาทุกอย่างที่เป็น พ.ต.ท.ทักษิณ โฆษณาว่า จะเอา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาในเดือนธันวาคม ดังนี้ ต้องถือว่าทำผิดกฎหมายมาตรา 18 จะต้องยุบพรรคอย่างเดียว
นายสุวัตร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปยื่น ที่ กกต.แต่ตอนนี้มีปัญหาว่า หลังจากเราประกาศจะไปยื่น กกต.ดันขอไปดูงานการเลือกตั้งที่ประเทศสวีเดน ทั้ง 4 คน ตนคิดว่า ประเทศไทยขณะนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายอีก 2 สัปดาห์จะมีการเลือกตั้ง ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน มีคนเข้าไปร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งมากมาย ทั้งการขายสิทธิขายเสียง ขนคนมาฟังการปราศรัยจ่ายหัวละ 300 กกต.แทนที่จะอยู่ให้ครบ ทำหน้าที่จัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม กลับหนีไปสวีเดน หากท่านคิดผิดขอให้คิดใหม่ ไม่เหตุเพียงพอที่ กกต.จะไปต่างประเทศในขณะนี้
ทั้งนี้ เราจะยื่นยุบพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วในสัปดาห์หน้า เมื่อ กกต.ไม่อยู่ แล้วใครจะมาพิจารณาคำร้องของเรา ขอร้องอย่าทิ้ง นายประพันธ์ นัยโกวิท ไว้คนเดียว ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะไปต่างประเทศขณะนี้ ตนเคยบอกแล้ว กกต.ชุดนี้เคยเป็นผู้พิพากษา เป็นอัยการ ส่วนใหญ่ เคยชินกับการนั่งรอคดีอย่างเดียวรอคนมาฟ้องไม่ทำงานเชิงรุก การออกนโยบายประชานิยม ลดแลกแจกแถมถือเป็นการซื้อเสียง ล้วนผิดกฎหมาย เรื่องนี้ทำไม กกต.ไม่ควบคุม ไม่ออกกฎระเบียบคนขี้คุกเผาบ้านเผาเมืองยังมีชื่อในปาร์ตี้ลิสต์จะทำอย่างไร หากวันหนึ่งคนเผาบ้านเผาเมืองได้รับเสียงส่วนใหญ่ได้เป็นรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เผาบ้านเผาเมืองที่ติดคุกอยู่ มารับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งได้อย่างไร
“ในวันอังคารนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะไปยื่นฟ้องต่อ กกต.ด้วยตัวเอง หรือหากไม่ไปจะมอบให้ นายปานเทพ หรือ นายเทพมนตรี ไปก็ได้ คำร้องตนทำไว้เรียบร้อยแล้ว มีภาพ เสียง ข้อความ ชัดเจนสมบูรณ์มาก พรรคเพื่อไทยเตรียมยุบพรรคได้ เมื่อฟังอย่างนี้ยังจะหาว่านายสนธิ ไปจับมือ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ โหวตโนเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกหรือไม่”
นายสุวัตร กล่าวว่า อยากชวนพวกเราถวายคืนพระราชอำนาจด้วยการโหวตโน ทั้งนี้ ตาม มาตรา 3 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ บอกว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของพวกเราจะเลือกใครก็ได้ ใครได้คะแนนสูงสุดคนนั้นได้เป็น ส.ส.” เมื่อเลือกแล้ว พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 82 กำหนดให้นับจำนวนบัตรเลือกตั้ง รวมถึงผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนด้วย ส่วนมาตรา88 กำหนดให้คนได้รับคะแนนมากสุดเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี สมมติ นาย ก.ได้คะแนน 1 แสน แต่หากโหวตโน มีมากกว่า แปลว่า คนส่วนใหญ่ไม่เอานาย ก.กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.นั้นไม่ได้ หน้าที่ของต่อไปของ กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ หากโหวตโนยังมากกว่าอยู่ดี กรณีนี้ไม่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ดี รัฐธรรมนูญมาตรา 7 บอกว่า “เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ก็เหมือนการถวายคืนพระราชอำนาจนั่นเอง
