ปราโมทย์ นาครทรรพ
เรียน กกต.ทั้งห้า ผ่านมล.ประทีป จรูญโรจน์ ที่ปรึกษาฯ
ในฐานะอดีตตุลาการรัฐธรรมนูญรุ่นเก่าที่สุดที่ยังเหลืออยู่ ผมขอส่งต่อบันทึกที่ได้รับและส่งต่อของบุคคลคณะที่มีนามอยู่ในบัญชีตามหนังสือนี้ ผมขอความกรุณาให้ม.ล.ประทีป จรูญโรจน์ นำส่งหนังสือนี้ให้ท่านทั้ง 5 ภายใน 10.00 น.ของวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2554 และผมถือว่าหนังสือนี้มีผลตามกฎหมายเช่นเดียวกับสัญญา IOU ที่เขียนไว้บนเปลือกไข่ ซ้ำเป็นการสื่อสารที่สมบูรณ์ตามกาลสมัยทุกประการ
ผมเห็นด้วยข้อสังเกตทั้งหมดเกี่ยวกับโมฆกรรมของการเลือกตั้ง การละเมิดและบกพร่องหน้าที่ของ กกต.ที่เขียนโดย (1) ท่านยินดี วัชรพงศ์ ต่อสุวรรณ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาคณะเดียวกันกับท่านอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. (2) คณาจารย์กฎหมายนำโดย อ.คมสัน โพธิคง และดร.บรรเจิด สิงคเนติ (3) ทัศนะของนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ทั้งบทความ คำฟ้อง และคำร่วมฟ้องกับทนายอื่นๆ
ผมเห็นว่า กกต.ละเมิดและละเลยหน้าที่ซึ่ง กกต.เองหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางสดศรี สัตยธรรม รายงานว่ามีการซื้อเสียงกันถึง 4-5 หมื่นล้านน่าจะต้องปฏิวัติดีกว่า ผมไม่เห็นด้วยทั้งการปฏิวัติและการละเว้นไม่ปฏิบัติหรือวินิจฉัยโดยพลันตามบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ประกอบฯ
ผมเห็นด้วยกับท่านยินดีว่าการประกาศผลของ กกต.ครั้งที่แล้วและครั้งต่อไปผิดรัฐธรรมนูญและจะนำหายภัยมาสู่ประเทศอย่างรุนแรง ยกเว้นบรรยากาศของการลงคะแนนเลือกตั้งซึ่งดูเหมือนจะเรียบร้อยราบรื่น การเลือกตั้งนับตั้งแต่วันประกาศยุบสภา การรับสมัคร การกำหนดเขต การส่งผู้สมัคร การโฆษณาหาเสียง การซื้อเสียงโดยวิธีการและเทคโนโลยีใหม่ๆ การแทรกแซงโดยหน่วยราชการและรัฐบาลต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะทั้งสิ้น กกต.จะต้องรีบสอบสวนสืบสวนและวินิจฉัยสั่งการโดยพลัน ไม่สมควรถือมิจฉาทิฐิดังคำประกาศของ กกต.นางหนึ่งว่าจะต้องให้เปิดสภาได้ การเปิดสภาและจัดตั้งรัฐบาลมิใช่หน้าที่ของ กกต. หน้าที่หลักของ กกต.คือการจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรม ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งจะไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ควรใช้อำนาจหน้าที่แก้ไขจัดการให้เสร็จสิ้นรู้ดำรู้แดงกันเสียก่อน มิใช่ปัดสวะ ผลัดวันประกันพรุ่ง และยึดถือทฤษฎีอุบาทว์ที่มิได้มีอยู่ในรัฐธรรมนูญหรือบัญญัติกฎหมายว่า ประกาศก่อน-สอยทีหลัง
การดำเนินการในอดีตตามลัทธิอุบาทว์ของ กกต.ชุดนี้ในการงดเว้นไม่พิจารณาวินิจฉัยคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สมัครจังหวัดเชียงรายเป็นเหตุให้นายยงยุทธได้รับการรับรองและได้นั่งบัลลังก์สภาผู้แทนราษฎร อันนำมาซึ่งความเสียหายแก่บ้านเมืองสุดคณานับ ถ้าจะว่ากันโดยเคร่งครัดการกระทำของรัฐบาลและประเทศล้วนแต่โมฆะขาดรากฐานทางนิติธรรม และจริยธรรมทั้งสิ้น ถึงแม้จะปัดสวะไปก่อนแบบประกาศก่อน-สอยทีหลัง แล้วโมเมเลยตามเลยตามสันดานมักได้-มักง่ายของคนไทยที่ กกต.มีส่วนส่งเสริม ได้ทำร้ายหลักนิติธรรมของประเทศชาติมาถึงทุกวันนี้
พร้อมหนังสือนี้ ผมถือโอกาสเตือนให้ กกต.กลับตัวกลับใจ อย่าได้ด่วนทำอะไรลวกๆเป็นการอวดอ้างอำนาจว่าข้าผู้เดียวเท่านั้นทำได้รับผิดชอบได้โดยไม่ฟังคำท้วงติงใดๆ
ผมขออนุญาตเปิดเผยหนังสือนี้เพื่อให้เผยแพร่ไปเป็นข้อมูลและอนุสติแก่สังคมไทย เผื่อว่าคนไทยผู้กล้าหาญที่ถูกตัดสิทธิของตนในการลงคะแนนก็ดี ในการถูกยัดเยียดผู้สมัครและผลของการสมัครที่ผิดกฎหมายผิดรัฐธรรมนูญก็ดี จะได้ลุกขึ้นมาโดยต่างคนต่างทำหรือทำเป็นหมู่เป็นคณะก็ได้ คัดค้านการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ ส่งเสริมการเลือกตั้งที่คดโกงละเมิดกฎหมายเป็นโมฆะ และการปกปิด-บิดเบือน-เชือนเฉยและลุแก่อำนาจของ กกต.ที่มีองค์ประกอบเป็นความผิดฐานทำลาย ถ่วงรั้ง และขัดขวางความยุติธรรมอีกโสดหนึ่งด้วย
อนึ่ง ผมจะส่งจดหมายนี้ไปยังคณะองคมนตรี สำนักงานราชเลขาธิการ ส่วนราชการและองค์การสำคัญอื่นๆ เพื่อจะได้รับรู้และชี้แนะตักเตือนมิให้ กกต.ฝืนกระทำความผิด ทั้งๆ ที่มีคำทักท้วงและหลักฐานมากมายพอเพียงที่จะวินิจฉัยสั่งการคำร้องเรียนกล่าวหาต่างๆ ของการเลือกตั้งให้สิ้นสงสัยเสียก่อนประกาศ
ขอแสดงความนับถือ
นายปราโมทย์ นาครทรรพ
อดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ
เรียน กกต.ทั้งห้า ผ่านมล.ประทีป จรูญโรจน์ ที่ปรึกษาฯ
ในฐานะอดีตตุลาการรัฐธรรมนูญรุ่นเก่าที่สุดที่ยังเหลืออยู่ ผมขอส่งต่อบันทึกที่ได้รับและส่งต่อของบุคคลคณะที่มีนามอยู่ในบัญชีตามหนังสือนี้ ผมขอความกรุณาให้ม.ล.ประทีป จรูญโรจน์ นำส่งหนังสือนี้ให้ท่านทั้ง 5 ภายใน 10.00 น.ของวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2554 และผมถือว่าหนังสือนี้มีผลตามกฎหมายเช่นเดียวกับสัญญา IOU ที่เขียนไว้บนเปลือกไข่ ซ้ำเป็นการสื่อสารที่สมบูรณ์ตามกาลสมัยทุกประการ
ผมเห็นด้วยข้อสังเกตทั้งหมดเกี่ยวกับโมฆกรรมของการเลือกตั้ง การละเมิดและบกพร่องหน้าที่ของ กกต.ที่เขียนโดย (1) ท่านยินดี วัชรพงศ์ ต่อสุวรรณ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาคณะเดียวกันกับท่านอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. (2) คณาจารย์กฎหมายนำโดย อ.คมสัน โพธิคง และดร.บรรเจิด สิงคเนติ (3) ทัศนะของนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ทั้งบทความ คำฟ้อง และคำร่วมฟ้องกับทนายอื่นๆ
ผมเห็นว่า กกต.ละเมิดและละเลยหน้าที่ซึ่ง กกต.เองหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางสดศรี สัตยธรรม รายงานว่ามีการซื้อเสียงกันถึง 4-5 หมื่นล้านน่าจะต้องปฏิวัติดีกว่า ผมไม่เห็นด้วยทั้งการปฏิวัติและการละเว้นไม่ปฏิบัติหรือวินิจฉัยโดยพลันตามบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ประกอบฯ
ผมเห็นด้วยกับท่านยินดีว่าการประกาศผลของ กกต.ครั้งที่แล้วและครั้งต่อไปผิดรัฐธรรมนูญและจะนำหายภัยมาสู่ประเทศอย่างรุนแรง ยกเว้นบรรยากาศของการลงคะแนนเลือกตั้งซึ่งดูเหมือนจะเรียบร้อยราบรื่น การเลือกตั้งนับตั้งแต่วันประกาศยุบสภา การรับสมัคร การกำหนดเขต การส่งผู้สมัคร การโฆษณาหาเสียง การซื้อเสียงโดยวิธีการและเทคโนโลยีใหม่ๆ การแทรกแซงโดยหน่วยราชการและรัฐบาลต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะทั้งสิ้น กกต.จะต้องรีบสอบสวนสืบสวนและวินิจฉัยสั่งการโดยพลัน ไม่สมควรถือมิจฉาทิฐิดังคำประกาศของ กกต.นางหนึ่งว่าจะต้องให้เปิดสภาได้ การเปิดสภาและจัดตั้งรัฐบาลมิใช่หน้าที่ของ กกต. หน้าที่หลักของ กกต.คือการจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรม ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งจะไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ควรใช้อำนาจหน้าที่แก้ไขจัดการให้เสร็จสิ้นรู้ดำรู้แดงกันเสียก่อน มิใช่ปัดสวะ ผลัดวันประกันพรุ่ง และยึดถือทฤษฎีอุบาทว์ที่มิได้มีอยู่ในรัฐธรรมนูญหรือบัญญัติกฎหมายว่า ประกาศก่อน-สอยทีหลัง
การดำเนินการในอดีตตามลัทธิอุบาทว์ของ กกต.ชุดนี้ในการงดเว้นไม่พิจารณาวินิจฉัยคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สมัครจังหวัดเชียงรายเป็นเหตุให้นายยงยุทธได้รับการรับรองและได้นั่งบัลลังก์สภาผู้แทนราษฎร อันนำมาซึ่งความเสียหายแก่บ้านเมืองสุดคณานับ ถ้าจะว่ากันโดยเคร่งครัดการกระทำของรัฐบาลและประเทศล้วนแต่โมฆะขาดรากฐานทางนิติธรรม และจริยธรรมทั้งสิ้น ถึงแม้จะปัดสวะไปก่อนแบบประกาศก่อน-สอยทีหลัง แล้วโมเมเลยตามเลยตามสันดานมักได้-มักง่ายของคนไทยที่ กกต.มีส่วนส่งเสริม ได้ทำร้ายหลักนิติธรรมของประเทศชาติมาถึงทุกวันนี้
พร้อมหนังสือนี้ ผมถือโอกาสเตือนให้ กกต.กลับตัวกลับใจ อย่าได้ด่วนทำอะไรลวกๆเป็นการอวดอ้างอำนาจว่าข้าผู้เดียวเท่านั้นทำได้รับผิดชอบได้โดยไม่ฟังคำท้วงติงใดๆ
ผมขออนุญาตเปิดเผยหนังสือนี้เพื่อให้เผยแพร่ไปเป็นข้อมูลและอนุสติแก่สังคมไทย เผื่อว่าคนไทยผู้กล้าหาญที่ถูกตัดสิทธิของตนในการลงคะแนนก็ดี ในการถูกยัดเยียดผู้สมัครและผลของการสมัครที่ผิดกฎหมายผิดรัฐธรรมนูญก็ดี จะได้ลุกขึ้นมาโดยต่างคนต่างทำหรือทำเป็นหมู่เป็นคณะก็ได้ คัดค้านการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ ส่งเสริมการเลือกตั้งที่คดโกงละเมิดกฎหมายเป็นโมฆะ และการปกปิด-บิดเบือน-เชือนเฉยและลุแก่อำนาจของ กกต.ที่มีองค์ประกอบเป็นความผิดฐานทำลาย ถ่วงรั้ง และขัดขวางความยุติธรรมอีกโสดหนึ่งด้วย
อนึ่ง ผมจะส่งจดหมายนี้ไปยังคณะองคมนตรี สำนักงานราชเลขาธิการ ส่วนราชการและองค์การสำคัญอื่นๆ เพื่อจะได้รับรู้และชี้แนะตักเตือนมิให้ กกต.ฝืนกระทำความผิด ทั้งๆ ที่มีคำทักท้วงและหลักฐานมากมายพอเพียงที่จะวินิจฉัยสั่งการคำร้องเรียนกล่าวหาต่างๆ ของการเลือกตั้งให้สิ้นสงสัยเสียก่อนประกาศ
ขอแสดงความนับถือ
นายปราโมทย์ นาครทรรพ
อดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ
