xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"อัดพท.แก้รธน.ล้างผิด"แม้ว"สร้างปัญหาแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"มาร์ค" อัด"เพื่อไทย" อ้างรัฐธรรมนูญปี 40 บังหน้าหวังผลนิรโทษกรรมให้"แม้ว" ชี้ล้มล้างคำพิพากษาของศาล มีปัญหาแน่ เหน็บเอาเสียงประชาชน-คะแนนนิยมลบล้างความผิดให้คนคนเดียวไม่ถูกหลัก ควรเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชนดีกว่า "ชวน" แนะหากจะแก้รธน. ต้องมีองค์กรกลาง รวมตัวแทนทุกฝ่าย ยกเครื่องใหม่ทั้งฉบับ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเคลื่อนไหวเสนอให้มีการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยหยิบรัฐธรรมนูญปี 2540 ขึ้นมาพิจารณาด้วย ว่า การที่เสนอให้หยิบรัฐธรรมนูญปี 2540 ขึ้นมา ตนมองว่าไม่มีเหตุผล เพราะเราอยากจะปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญอย่างไร สภาสามารถดำเนินการได้ ทำไมเราถึงต้องมาจำกัดสิทธิของประชาชนคนไทยว่า ต้องยึดอยู่กับฉบับใดฉบับหนึ่ง ทุกฉบับมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน สามารถที่จะปรับปรุงกันไปได้

"ผมคิดว่าคนที่จะเอารัฐธรรมนูญปี 40 มา มีเป้าหมายอย่างเดียวคือ ต้องการล้มล้างบางมาตราของรัฐธรรมนูญปี 50 หวังว่าจะให้เกิดการนิรโทษกรรม ถ้าจะทำอย่างนั้นมันไม่ถูกต้อง อย่าเอาเรื่องรัฐธรรมนูญมาอ้าง ถ้าอยากจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมันสามารถทำได้อยู่แล้ว ในเนื้อหาสาระที่ต้องการจะแก้ไข" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

แก้รธน.ล้างคำพิพากษาวุ่นวายแน่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำไมต้องไปจำกัดตัวเองอยู่กับรัฐธรรมนูญปี 40 ในเมื่อรัฐธรรมนูญปี 40 ทุกพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคไทยรักไทย เคยบอกว่าจะต้องแก้ไขกันครั้งใหญ่ หลังจากที่เกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะช่วงปี 49-50 ชัดเจน และในบทบัญญัติเราก็เห็นชัด จำกัดสิทธิคนไม่จบปริญญาไม่ให้สมัครผู้แทนอะไรต่างๆ ทำไมต้องไปยึดกับสิ่งเหล่านั้น ฉะนั้นถ้าอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นไหนที่เห็นว่ายังไม่เป็นประชาธิปไตย จะต้องปรับปรุงก็ว่ากันไปตามปกติ

"การที่จะพยายามลบล้างคำพิพากษาของศาล เป็นปัญหาแน่สำหรับสังคม ผมยืนยันว่า อย่าไปทำเลย วันนี้พรรคเพื่อไทยได้รับฉันทานุมัติให้เข้ามาเร่งผลักดันนโยบายต่างๆ แก้ปัญหาที่ประชาชนมีความคาดหวังเดินต่อไป ถ้าเอาเรื่องพวกนี้เข้ามา การทำงานจะมีแต่ปัญหา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะสามารถก้าวข้ามผลประโยชน์ของพี่ชายตัวเองได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องทำให้ได้ เมื่อถามอีกว่าจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ต่อมาตรา 279 เป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันไม่มีประเด็นอะไรแล้ว ถ้าอยากจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ก็ต้องพูดกันให้ชัดว่าประเด็นไหนที่ยังติดใจอยู่ การไปพูดถึงรัฐธรรมนูญปี 40 ปี 50 ตนไม่เข้าใจว่าจะมีหลักคิดในแง่ของเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเอาประชามติมาเป็นตัวหักล้างทุกอย่าง คิดว่าจะเกิดปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากย้ำในระบบการบริหารบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตย อำนาจของแต่ละฝ่าย นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ จะกำหนดบทบาท ขอบเขต อำนาจ หน้าที่ เอาไว้ และคานซึ่งกันและกัน การทำอะไรที่มันถูก-ผิด กฎหมาย เป็นเรื่องที่ฝ่ายตุลาการเป็นผู้ตัดสิน ความพยายามที่จะเอาเสียงของประชาชน หรือคะแนนนิยมต่างๆ มาเพื่อลบล้าง มันไม่ถูกหลัก ไม่อย่างนั้นต่อไปนี้หมายความว่า ใครที่ประชาชนนิยมก็ทำผิดกฎหมายได้อย่างนั้นหรือ ซึ่งมันไมใช่หลักของการดูแลให้เกิดมาตรฐานหลักของบ้านเมือง

เมื่อถามว่าในทางกฎหมายสามารถที่จะแก้รัฐธรรมนูญ หรือออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อลบล้างคำพิพากษาของศาลได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังนึกไม่ออก ต้องดูว่าคนที่คิดจะเสนอรูปแบบไหน อย่างไร และเป็นไปได้จริงหรือเปล่า

เมื่อถามต่อว่าหากนำไปสู่ภาวะนั้นจริงๆ อะไรจะเกิดภายในประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเราก็สร้างปัญหาให้กับตัวเอง ทำไมเราไม่ก้าวให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้ และเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

เมื่อถามอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่เข้าใจว่า ถ้าจะยกร่างกันทั้งฉบับ ทำไมต้องไปถามเรื่องรัฐธรรมนูญปี 40 ปี 50

"แม้ว"ก็ได้ประโยชน์จากรธน.50

กรณีที่บางส่วนมองว่ารัฐธรรมนูญปี 50 เป็นผลพวงมาจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตรงไหนที่เป็นปัญหาแก้ได้ ทำไมต้องบอกว่าให้กลับไปที่รัฐธรรมนูญปี 40 ในเมื่อของปี 40 ขอย้ำว่า ทุกพรรคการเมืองรวมทั้งพรรคไทยรักไทย เคยแถลงต่อสาธาารณะว่า จะต้องรื้อทั้งฉบับด้วย

เมื่อถามย้ำว่ามีการให้เหตุผลว่า เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 มาจากรากเหง้าเผด็จการทหาร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชาชนเองยอมรับรัฐธรรมนูญปี 50 ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้ง กติกาไหนในรัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง ก็ไม่เห็นเขาติดใจเลย แต่ตรงไหนที่ไม่พอใจ ก็ไปอ้างว่ามาจากคมช. มันคงไม่ใช่

เมื่อถามว่า จะกลายเป็นประเพณีเลยหรือไม่ เมื่อฝ่ายไหนเข้ามา ต้องแก้รัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องแก้เป็นประเพณี แต่เป็นเรื่องของเนื้อหาสาระที่จะต้องแก้ไข ตอนที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์แก้ไข มีแค่ 2 เรื่อง คือ มาตรา 190 ซึ่งทุกฝ่ายมองตรงกันว่ามีปัญหาทางเทคนิค และเรื่องระบบเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องสากล

รธน.ไม่ผิด ผิดที่ผู้ปฏิบัติ

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พวกตนเห็นตรงกันว่า ตอนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งสุดท้าย ตนยังมีความเห็นว่าอยากให้พิจารณาทั้งฉบับ โดยมีองค์กร หรือชุดของคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบไปด้วยบุคคลหลายฝ่าย ผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ เข้ามาพิจารณา แม้กระทั่งนักการเมือง ก็อย่าไปตั้งข้อรังเกียจต้องดึงมาร่วมด้วย ส่วนทฤษฎีก็ต้องอาศัยนักวิชาการ ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 3-6 เดือน

นายชวน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญต้องเป็นโครงสร้างหลักที่เรายึดตามการปกครองของระบบรัฐสภา เราเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และตามหลักสากลฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ จะมีการคานอำนาจกัน ดังนั้นเรื่องนี้อย่าไปถือว่าเป็นเรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง ต้องมีคณะบุคคลที่รอบรู้หลากหลาย และเชื่อมั่นในระบบนี้ ไม่ให้รัฐธรรมนูญไขว้เขว้

"ผมคิดว่าเรื่องประชามติ ไม่ได้มีความจำเป็น แต่ต้องอาศัยคนที่ความรอบรู้ กว้างขวางเป็นตัวแทนของประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมพิจารณา และควรจะมองให้สมบูรณ์ทั้งฉบับดีกว่า" นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเจตนาชัดเจนว่า จะเอารัฐธรรมนูญปี 40กลับมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคดีความต่างๆ นายชวน กล่าวว่า เราจะไม่พูดเรื่องผลของคดี เพราะไม่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนก็ตาม ไม่ควรจะเป็นผลกระทบต่อคดีที่เกิดขึ้น และต้องไปดูว่าใครที่คิดที่จะเอากฎหมายรัฐธรรมนูญมาล้มล้างความผิดในอดีตของบุคคล ต้องไปถามคนคิดสิ่งเหล่านี้ว่าเอาหลักอะไรมา

เมื่อถามว่านายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พูดชัดเจนว่า การยกเลิกมาตรา 309 ก็จะส่งผลเรื่องของคดี รวมถึงการยกเลิก มาตรา 237 ก็จะทำให้พรรคการเมืองไม่ต้องถูกยุบ นายชวน กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้น เป้าหมายการแก้รัฐธรรมนูญก็เพื่อผลประโยชน์ของพรรค ไม่ใช่เพื่อส่วนรวม

" ถ้ามองประโยชน์ตัวเอง ก็จะทำให้เกิดวิกฤติรอบใหม่ได้" นายชวน กล่าว

"เทือก"บอกได้คืบจะเอาศอก

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยังประชุมสภาไม่ได้เลย ทำทีละขั้น อย่าคิดไกล คิดข้ามช็อตไปมากเหลือเกิน ทำทีละขั้นบ้านเมืองจะได้ไม่สับสน

"เรื่องแก้รัฐธรรมนูญอย่าไปโยงมาก เรายังไม่เห็นเนื้อหาว่าเขาแก้อะไร เรายังไปวิพากษ์วิจารณ์เขาอีก เราก็จะกลายเป็นคนบ้าไปเท่านั้น" นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ที่ท่านเคยพูดไว้ว่าหลังจากนี้ บ้านเมืองจะสงบ และมีทิศทางไปในทางที่ดี แต่ดูเหมือนว่าน่าจะไม่ใช่อย่างนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังภาวนาให้สงบอยู่ ยังภาวนาอยู่ และท่านเจ้าพระคุณทั้งหลายที่เคยอาละวาด ทำลายบ้านเมือง หยุดได้แล้ว ตอนนี้ได้สมปรารถนาแล้ว จะเอาอะไรกันอีก

พธม.รอให้มีความชัดเจนก่อน

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พันธมิตรฯ มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาตั้งแต่การเคลื่อนไหวเมื่อปี 2551 ดังนั้นจึงเห็นว่าไม่ควรฉีกรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วกลับมาใช้ฉบับปี 40 เพื่อฟอกความผิดทั้งในการเลือกตั้ง หรือในทางคดีอาญา

อย่างไรก็ตาม เห็นว่าตอนนี้มีเพียงการปล่อยข่าวในลักษณะโยนหินถามทางมากกว่า จึงไม่มีความจำเป็นที่พันธมิตรฯ ต้องออกมาแสดงท่าทีในขณะนี้

"ไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยมีเหตุผลอย่างไรจึงออกมาเสนอให้มีการทำประชามติอีก เพราะจากท่าทีในอดีตต่อการแก้รัฐธรรมนูญที่บางครั้งบอกว่าจะนำรัฐธรรมนูญ ปี 40 มาใช้ หรือบางครั้งก็จะออกประชามติ หรือแม้แต่เมื่อปี 49 ก็เป็นผู้ออกมาพูดเองว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 40 ใหม่ สถานการณ์ในตอนนี้จึงยังไม่นิ่ง ภายในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้แสดงจุดยืนที่เป็นเอกภาพ คงต้องรอให้พรรคเพื่อไทย มีเอกภาพก่อน พันธมิตรฯ จึงจะแสดงท่าที ถึงเวลานั้นก็คงยังไม่สายเกินไป" นายปานเทพ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น