ประธานสภาที่ปรึกษาประชาธิปัตย์ แนะตั้งกรรมการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 อย่างรอบคอบ ชี้ยังไม่ใช่เรื่องด่วน ยันประชามติไม่จำเป็น ย้ำปัญหาอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ ถาม “นช.แม้ว” จะเอาหลักอะไรมาล้มล้างคดี ซัดส่อทำเพื่อตัวเอง อาจเกิดวิกฤตรอบใหม่
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ รพ.รามาธิบดี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเสนอให้มีการทำประชามติเปรียบเทียบระหว่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 และ 50 ว่า เรื่องนี้แล้วแต่ความเห็น แต่พวกตนเห็นตรงกันว่าตอนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งสุดท้ายตนยังมีความเห็นว่าอยากให้พิจารณาทั้งฉบับ โดยมีองค์กรหรือชุดของคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบไปด้วยบุคคลหลายฝ่าย ผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ เข้ามาพิจารณา แม้กระทั่งนักการเมืองก็อย่าไปตั้งข้อรังเกียจต้องดึงมาร่วมด้วย ส่วนทฤษฎีก็ต้องอาศัยนักวิชาการเพราะเขาอาจจะทำให้รัฐธรรมนูญสั้นลงและมีความสมบูรณ์ขึ้น เพราะเรามีบทเรียนมา 79 ปี เลือกตั้งมา 20 ครั้ง มีรัฐบาลมา 50 กว่าชุด น่าจะมีข้อสรุปว่าภาพรวมของบ้านเมืองเป็นอย่างไร ทั้งนี้ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 3-6 เดือน
นายชวนกล่าวว่า แต่รัฐธรรมนูญต้องเป็นโครงสร้างหลักที่เรายึดตามการปกครองของระบบรัฐสภา เราเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และวัฒนธรรมของปกครองแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรามีเป็นพันปีแล้ว และตามหลักสากลฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการจะมีการคานอำนาจกัน ดังนั้น เรื่องนี้อย่าไปถือว่าเป็นเรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง ต้องมีคณะบุคคลที่รอบรู้หลากหลายและเชื่อมั่นในระบบนี้ ไม่ให้รัฐธรรมนูญไขว่เขว้
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญทั้งฉบับใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องประชามติไม่ได้มีความจำเป็น แต่ต้องอาศัยคนที่ความรอบรู้ กว้างขวางเป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมพิจารณา และควรจะมองให้สมบูรณ์ทั้งฉบับดีกว่า อย่าไปมองเฉพาะเรื่อง แต่อย่าไปเข้าใจว่าตัวรัฐธรรมนูญมีปัญหาทั้งหมดเพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายหลักปกครองบ้านเมืองย่อมมีความสำคัญ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเพราะผู้ปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่วิกฤตที่สุดในโลกในยุคระบอบทักษิณก็ไม่ใช่ตัวรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญอาจจะเปิดช่องให้ผู้ปฏิบัติใช้อำนาจมากก็จริง แต่สาเหตุสำคัญคือ ตัวผู้ปฏิบัติเพราะรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนี้ไม่ได้ใช้รัฐบาลเดียว แต่อย่างน้อย 2 รัฐบาล แต่กลับปรากฏว่าผลที่เกิดขึ้นจึงต่างกัน นั่นเป็นเพราะพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติ
เมื่อถามว่า ขณะนี้ดูเหมือนจะกลับไปสู่ปัญหาเดิม คือ คนที่มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ส่วนตัว นายชวนกล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่ตนมองในเชิงโครงสร้างของบ้านเมืองที่ควรจะเป็นและกฎหมายหลักที่ควรจะเป็น ไม่ใช่กฎหมายเล็กที่ใครมาก็ต้องมาแก้ทีหนึ่ง
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย มีเจตนาชัดเจนว่าจะเอารัฐธรรมนูญปี 40 กลับมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคดีความต่างๆ นายชวนกล่าวว่า เราจะไม่พูดเรื่องผลของคดี เพราะไม่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนก็ตาม ไม่ควรจะเป็นผลกระทบต่อคดีที่เกิดขึ้น และต้องไปดูว่าใครที่คิดที่จะเอากฎหมายรัฐธรรมนูญมาล้มล้างความผิดในอดีตของบุคคล ต้องไปถามคนคิดสิ่งเหล่านี้ว่าเอาหลักอะไรมา
เมื่อถามว่า นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพือไทย พูดชัดเจนว่าการยกเลิกมาตรา 309 ก็จะส่งผลเรื่องของคดี รวมถึงการยกเลิกมาตรา 237 ก็จะทำให้พรรคการเมืองไม่ต้องถูกยุบ นายชวนกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายการแก้รัฐธรรมนูญก็เพื่อผลประโยชน์ของพรรค ไม่ใช่เพื่อส่วนรวม
เมื่อถามว่า คิดว่าจะเป็นวิกฤติรอบใหม่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ถ้ามองประโยชน์ตัวเองก็จะทำให้เกิดวิกฤติรอบใหม่ได้ แต่นี่เรามองประโยชน์ของการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นมาตรฐานเป็นหลัก ของการปกครองบ้านเมือง
เมื่อถามว่า คิดว่าเสียงที่พูดมานั้นว่าจะแก้รัฐธรรมนูญต้องแก้ทั้งฉบับพรรคเพื่อไทยจะรับหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้สนใจ
เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 50 มาจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำให้ยอมรับไมได้ คิดว่ามีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ต้องไปถามเขา ทั้งนี้ บทบาทของพรรคพรรคประชาธิปัตย์ที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญนั้นจะเป็นอย่างไร คงต้องไปถามกรรมการบริหารพรรค ตนพูดในฐานะความเห็นส่วนตัว และอาจจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ใช้รัฐธรรมนูญมามากกว่าใครเพื่อน