เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (12 ก.ค) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินลงจากห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อพบกับสื่อมวลชนที่ดักรอสัมภาษณ์ถึงกับเอ่ยปากว่า “ไชโย ครั้งสุดท้ายแล้ว” ขณะที่สื่อมวลชนถามว่า ดีใจจริงหรือ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า “ดีใจ” ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนหวังว่าภายในเดือนสิงหาคมจได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ อยากให้เร็ว เพราะไม่อยากให้มีช่องว่างนานเกินไป ครม.ชุดใหม่จะได้เข้ามาทำงาน และเดินหน้าตามนโยบายของเขา ทั้งนี้ในที่ประชุมครม.ตนยังได้แสดงความยินดีสำหรับรัฐมนตรีบางท่านที่จะได้กลับมาทำงานต่อ สำหรับตนเองการประชุมครม.นัดนี้ ถือเป็นการประชุมตามปกติ ซึ่งในช่วงท้ายได้ถือโอกาสขอบคุณเพื่อนรัฐมนตรีที่ได้ร่วมงานกันมา และขอบคุณผู้บริหารและข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการที่อำนวยความสะดวก และไม่รู้สึกใจหายที่เป็นการประชุมครม.ครั้งสุดท้าย เพราะการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต้องมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เมื่อถามว่า การประชุมครม.133 ครั้งกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 ปีกว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยรวมเรียบร้อยดี ตนได้ทุ่มเทเอาใจใส่ทุกเรื่องที่เข้ามาสู่การพิจารณาของครม. และมั่นใจว่า 133 ครั้ง ทุกเรื่องที่ผ่านไป ได้ผ่านการพิจารณาอย่างดี และหวังว่าหลายเรื่องที่ผ่านไปจะเดินหน้าต่อได้ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งมีนโยบายหลายเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่สานต่อ และมีเรื่องใหญ่ๆ ที่อาจจะมองต่างกัน อย่างเรื่องการประกันรายได้ ตนอยากให้ดำเนินการต่อ ส่วนโครงการอื่นๆ เข้าใจว่า จะสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรได้แตกต่างกัน
**ขรก.ทำเนียบแห่มอบดอกไม้-ขอลายเซ็น
ก่อนหน้านั้น เวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้าย โดยก่อนการประชุมนายอภิสิทธิ์เดินทางไปตรวจเยี่ยมอาคารสำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรี (สลค.) ที่ทำการปรับปรุงทาสีใหม่ และนายอภิสิทธิ์ได้ตัดริบบิ้นเปิดอาคาร สลค. โดยมีนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีคอยให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ได้บรรดาข้าราชการประจำทำเนียบรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ทำเนียบหญิงได้นำดอกไม้มามอบให้กับนายกฯและขอถ่ายรูปร่วม และขอลายเซ็นนายกฯ เป็นจำนวนมากและขอลายเซ็นเป็นที่ระลึก ซึ่งมีทั้งคนที่ขอให้เซ็นบนหน้าปกวารสาร สลค.ที่เป็นรูปนายอภิสิทธิ์ มีข้อความว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 27 และขอให้เซ็นที่ด้านหลังเสื้อและเฝือกข้อมือ นอกจากนี้ เลขาธิการครม.ได้มอบของที่ระลึกแก่นายอภิสิทธิ์ เป็นรูปที่นายอภิสิทธิ์ยืนแถลงข่าวในฐานะนายกรัฐมนตรี บนโพเดี่ยมหน้าตึกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างไรก็ตาม การมาเยี่ยมชมตึก สลค.ของนายอภิสิทธิ์ในวันนี้(12 ก.ค.) ถือเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พร้อมกันนี้นายอภิสิทธิ์ยังไปที่ห้องสำหรับประกาศพระลัญจกร ตึกสำนักสลค. เพื่อลงนามประกาศสำนักสงฆ์ชั้นสมเด็จพระราชาคณะวัดสุทัศน์เทพวราราม ทั้งนี้ห้องดังกล่าวจะเป็นห้องที่ใช้สำหรับการอัญเชิญพระบรมราชโองการฯ ไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อประทับตราพระราชลัญจกร แล้วอัญเชิญพระบรมราชโองการฯ หนังสือสำคัญทางราชการของแผ่นดิน
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้าย พร้อมกับเปิดให้ช่างภาพบันทึกภาพ ซึ่งการประชุมครม.ครั้งนี้นายกรณ์ จาติกวานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้ร่วมประชุมครม.
**ยินดีรมต.บางคนได้ทำงานกับรบ.ชุดใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงบรรยากาศในที่ประชุมครม.ครั้งสุดท้าย ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกคน ที่ได้ทำงานร่วมกันมาได้ด้วยดี ซึ่งนายอภิสิทธิ์เห็นว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยากหลายปัญหาก็ได้ลุล่วงไปได้ด้วยดี และได้ขอบคุณครม.ที่ได้ร่วมมือกันในการริเริ่มมาตรการและนโยบายสำคัญหลายประการ เช่น การประกันรายได้ และนายอภิสิทธิ์ยังให้กำลังใจและแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีบางคนที่จะได้กลับเข้ามาทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และข้าราชการที่มาช่วยราชการด้วย
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมนายกรัฐมนตรี และได้กล่าวว่า ในการทำงานร่วมกับท่านนายกรัฐมนตรีนั้น ท่านนายกฯได้รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ จากครม.อยู่เสมอ พล.ต.สนั่น ยังชื่นชมการทำงานและให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ ในการนำพรรคประชาธิปัตย์กลับเข้ามาทำงานทางการเมืองอีก และยังกล่าวด้วยว่าพร้อมที่จะร่วมงานกับนายอภิสิทธิ์อีก จากนั้นก็ได้อวยพรให้กับนายอภิสิทธิ์ โดยบรรยากาศในห้องประชุมครม.ได้มีการถ่ายรูป ตบมือให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ ก่อนการปิดประชุมด้วย
**งานสุดท้ายบอกยังห่วงปัญหาน้ำท่วม
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ว่า ขณะนี้น้ำลดแล้วเป็นบางส่วน แต่ยังเหลือที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดพิจิตรที่น้ำยังท่วมอยู่ แต่เท่าที่ตรวจสอบไม่ได้เข้าในพื้นที่ชุมชน ส่วนตนจะลงพื้นที่หรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่มีประเด็นอะไร แต่หากมีความจำเป็นก็จะไป เพราะเห็นว่า 2-3 วันข้างหน้าก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ ทั้งนี้ ที่วันนี้แม่น้ำยมทะลักเข้าไปในพื้นที่ จ.พิจิตร ก็พึ่งมีรายงานเข้ามา และที่จ.พิษณุโลกน้ำก็ลดแล้ว โดยความเหลือเพิ่มเติมนั้น ทางจังหวัดกำลังดำเนินการอยู่
**เทือกโบ้ยสื่อปัดชง“กรณ์”นั่งเลขาฯพรรค
อีกด้าน ความคืบหน้าในการเปิดประชุมพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมีกระแสข่าวกลุ่มส.ส.ภาคใต้ค้าน นายอภิสิทธฺ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค และยังค้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับมาเป็นลขาธิการพรรค ขณะที่ล่าสุดมีชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กับนายกรณ์ จาติกวณิช มีชื่อลุ้นตำแหน่งดังกล่าว
โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะเสนอนายกรณ์ จาติกวณิช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคกทม.ขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่า ตนหนักใจสื่อมาก ที่สื่อสารผิด ที่ผ่านมามีการมาถามตนเห็นสมควรให้ใครเป็นเลขาธิการพรรค ตนได้ตอบว่า หัวใจยังว่าง ยังไม่ได้คิดถึงใคร แล้วสื่อมวลชนสอบถามอีกว่านายกรณ์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มีความเหมาะสมเป็นเลขาธิการพรรคได้หรือไม่ ตนก็บอกว่าเหมาะสมทั้งนั้น พูดเท่านี้ จากนั้นก็พากันพาดหัวว่าตนสนับสนุนนายกรณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อแสดงเจตนาว่าลาออกแล้วกลับมารับตำแหน่งจะขัดกันหรือไม่ เพราะสมัยที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ลาออกจากหัวหน้าพรรค ในพรรคก็กีดกันไม่ยอมให้กลับมา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องของการยอมหรือไม่ยอม นายบัญญัติ ได้แสดงเจตนารมณ์ที่ต้องการลาออกจากหัวหน้าพรรค และไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก ส่วนคราวนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคแสดงเจตนารมณ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว เป็นเรื่องของคนในพรรคที่จะต้องมาปรึกษาหารือกันว่าจะให้ใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อคุยกันคนส่วนใหญ่ที่มีเสียงเป็นเอกฉันท์
“ได้ยินทุกคนบอกว่าต้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการประชุมใหญ่ของพรรค ก็ย่อมมีเสียงวิจารณ์ไปต่างๆนานา และตนนั้นก็ได้บอกชัดแล้วว่าจะไม่กลับไปรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีก ไม่ว่าใครจะสนับสนุนอย่างไรก็ไม่กลับ กับหัวหน้าพรรคตนก็บอกไปชัดเจนแล้วว่าจะไม่กลับไป” นายสุเทพกล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวแซวว่า หากไม่กลับมาเป็นเลขาธิการพรรค วอลเปเปอร์ (นายศิริโชค โสภา) จะมาเป็นแทน นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ มาก็ดีซิ นายกฯชอบวอลเปเปอร์”
**ปชป.ถกว่าที่สส.วันนี้หนุน“มาร์ค” รีเทิร์น
น.พ.บุรณย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคปชป. กล่าวว่า ในวันพุธที่ 13 ก.ค.นี้ พรรคจะจัดการประชุมพบปะว่าที่ส.ส.ใหม่ ที่โรงแรงโฟร์ซีซัน จากนั้นวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ จะประชุมเพื่อกำหนดกระบวนการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ส่วนจะเลือกวันไหนเป็นดุลพินิจของรักษาการกรรมการบริหารพรรค แต่เชื่อว่าจะได้ชุดใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนบุคลากรที่จะมาทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ระบบของพรรคเป็นสถาบันการเมือง จะให้ที่ประชุมใหญ่ของพรรค ทั้งส.ส. สาขาพรรค และสมาชิก เป็นผู้ตัดสิน ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของพรรคตลอดเวลาที่ผ่านมา ยึดถือประโยชน์ประเทศและประชาชน การตัดสินใจแสดงรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค เป็นการรักษาบรรทัดฐานที่ดีทางการเมือง และเชื่อว่ากระบวนการของพรรคจะสามารถทำให้ผู้ที่ลาออกไป กลับมาบริหารใหม่ได้อีกในอนาคต
“เพราะทั้งนายอภิสิทธิ์ตอนเป็นนายกฯ และนายสุเทพตอนเป็นรองนายกฯ ได้แสดงความสามารถแก้ปัญหาช่วงมีความรุนแรงการเมืองทั้งที่ถูกปองร้ายไล่ล่าเอาชีวิต แต่ได้มุ่งมั่นทำงานได้สมเกียรติศักดิ์ศรี การที่นายสุเทพแสดงความตั้งใจไว้ว่าจะไม่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีก ก็ยังมีเวลา และสมาชิกพรรคก็จะรู้สึกเสียใจ หากท่านประสงค์ไม่รับตำแหน่ง แต่ก็เชื่อว่าทั้งสองท่านจะเปิดกว้างรับความเห็นสมาชิกพรรค” นพ.บุรรัชย์ กล่าว .
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนหวังว่าภายในเดือนสิงหาคมจได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ อยากให้เร็ว เพราะไม่อยากให้มีช่องว่างนานเกินไป ครม.ชุดใหม่จะได้เข้ามาทำงาน และเดินหน้าตามนโยบายของเขา ทั้งนี้ในที่ประชุมครม.ตนยังได้แสดงความยินดีสำหรับรัฐมนตรีบางท่านที่จะได้กลับมาทำงานต่อ สำหรับตนเองการประชุมครม.นัดนี้ ถือเป็นการประชุมตามปกติ ซึ่งในช่วงท้ายได้ถือโอกาสขอบคุณเพื่อนรัฐมนตรีที่ได้ร่วมงานกันมา และขอบคุณผู้บริหารและข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการที่อำนวยความสะดวก และไม่รู้สึกใจหายที่เป็นการประชุมครม.ครั้งสุดท้าย เพราะการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต้องมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เมื่อถามว่า การประชุมครม.133 ครั้งกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 ปีกว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยรวมเรียบร้อยดี ตนได้ทุ่มเทเอาใจใส่ทุกเรื่องที่เข้ามาสู่การพิจารณาของครม. และมั่นใจว่า 133 ครั้ง ทุกเรื่องที่ผ่านไป ได้ผ่านการพิจารณาอย่างดี และหวังว่าหลายเรื่องที่ผ่านไปจะเดินหน้าต่อได้ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งมีนโยบายหลายเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่สานต่อ และมีเรื่องใหญ่ๆ ที่อาจจะมองต่างกัน อย่างเรื่องการประกันรายได้ ตนอยากให้ดำเนินการต่อ ส่วนโครงการอื่นๆ เข้าใจว่า จะสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรได้แตกต่างกัน
**ขรก.ทำเนียบแห่มอบดอกไม้-ขอลายเซ็น
ก่อนหน้านั้น เวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้าย โดยก่อนการประชุมนายอภิสิทธิ์เดินทางไปตรวจเยี่ยมอาคารสำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรี (สลค.) ที่ทำการปรับปรุงทาสีใหม่ และนายอภิสิทธิ์ได้ตัดริบบิ้นเปิดอาคาร สลค. โดยมีนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีคอยให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ได้บรรดาข้าราชการประจำทำเนียบรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ทำเนียบหญิงได้นำดอกไม้มามอบให้กับนายกฯและขอถ่ายรูปร่วม และขอลายเซ็นนายกฯ เป็นจำนวนมากและขอลายเซ็นเป็นที่ระลึก ซึ่งมีทั้งคนที่ขอให้เซ็นบนหน้าปกวารสาร สลค.ที่เป็นรูปนายอภิสิทธิ์ มีข้อความว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 27 และขอให้เซ็นที่ด้านหลังเสื้อและเฝือกข้อมือ นอกจากนี้ เลขาธิการครม.ได้มอบของที่ระลึกแก่นายอภิสิทธิ์ เป็นรูปที่นายอภิสิทธิ์ยืนแถลงข่าวในฐานะนายกรัฐมนตรี บนโพเดี่ยมหน้าตึกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างไรก็ตาม การมาเยี่ยมชมตึก สลค.ของนายอภิสิทธิ์ในวันนี้(12 ก.ค.) ถือเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พร้อมกันนี้นายอภิสิทธิ์ยังไปที่ห้องสำหรับประกาศพระลัญจกร ตึกสำนักสลค. เพื่อลงนามประกาศสำนักสงฆ์ชั้นสมเด็จพระราชาคณะวัดสุทัศน์เทพวราราม ทั้งนี้ห้องดังกล่าวจะเป็นห้องที่ใช้สำหรับการอัญเชิญพระบรมราชโองการฯ ไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อประทับตราพระราชลัญจกร แล้วอัญเชิญพระบรมราชโองการฯ หนังสือสำคัญทางราชการของแผ่นดิน
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้าย พร้อมกับเปิดให้ช่างภาพบันทึกภาพ ซึ่งการประชุมครม.ครั้งนี้นายกรณ์ จาติกวานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้ร่วมประชุมครม.
**ยินดีรมต.บางคนได้ทำงานกับรบ.ชุดใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงบรรยากาศในที่ประชุมครม.ครั้งสุดท้าย ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกคน ที่ได้ทำงานร่วมกันมาได้ด้วยดี ซึ่งนายอภิสิทธิ์เห็นว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยากหลายปัญหาก็ได้ลุล่วงไปได้ด้วยดี และได้ขอบคุณครม.ที่ได้ร่วมมือกันในการริเริ่มมาตรการและนโยบายสำคัญหลายประการ เช่น การประกันรายได้ และนายอภิสิทธิ์ยังให้กำลังใจและแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีบางคนที่จะได้กลับเข้ามาทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และข้าราชการที่มาช่วยราชการด้วย
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมนายกรัฐมนตรี และได้กล่าวว่า ในการทำงานร่วมกับท่านนายกรัฐมนตรีนั้น ท่านนายกฯได้รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ จากครม.อยู่เสมอ พล.ต.สนั่น ยังชื่นชมการทำงานและให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ ในการนำพรรคประชาธิปัตย์กลับเข้ามาทำงานทางการเมืองอีก และยังกล่าวด้วยว่าพร้อมที่จะร่วมงานกับนายอภิสิทธิ์อีก จากนั้นก็ได้อวยพรให้กับนายอภิสิทธิ์ โดยบรรยากาศในห้องประชุมครม.ได้มีการถ่ายรูป ตบมือให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ ก่อนการปิดประชุมด้วย
**งานสุดท้ายบอกยังห่วงปัญหาน้ำท่วม
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ว่า ขณะนี้น้ำลดแล้วเป็นบางส่วน แต่ยังเหลือที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดพิจิตรที่น้ำยังท่วมอยู่ แต่เท่าที่ตรวจสอบไม่ได้เข้าในพื้นที่ชุมชน ส่วนตนจะลงพื้นที่หรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่มีประเด็นอะไร แต่หากมีความจำเป็นก็จะไป เพราะเห็นว่า 2-3 วันข้างหน้าก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ ทั้งนี้ ที่วันนี้แม่น้ำยมทะลักเข้าไปในพื้นที่ จ.พิจิตร ก็พึ่งมีรายงานเข้ามา และที่จ.พิษณุโลกน้ำก็ลดแล้ว โดยความเหลือเพิ่มเติมนั้น ทางจังหวัดกำลังดำเนินการอยู่
**เทือกโบ้ยสื่อปัดชง“กรณ์”นั่งเลขาฯพรรค
อีกด้าน ความคืบหน้าในการเปิดประชุมพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมีกระแสข่าวกลุ่มส.ส.ภาคใต้ค้าน นายอภิสิทธฺ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค และยังค้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับมาเป็นลขาธิการพรรค ขณะที่ล่าสุดมีชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กับนายกรณ์ จาติกวณิช มีชื่อลุ้นตำแหน่งดังกล่าว
โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะเสนอนายกรณ์ จาติกวณิช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคกทม.ขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่า ตนหนักใจสื่อมาก ที่สื่อสารผิด ที่ผ่านมามีการมาถามตนเห็นสมควรให้ใครเป็นเลขาธิการพรรค ตนได้ตอบว่า หัวใจยังว่าง ยังไม่ได้คิดถึงใคร แล้วสื่อมวลชนสอบถามอีกว่านายกรณ์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มีความเหมาะสมเป็นเลขาธิการพรรคได้หรือไม่ ตนก็บอกว่าเหมาะสมทั้งนั้น พูดเท่านี้ จากนั้นก็พากันพาดหัวว่าตนสนับสนุนนายกรณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อแสดงเจตนาว่าลาออกแล้วกลับมารับตำแหน่งจะขัดกันหรือไม่ เพราะสมัยที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ลาออกจากหัวหน้าพรรค ในพรรคก็กีดกันไม่ยอมให้กลับมา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องของการยอมหรือไม่ยอม นายบัญญัติ ได้แสดงเจตนารมณ์ที่ต้องการลาออกจากหัวหน้าพรรค และไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก ส่วนคราวนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคแสดงเจตนารมณ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว เป็นเรื่องของคนในพรรคที่จะต้องมาปรึกษาหารือกันว่าจะให้ใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อคุยกันคนส่วนใหญ่ที่มีเสียงเป็นเอกฉันท์
“ได้ยินทุกคนบอกว่าต้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการประชุมใหญ่ของพรรค ก็ย่อมมีเสียงวิจารณ์ไปต่างๆนานา และตนนั้นก็ได้บอกชัดแล้วว่าจะไม่กลับไปรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีก ไม่ว่าใครจะสนับสนุนอย่างไรก็ไม่กลับ กับหัวหน้าพรรคตนก็บอกไปชัดเจนแล้วว่าจะไม่กลับไป” นายสุเทพกล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวแซวว่า หากไม่กลับมาเป็นเลขาธิการพรรค วอลเปเปอร์ (นายศิริโชค โสภา) จะมาเป็นแทน นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ มาก็ดีซิ นายกฯชอบวอลเปเปอร์”
**ปชป.ถกว่าที่สส.วันนี้หนุน“มาร์ค” รีเทิร์น
น.พ.บุรณย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคปชป. กล่าวว่า ในวันพุธที่ 13 ก.ค.นี้ พรรคจะจัดการประชุมพบปะว่าที่ส.ส.ใหม่ ที่โรงแรงโฟร์ซีซัน จากนั้นวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ จะประชุมเพื่อกำหนดกระบวนการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ส่วนจะเลือกวันไหนเป็นดุลพินิจของรักษาการกรรมการบริหารพรรค แต่เชื่อว่าจะได้ชุดใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนบุคลากรที่จะมาทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ระบบของพรรคเป็นสถาบันการเมือง จะให้ที่ประชุมใหญ่ของพรรค ทั้งส.ส. สาขาพรรค และสมาชิก เป็นผู้ตัดสิน ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของพรรคตลอดเวลาที่ผ่านมา ยึดถือประโยชน์ประเทศและประชาชน การตัดสินใจแสดงรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค เป็นการรักษาบรรทัดฐานที่ดีทางการเมือง และเชื่อว่ากระบวนการของพรรคจะสามารถทำให้ผู้ที่ลาออกไป กลับมาบริหารใหม่ได้อีกในอนาคต
“เพราะทั้งนายอภิสิทธิ์ตอนเป็นนายกฯ และนายสุเทพตอนเป็นรองนายกฯ ได้แสดงความสามารถแก้ปัญหาช่วงมีความรุนแรงการเมืองทั้งที่ถูกปองร้ายไล่ล่าเอาชีวิต แต่ได้มุ่งมั่นทำงานได้สมเกียรติศักดิ์ศรี การที่นายสุเทพแสดงความตั้งใจไว้ว่าจะไม่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีก ก็ยังมีเวลา และสมาชิกพรรคก็จะรู้สึกเสียใจ หากท่านประสงค์ไม่รับตำแหน่ง แต่ก็เชื่อว่าทั้งสองท่านจะเปิดกว้างรับความเห็นสมาชิกพรรค” นพ.บุรรัชย์ กล่าว .