นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวความเคลื่อนไหวของว่าที่ส.ส.ของพรรคในสายภาคใต้ ที่จะให้มีการปฏิรูปพรรค หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อพรรคเพื่อไทย และจะไม่ให้กรรมการบริหารพรรคชุดเก่า รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กลับมารับตำแหน่งอีก โดยยืนยันว่า ไม่มีเรื่องนี้ และสงสัยว่าข่าวนี้มาจากไหน เพราะมั่นใจว่าที่ประชุมใหญ่ของพรรค จะมีมติเอกฉันท์ให้นายอภิสิทธิ์ กลับมารับตำแหน่งหัวหน้เพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เพราะทุกคนเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้มีรายงานว่า จะมีการกดดันให้กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน พิจารณาตัวเอง และแสดงความรับผิดชอบ โดยการไม่กลับมานั่งในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอีก ซึ่งแกนนำกลุ่มส.ส.ภาคใต้รุ่นเก่า ได้ยกกรณีการลาออกของนายบัญญัติบรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นการแพ้การเลือกตั้ง ในช่วงที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน เมื่อลาออก ก็ไม่กลับมาเป็นหัวหน้าอีก ขณะที่นายอภิสิทธิ์ แพ้เลือกตั้งตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ภาคกรุงเทพฯ กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ต้องรอการจัดประชุมใหญ่ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคในเดือนส.ค.นี้ ส่วนคุณสมบัติหัวหน้าพรรคในบริบทที่ประชาธิปัตย์กลับไปเป็นฝ่ายค้าน หลายคนก็ยังอยากให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม เนื่องจากยังไม่มีใครเหมาะสมที่จะแทนนายอภิสิทธิ์ได้ และจากกระแสที่นายอภิสิทธิ์ อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากแกนนำพรรคจากภาคใต้นั้น ไม่มีเลย เพราะว่าตนได้คุยกันกับแกนนำทางภาคใต้แล้ว ก็ยังให้สนับสนุนนายอภิสิทธิ์เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ส.ส. สาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และส.ส. สายนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค เชื่อว่า การพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย มากกว่า 100 ที่นั่ง เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากแกนนำในกลุ่มของนายอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นส.ส.กลุ่มภาคใต้ หนึ่งในคนใกล้ชิด นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีรายงานข่าวที่ระบุว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์สายนายชวน และนายบัญญัติ กำลังมีการเคลื่อนไหวขัดขวางไม่ให้ นายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง โดย ยืนยันว่า ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในลักษณะที่จะขัดขวางนายอภิสิทธิ์ ให้กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคทั้งสิ้น และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ควรออกมาตั้งข้อสังเกตในลักษณะแบ่งแยกกลุ่มก๊ก ว่าใครเป็นพวกใคร เพราะขณะนี้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ต้องร่วมมือกันกอบกู้ และทำงานให้กับพรรคให้มากยิ่งขึ้น โดยการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ที่รออยู่
ทั้งนี้สำหรับข้อผิดพลาดที่ผ่านมา ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์แพ้ในการเลือกตั้งนั้น ต้องเอามาวิเคราะห์ และประเมินสาเหตุเพื่อหาจุดบกพร่องทบทวนแก้ไขต่อไป ไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
เมื่อถามถึงข้อสังเกตที่ว่าหากนายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับมาดำรงตำแหน่งเช่นเดิม ต้องเปลี่ยนบุคคลแวดล้อมใหม่ทั้งหมด นายนิพนธ์ กล่าวว่า คิดว่าการสรุปถึงข้อผิดพลาดทุกคนคงเข้าใจดี ว่าหมายถึงอะไร ตนไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้ เพียงแต่ต้องการยืนยันเอกภาพภายในพรรคประชาธิปัตย์ และปฏิเสธการแบ่งกลุ่มแบ่งก๊ก เพื่อต่อรองอำนาจภายในพรรคเหมือนที่มีการระบุในรายงานข่าว
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ตนเองยังไม่ทราบข่าวว่ามีการตั้งก๊วน หรือกลุ่มว่าที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อกดดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนหรือปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ ภายหลังผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในฝั่งรัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายค้าน ซึ่งนายชวน ระบุว่าตนเองอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด จึงไม่เคยได้ยินข่าวดังกล่าว และเชื่อว่าไม่น่าจะมีการรวมกลุ่มเพื่อกระทำตามที่ข่าวปรากฏ
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังมีความเหมาะสมที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้งหรือไม่นั้น นายชวนปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่า จะมีการกดดันให้กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน พิจารณาตัวเอง และแสดงความรับผิดชอบ โดยการไม่กลับมานั่งในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอีก ซึ่งแกนนำกลุ่มส.ส.ภาคใต้รุ่นเก่า ได้ยกกรณีการลาออกของนายบัญญัติบรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นการแพ้การเลือกตั้ง ในช่วงที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน เมื่อลาออก ก็ไม่กลับมาเป็นหัวหน้าอีก ขณะที่นายอภิสิทธิ์ แพ้เลือกตั้งตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ภาคกรุงเทพฯ กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ต้องรอการจัดประชุมใหญ่ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคในเดือนส.ค.นี้ ส่วนคุณสมบัติหัวหน้าพรรคในบริบทที่ประชาธิปัตย์กลับไปเป็นฝ่ายค้าน หลายคนก็ยังอยากให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม เนื่องจากยังไม่มีใครเหมาะสมที่จะแทนนายอภิสิทธิ์ได้ และจากกระแสที่นายอภิสิทธิ์ อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากแกนนำพรรคจากภาคใต้นั้น ไม่มีเลย เพราะว่าตนได้คุยกันกับแกนนำทางภาคใต้แล้ว ก็ยังให้สนับสนุนนายอภิสิทธิ์เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ส.ส. สาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และส.ส. สายนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค เชื่อว่า การพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย มากกว่า 100 ที่นั่ง เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากแกนนำในกลุ่มของนายอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นส.ส.กลุ่มภาคใต้ หนึ่งในคนใกล้ชิด นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีรายงานข่าวที่ระบุว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์สายนายชวน และนายบัญญัติ กำลังมีการเคลื่อนไหวขัดขวางไม่ให้ นายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง โดย ยืนยันว่า ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในลักษณะที่จะขัดขวางนายอภิสิทธิ์ ให้กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคทั้งสิ้น และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ควรออกมาตั้งข้อสังเกตในลักษณะแบ่งแยกกลุ่มก๊ก ว่าใครเป็นพวกใคร เพราะขณะนี้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ต้องร่วมมือกันกอบกู้ และทำงานให้กับพรรคให้มากยิ่งขึ้น โดยการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ที่รออยู่
ทั้งนี้สำหรับข้อผิดพลาดที่ผ่านมา ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์แพ้ในการเลือกตั้งนั้น ต้องเอามาวิเคราะห์ และประเมินสาเหตุเพื่อหาจุดบกพร่องทบทวนแก้ไขต่อไป ไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
เมื่อถามถึงข้อสังเกตที่ว่าหากนายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับมาดำรงตำแหน่งเช่นเดิม ต้องเปลี่ยนบุคคลแวดล้อมใหม่ทั้งหมด นายนิพนธ์ กล่าวว่า คิดว่าการสรุปถึงข้อผิดพลาดทุกคนคงเข้าใจดี ว่าหมายถึงอะไร ตนไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้ เพียงแต่ต้องการยืนยันเอกภาพภายในพรรคประชาธิปัตย์ และปฏิเสธการแบ่งกลุ่มแบ่งก๊ก เพื่อต่อรองอำนาจภายในพรรคเหมือนที่มีการระบุในรายงานข่าว
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ตนเองยังไม่ทราบข่าวว่ามีการตั้งก๊วน หรือกลุ่มว่าที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อกดดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนหรือปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ ภายหลังผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในฝั่งรัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายค้าน ซึ่งนายชวน ระบุว่าตนเองอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด จึงไม่เคยได้ยินข่าวดังกล่าว และเชื่อว่าไม่น่าจะมีการรวมกลุ่มเพื่อกระทำตามที่ข่าวปรากฏ
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังมีความเหมาะสมที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้งหรือไม่นั้น นายชวนปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว
