xs
xsm
sm
md
lg

ปูขอ2สัปดาห์จัดโผครม. ขอพบป๋าเปรม ถกคลัง-สภาพัฒน์ทำแผนศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน- “ยิ่งลักษณ์” เดินตลาดสบายใจเฉิบ แม่ค้ารุมแต่ไม่กล้าแจกลายเซ็นต์ ลั่นพร้อมพบ “ป๋าเปรม” และผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทุกท่าน เรียก “สภาพัฒน์-คลัง” ถกร่างนโยบายประชานิยมเศรษฐกิจวันนี้ ขอเวลา 1-2 สัปดาห์จัดโผ ครม. ปัด “บรรหาร” บินคุย “ทักษิณ” ต่อรองเก้าอี้ ด้าน "ฮุนเซน" บอกเชื่อมือยิ่งลักษณ์

ที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (ตลาด อตก.) วานนี้ (10 ก.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยบุตรชาย เดินทางออกจากบ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยนั่งรถโฟคสวาเก้น สีเทา หมายเลขทะเบียน ฮน 333 กทม. แต่ไม่มีรถนำขบวน ทั้งนี้พอมาถึงตลาด อตก.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ยอมลงจากรถ เนื่องจากใช้เวลาในการโทรศัพท์อยู่ประมาณ 15 นาที นอกจากนี้ยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบชุดเดียวกับที่เคยดูแลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นทีมล่วงหน้ามาดูแลความเรียบร้อย

รายงานระบุว่า เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงจากรถ ได้มีประชาชนย่านอตก. และกลุ่มเสื้อแดง มารอให้การต้อนรับ พร้อมเตรียมดอกกุหลาบมอบให้ด้วย ระหว่างนั้นได้ตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” พร้อมกับขอจับมือและถ่ายรูป หลังจากนนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินเลือกซื้อสินค้าในตลาดอตก. เช่น น่องไก่ต้มน้ำปลา , เมี่ยงคำ , เครื่องบดพริกและกระเทียม แบบมือ , น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ไส้อั่ว, ปลาสลิดไข่แดดเดียว, ขนมจีนน้ำยา แกงไตปลา, ปลาทูนึ่งตัวใหญ่ 9 ตัว , มันกุ้งกระเทียม ,ปลาเผา, กล้ามปูนึ่ง, เห็ดเผาะ, น้ำพริกกลางดง, แกงผักหวาน, เอ็นน่องวัวตุ๋น, หมูแดดเดียวทอด, หมูปิ้ง, เต้าหู้ดำของดีเมืองโพธาราม, น้ำจับเลี้ยง, น้ำเสวรส, น้ำนมข้าวโพด, ขนมจ่ามงกุฎ , ขนมทองเอก, ขนมชั้น , ขนมเสน่จันทร์ , มะพร้าวเผา, มะละกอสุก เป็นต้น ทั้งนี้เวลาน.ส.ยิ่งลักษณ์ และบุตรชายอยากได้สินค้าชิ้นไหน ก็จะชี้นิ้วสั่ง แล้วจะมีคนใกล้ชิด ซึ่งเป็นผู้ถือกระเป๋าเงิน เป็นคนจ่ายเงินให้ทุกร้านที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซื้อของ

***ไม่กล้าแจกลายเซ็นต์แม่ค้า

ผู้สื่อข่าวสอบถามคนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า วันนี้พกเงินมาจ่ายตลาดประมาณเท่าไร คนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ประมาณ 1 หมื่นบาท แต่คิดว่าคงใช้ไม่หมดหรอก เมื่อถามว่า ปกติแล้วน.ส.ยิ่งลักษณ์ทำกับข้าวกินเองหรือไม่ คนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ปกติไม่ได้ทำเอง แต่วันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากทานข้าวผัดมันกุ้ง จึงเลือกซื้อวัตถุดิบต่างๆเพื่อไปทำกินเองและให้คนที่บ้านทาน ส่วนไก่ต้มน้ำปลา ลูกชายอยากกิน

รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้เวลาเดินจ่ายตลาดพร้อมกับพบปะประชาชน ประมาณ 1 ชม. โดยมีบรรดาแม่ค้าขอถ่ายภาพคู่ไว้เป็นที่ระลึก แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ยอมแจกลายเซ็นต์ โดยอ้างว่า ยังไม่ได้รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง เกรงจะเป็นปัญหาทางกฎหมายตามมาในคราวหลัง ซึ่งหลังกลับจากอตก.น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เดินทางกลับบ้านพักทันที

**หากมีโอกาสจะเข้าพบ “ป๋าเปรม”

นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยว่า พร้อมที่จะเข้าพบพผู้ใหญ่ของบ้านเมืองทุกท่านหากได้รับโอกาส โดยเฉพาะพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพราะเป็นไปตามธรรมเนียมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่

"ขอเรียนว่ายินดีเข้าไปพบผู้ใหญ่ทุกท่านอยู่แล้ว ถ้าทุกอย่างเป็นทางการแล้วคงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์รัฐบาลใหม่จะสามารถสร้างความปรองดองได้ภายในสองปี คิดว่าทำได้หรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องถามนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ซึ่งเป็นหลักตรงนี้ ตนเองมีหน้าที่ในการสนับสนุนท่านให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปอย่างเรียบร้อย

เมื่อถามว่า เวลานี้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงจะมีเวลาเหลือพักผ่อนหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่มีไร ตนเองเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากเสนอตัวมารับใช้พี่น้องประชาชน อยากไห้มองตนเองในมุมที่สามารถทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนได้หรือเปล่าและยินดีรับทุกคำแนะนำและคำติชม วันนี้ที่ตัดสินใจเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนเรื่องการพักผ่อนถือเป็นเรื่องเล็กขอให้ตราบใดที่ร่างกายหรือสภาวะมีความพร้อมตนเองก็ยินดีที่จะทำงานตลอดเวลา

***ปัด "เติ้ง" ไปต่อรองเก้าอี้พี่แม้ว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาและว่า ที่ ส.ส.เพื่อไทยบางส่วนเดินทางไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมืองดูไบ มองเป็นการไปหารือเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่หรอก ทั้งหมดนี้คณะรัฐมนตรีอยู่ที่เมืองไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีดตนายกรัฐมนตรี ได้เรียนอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของส่วนตัวและวันนี้ยังไม่ได้มีการตั้งคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด ต้องรอผลที่เป็นทางการก่อน

เมื่อย้ำถามว่า นอกจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยแล้วยังมีนายบรรหาร ไปด้วย นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นายบรรหาร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่แล้ว คงจะเป็นเรื่องของการที่อาจจะรู้จักกันเฉยๆ แต่เท่าที่ตนเองทราบไม่มี ทั้งหมดขอยืนยันอยู่ที่เมืองไทยและตนเองจะนั่งเป็นประธานร่วมกับทีมงานกรรมการผู้บริหารในพรรคเพื่อไทยด้วยหลังจากที่ กกต.รับรองผลอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ยังไม่มีผลอย่างเป็นทางการ ต้องรอตรงนั้นเพื่อความชัดเจน

เมื่อถามว่า หลัง กกต.รับรองผลอย่างเป็นทางการคิดว่าจะใช้เวลาเท่าไรในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า น่าจะไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ น่าจะประมาณนี้ ไม่ห่างจากนี้มาก จะพยายามให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะมีทีมงานเข้าไปเกี่ยวไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะมีคนนอกเข้ามร่วมเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ วันนี้คงเร็วไปนิดหนึ่งที่จะบอก แต่พรรคเพื่อไทยและตนเองไม่ปิดโอกาสสำหรับผู้ที่มีความรู้ความสามารถจากคนข้างนอก แต่เราต้องพิจารณาคนในเป็นอย่างแรก

เมื่อถามว่า การที่ กตต.รับรองผลการเลือกตั้งช้าจะส่วผลให้พรรคเกิดความแตกแยกมากขึ้นหรือไม่ เพราะตอนนนี้มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์เรื่องตัวรัฐมนตรคีกันมาก นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็นหรอก ทุกท่านสามารถที่จะแสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นได้ แต่สุดท้ายแล้วถ่าเรามีหลักการและเหตุผลในการชี้แจงเชื่อว่าทุกท่านจะยอมรับได้

**ยังไม่แจงรายละเอียดนโยบาย ศก.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้า การร่างนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า แนวนโยบายต้องมาหารือในขั้นแรก จากนั้นคงจะต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะสอบถามความถึงปัญหาข้อขัดข้องหรือไม่หากจะต้องนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยนำไปใช้ ส่วนปัญหาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากคงจะต้องคุยในรายละเอียด วันนี้เรายังไม่ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จึงต้องทำงานในส่วนของเราก่อน ส่วนเรื่องนโยบายทั้งหมดจะต้องนำไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย ดังนั้นในวันนี้จึงเป็นการเตรียมงานต่างๆ ไม่อยากจะลงไปในรายละเอียดในแต่ละเรื่อง เกรงว่าจะส่งผลกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า กรณีแรงงานกัมพูชาเริ่มแห่เข้ามาในไทยโดยหวังเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่จะขยับสูงขึ้นตามที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอนโยบายไว้กับประชาชน นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า น่าจะเป็นคนละประเด็นสำหรับเรื่องงานต่างชาติไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้ นโยบายที่พรรคเพื่อไทยที่บอกไปนั้น เป็นนโยบายเกี่ยวกับประชาชนคนไทย ส่วนแรงงานต่างด้าวนั้นคงเป็นอีกประเด็นหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 11 ก.ค. เวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเชิญข้าราชการระดับสูงของสภาพัฒน์ฯ และกระทรวงการคลัง เช่น เลขาธิการสภาพัฒน์ ปลัดกระทรวงการคลัง ฯลฯ มาชี้แจงการยกร่างนโยบายของรัฐบาล ให้เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ปี 2550

โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นประธานในการประชุม ยกร่างที่ประกอบไปด้วยด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ความมั่นคง ต่างประเทศ แรงงาน พลังงาน และการเกษตร รวมทั้งยกร่าง 'extra plan' นโยบายแต่ละด้าน ถึงขั้นตอนในการปฏิบัติว่าจะทำในช่วงระเวลาไหน อย่างไร และต้องแก้ไขกฎหมายฉบับไหนบ้าง ที่ไม่สอดรับกับนโยบายที่จะต้องทำตามที่หาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้งด้วย

รายงานระบุว่า กลุ่มกรกฎ (แกนนำด้านนโยบายเศรษฐกิจ) จะนัดประชุมเพื่อขัดเกลาถ้อยคำนโยบายด้านความมั่นคง ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะกรรมการยกร่างนโยบายรัฐบาลของพรรคต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้เชิญข้าราชการระดับสูงในหลายกระทรวงมาชี้แจงถึงภาพรวมของงานในกระทรวงนั้นๆ ให้กับคณะทำงานด้านต่างๆ ของพรรคที่เกี่ยวข้องกับการยกร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา

ทั้งนี้ในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ผู้ที่รับผิดชอบคณะทำงานยกร่างนโยบายฯ ด้านต่างๆ ต้องเข้ามารวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำเป็นเอกสาร สำหรับเตรียมประชุมคณะทำงานยกร่างนโยบาย

**พท.อีสานหนุนแกนนำแดงนั่ง รมต.

นายไพจิต ศรีวรขาน ว่าที่ส.ส.นครพนม ในฐานะแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าว ถึงกรณีที่ว่าที่ส.ส.ภาคอีสานเริ่มเคลื่อนไหวขอ 10 เก้าอี้รัฐมนตรีว่า สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ภาคอีสานได้แค่ 4 เก้าอี้รัฐมนตรีเท่านั้น เพื่อเปิดทางให้คนนอกเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเข้าแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับแกนนำของพรรคว่าจะให้โควตาภาคอีสานจำนวนเท่าไหร่

"ส่วนกรณีที่คนภายในพรรคเพื่อไทยพยายามสกัดไม่ให้ว่าที่ส.ส.ที่เป็นแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น เรื่องนี้คนในพรรคต้องอย่ามองนปช.เป็นส่วนเกิน เพราะทำงานเหน็ดเหนื่อยจนทำให้พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลาย จึงต้องให้เกียรตินปช.ที่อยู่ในพรรคโดยได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศได้อย่างมีเอกภาพ ไม่เช่นนั้นจะทำให้อำนาจของรัฐบาลอ่อนแอ"นายไพจิตกล่าว

ทั้งนี้ ส.ส.ภายในพรรคและ นปช.ต้องมีกระบวนการประสานกันภายใน เพื่อทำงานทางการเมืองเดินไปข้างหน้านำชัยชนะสู่ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่านปช.ต้องทำอะไรหลังเลือกตั้งเพื่อช่วยรัฐบาล

**ชทพ.เชื่อ “แม้ว” ยอมให้ รมว.เกษตร

ส่วนที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้ขอโควตาเดิม คือ รมว.กระทรวงเกษตรฯ รมว.การท่องเที่ยวฯ และรมช.คมนาคม ไปนั้น ขณะนี้ มีกระแสข่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนากำลังมีการเจรจาขอเพิ่มเก้าอี้รมช.เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง เพื่อให้กลุ่มของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ แต่ยังไม่มีการตอบรับจากพรรคเพื่อไทย เพราะหลายฝ่ายเกรงว่าพล.ต.สนั่น จะยกให้นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ว่าที่ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา ลูกชาย

**“เสธ.หนั่น”โบ้ย! ภารกิจ หน.พรรค

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องดังกล่าวตนเองไม่ได้มีส่วนในการประสานงานแต่อย่างใด ซึ่งเป็นภารกิจที่หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่ข่าวการนัดหมายของพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือในการกำหนดทิศทางนโยบายร่วมกันในสัปดาห์หน้านั้น ก็ไม่ทราบรายละเอียดเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ตนเองอยู่ระหว่างการพักผ่อนจากการตระเวนหาเสียง

**ฮุนเซนรอ รบ.ใหม่ เชื่อมือยิ่งลักษณ์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีของกัมพูชาเมื่อวันศุกร์ที่8ก.ค. นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ยกเอาประเด็นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยแสดงความหวังที่เป็นบวกในความพยายามของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครสส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับ1พรรคเพื่อไทยที่จะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย

นายฮุน เซน ได้แสดงท่าทีประนีประนอมกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของไทยในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา และจะถือเอาการฟื้นฟูความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นนโยบายหลักที่สำคัญ ในบรรดานโยบายสำคัญด้านอื่นๆ พร้อมกำชับไปยัง ผู้บัญชาการ และทหารของกองทัพแห่งชาติกัมพูชา ที่ประจำการตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เฝ้าระวังเตรียมพร้อม และให้อยู่ในความสงบในที่ตั้งห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมใด ที่จะกลายเป็นการก่อเหตุปะทะขึ้นอีก

**สื่อนอกเชื่อ “ทักษิโนมิคส์” คืนชีพ

สำนักข่าว AFP รายงานว่า หลังจากได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นจากบรรดาผู้สนับสนุนที่เป็นคนยากจนในพื้นที่ชนบท นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ได้มีแผนจะเดินหน้านโยบายประชานิยม เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ซึ่งสร้างความเสี่ยงว่าจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อและหนี้สาธารณะพุ่งสูง การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท , ประกันราคาข้าวเปลือกเป็นเกวียนละ 15,000 บาท และการแจกไอแพดให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคำสัญญาที่ช่วยขับเคลื่อนให้พรรคเพื่อไทยของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร กวาดคะแนนเสียงเลืองตั้งอย่างถล่มทลาย

AFP ระบุว่า พันตำรวจโททักษิณ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร ก่อนจะถูกปฏิวัติโดยทหารเมื่อปี 2549 หลังอยู่ในอำนาจมานานถึง 5 ปี ได้ชื่อว่าเป็นขวัญใจคนยากจนเพราะนโนยบายประชานิยม ทั้งเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค และสินเชื่อขนาดย่อมสำหรับรากหญ้า

ปัจจุบัน นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นน้องสาว กำลังก้าวตามรอยเท้าของเขา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และขยายนโยบายประชานิยมที่พุ่งเป้าไปที่คนยากจน ที่รู้จักกันดีในชื่อ" ทักษิโนมิคส์ " ซึ่ง ดร.ธนวัฒน์ พลวิชัย จากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้ความเห็นว่า แนวคิดเกี่ยวกับนโยบายทักษิโนมิคส์ เป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากมั่งเน้นแนวทางแก้ปัญหาความยากจน แต่พรรคเพื่อไทยจะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

ประเทศไทย ได้ก้าวข้ามอย่างยิ่งใหญ่ในการลดปัญหาความยากจน จากรายงานของธนาคารโลก ระบุว่า มีประชาชนเพียง 8.1 เปอร์เซ็นต์ ที่มีความเป็นอยู่ต่ำกว่ามาตรฐาน เมื่อปี 2552 ทำให้ติดกลุ่มหนึ่งในประเทศ ที่มีอัตราความยากจนต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย แต่ก็ยังมีสัญญาณความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องของการกระจายความมั่งคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างคนกรุงเทพกับคนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนของคนเสื้อแดง ที่สนับสนุนพันตำรวจโททักษิณ

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ได้ประเมินว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ของคนที่รวยที่สุดในประเทศไทยครองรายได้เกือบครึ่งของรายได้ทั้งหมดของครัวเรือนทั่วประเทศ ซึ่ง ดร.ธนวัฒน์ กล่าวว่าเมื่อประชาชนมีรายได้มากขึ้น พวกเขาก็จะใช้จ่ายกันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ก็เสี่ยงว่า จะทำให้เกิดเงินเฟ้อสูง ขณะที่ปัจจุบันตัวเลขเงินเฟ้อ อยู่ที่ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าบรรดาชาติในเอเชียด้วยกัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น