แฉเบื้องหลัง"กระแสพรรค-พายุเงิน"ถล่มโคราช

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา

แฉเบื้องหลัง “กระแสพรรค” บวก “พายุเงิน” ถล่มสนามเลือกตั้งโคราช พลิกโผ“เผาไทย”โกย ส.ส. เกินคาด 8 ที่นั่ง จาก 15 เขต แถมล้มช้างถีบอดีต ส.ส.แชมป์หลายสมัยสอบตกอื้อถึง 6 เขต เล่นงานพลพรรค “ค่ายสุวัจน์ -เด็กบุญจง” สาหัสแทบไม่เหลือซาก “ชพน.”ยึดโคราชเป็นเรือนตายได้แค่ 4 คน ส่วน “ภท.” สิ้นท่าเหลือ 3

สนามเลือกตั้งโคราชจังหวัดใหญ่ภาคอีสาน เท็จจริงแล้วไม่ได้ถูกจัดเป็นเมือง “เสื้อแดง” เช่นจังหวัดอื่นๆ แต่ผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 16 เขตที่ออกมา พรรคเพื่อไทย (พท.)กลับพลิกโผเกินคาดกวาดส.ส.ไปได้ถึง 8 ที่นั่ง ทำเอาคอการเมืองหลายฝ่ายต่างมองว่า ลำพังกระแสพรรค“เผาไทย” จะพุ่งแรงแค่ไหน คงไม่สามารถดลบันดาลสร้างปรากฏการณ์ถล่มทลายได้ถึงเพียงนี้ หากปราศจาก “พายุเงิน” ที่พัดถล่มรุนแรงไม่น้อยกว่ากัน

แม้แต่แม่ทัพใหญ่แห่งค่าย ชพน. ตัวจริง อย่าง “สุวัจน์ ลิปพัลลภ” ถึงกลับออกมาเปรียบเปรยว่า ถือเป็นสึนามิการเมืองพัดถล่มบ้านพังราบพณาสูรหมด แม้โค้งสุดท้ายรู้ตัวว่า “สึนามิ” กำลังจะเข้า แต่ก็ยังรับมือไม่ไหว พรรคเล็กทุนน้อยต้องกอดคอกันตาย แทบไม่เหลือซาก

เมื่อลงลึกไล่เรียงวิเคราะห์ผลคะแนนในแต่ละเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ 6 เขตล้มช้างที่ผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ พรรคเพื่อไทยเอาชนะคูแข่งบรรดาอดีต ส.ส.แชมป์เก่าหลายสมัย กลายเป็น ส.ส. สอบตก แบบเหนือความคาดหมายแล้ว น่าสนใจยิ่ง

เริ่มที่ เขตเลือกตั้งที่ 5 “นายโกศล ปัทมะ” ว่าที่ ส.ส. หน้าใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) น้องชาย “นายนพดล ปัทมะ” ทนายส่วนตัว “นช.แม้ว” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ 35,458 คะแนน ทิ้งห่างเต็งหนึ่งอย่าง “นายภิรมย์ พลวิเศษ” อดีต ส.ส. 1 สมัย แชมป์เก่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ชนิดไม่เห็นฝุ่นได้แค่ 16,880 คะแนน

ทั้งนี้“ภิรมย์” นอกจากเสียเปรียบกระแสพรรคในดง“คนเสื้อแดง” โคราช แล้ว ต้องมาตัดคะแนนกับคู่แข่งสำคัญในพื้นที่ “อ.บัวใหญ่” อำเภอหัวใจหลักของเขตนี้ อีก 2 คน คือ “นายวัชรา ณ วังขนาน” อดีต ส.ส. พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) และ “นายนาวี ศรีนุชศาสตร์” อดีต ส.อบจ. เสียงดี พรรคมาตุภูมิ (มภ.) ซึ่งมาแชร์แต้มไปอีกคนละกว่า 13,000 คะแนน

ทำให้ “เผาไทย” กวาดคะแนนอำเภอรอบนอกนำเดี่ยว โดยมีเหล่า ส.อบจ.ในพื้นที่หนุนช่วยสุดแรง ท่ามกลางกระแสเงินสะพัดไม่น้อยหน้า “กระแสพรรค” ยิงปูพรมหัวละ 500 แถมงัดวิชามารสกัดคู่แข่งนำตำรวจล้อมจับหัวคะแนนฝ่ายตรงข้าม ขนเงินธนบัตรฉบับละร้อยเตรียมซื้อเสียง กว่า 4 แสนบาท อย่างน่ากังขา

เขตเลือกตั้งที่ 6 “นายสุชาติ ภิญโญ” อดีต ส.อบจ. นครราชสีมา เขต อ.แก้งสนามนาง และลูกเขยเจ้าของโรงงานไอศกรีมช้างเผือกชื่อดังโคราช ว่าที่ ส.ส.หน้าใหม่ พรรค พท. โกยแต้มนำลิ่วถึง 41,663 คะแนน ล้มช้าง “ นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ” อดีต ส.ส. 5 สมัยแชมป์เก่า จากพรรค ชพน.ได้แค่ 22,613 คะแนน แพ้หลุดลุ่ยเกือบ 2 หมื่นแต้ม ท่ามกลางเสียงบ่นชาวบ้านว่า “เบื่อส.ส.หน้าเก่า”

ส่วน“นางอรทัย พลวิเศษ” ภรรยา “นายภิรมย์ พลวิเศษ” พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ที่มาตัดคะแนน “สมชัย” ชพน. ไปอีก 22,003 คะแนน ทำให้ต้องกอดคอสอบตก พ่าย “อดีต ส.อบจ.” ที่ยิงกระสุนปูพรมเสริมแรงกระแสพรรค หัวละ 200

เขตเลือกตั้งที่ 7 “นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ” ผู้สมัครหน้าใหม่ พรรค พท.อายุ 27 ปี ทายาท“นายวิรัช รัตนเศรษฐ” อดีต รมช.เกษตรฯ ได้ 44,296 คะแนน แจ้งเกิดเป็นว่าที่ ส.ส.ได้สำเร็จ ในถิ่นฐานเสียงเดิมของตระกูล “รัตนเศรษฐ” และ เป็น ดงเสื้อแดงโคราช ตามความมุ่งหมายของผู้เป็นพ่อ และ แม่ “นางทัศนียา” ว่าที่ ส.ส. เขต 4 พท. ที่ร่วมทุ่มเททั้งแรงกายและคลังกระสุนเข้าหนุนช่วยไม่มียั้งหัวละ 500 เอาชนะ “นายพีรพร สุวรรณฉวี” ผู้สมัครพรรค ชพน. ลูกชาย “ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี” กว่า 1 หมื่นแต้ม ได้ 23,102 คะแนน และ นายพงษ์พิช รุ่งเป้า อดีต ส.ส. พรรคมาตุภูมิ วัย 52 ปี ตามหลังมาอยู่ไกลโพ้นที่ 8,686 คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ 8 นายจรูญพงศ์ พันธุ์ศรีนคร อดีต ส.อบจ.นครราชสีมา เขต อ.พิมาย หลายสมัย ว่าที่ส.ส. ใหม่ พรรค พท. กลุ่ม “วิรัช รัตนเศษฐ” โกยแต้มมาเป็นอันดับหนึ่ง 35,301 คะแนน โค่น “นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์” อดีต ส.ส. 1 สมัย แชมป์เก่า เต็งหนึ่ง พรรค ชพน. สาย “สุวรรณฉวี” ในยุคไร้เงานายใหญ่ “ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์” ตกม้าตายในโค้งสุดท้ายด้วยคะแนน 29,830 คะแนน

เขตนี้ “เผาไทย” นอกจากเป็น อดีต ส.อบจ. หลายสมัยฐานเสียงแน่นและกระแสพรรคแรงแล้ว ปัจจัยสำคัญ คือ “นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒนา” ผู้สมัครพรรค ภท. คู่ปรับ “อนุวัฒน์” ชพน. ถูกศาลสิทธิทางการเมืองกลางครัน ได้เทคะแนนมาให้เต็ม ๆ ในโค้งสุดท้าย และ กำชับด้วย การออกอาวุธเบาปูพรมหัวละ 100 ตามงบฯ ที่พรรคให้มาอย่างจำกัด จึงสามารถพลิกโผเข้าวินมาได้

เขตเลือกตั้งที่ 11 “นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ “ ว่าที่ ส.ส.หน้าใหม่ พรรค พท.น้องชาย “แรมโบ้อีสาน” นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำฮาร์ดคอ “นปช.” ได้ 44,184 คะแนน ล้ม “ นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล” อดีต ส.ส. 1 สมัย พรรค ภท. เจ้าของโรงมันแป้งมันรายใหญ่ คู่แค้น“แรมโบ้อีสาน” พี่ชาย ได้สำเร็จ ทำแต้มทิ้งห่างกว่า 7,500 คะแนน ถือเป็นบทเรียนแชมป์เก่าที่ประมาทคู่แข่งและชะล่าใจจนถูกหัวคะแนนหักหลัง ยิงอาวุธหนักไม่เข้าเป้า ขณะที่คู่แข่งไม่ยั้งมือปูพรมด้วยพายุใหญ่หัวละ 500 และ ยิงซ้ำก่อนเข้าคูหาอีกหัวละ 100 ถึงมือผู้รับกันถ้วนหน้าทุกคน

เขตเลือกตั้งที่ 13 อันดับ 1 “นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ” อดีต ส.อบจ.นครราชสีมา เขต อ.ปากช่อง ผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่ พรรค พท. กลายเป็นแจ๊กผู้ฆ่ายักษ์ของแท้ พลิกเอาชนะ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีต ส.ส.ผูกขาดหลายสมัย พรรคมาตุภูมิ (มภ.) ได้คะแนนสูงเป็นอันดับ 1 ถึง 37,522 คะแนน เหนือแชมป์เก่ากว่าหมื่นคะแนน ที่ได้มาเพียง 24,692 คะแนน

ท่ามกลางชาวบ้านเบื่อ ส.ส. เก่า พบยาก ไร้ผลงาน และ คนเสื้อแดงมุ่งมั่นสั่งสอนคนทรยศที่ชิงย้ายค่ายไปสังกัดพรรคทหารปฏิวัติผู้โค่น“นช.แม้ว” เขตนี้ค่าย “นักโทษ” ปูพรมหัวละ 300 เอาชนะ คู่แข่งที่ทุ่มยิงหัวละ 500 เช่นกันได้อย่างน่าเจ็บใจ

ปรากฏการณ์ “กระแสพรรคแรง” ผนวก “พายุเงิน” ข้างต้น ดลบันดาลให้แก๊ง “เผาไทย” โกยคะแนนถล่มทลาย ขึ้นนั่งแท่นว่าที่ ส.ส. นครราชสีมามากถึง 8 คน จากทั้งหมด 15 เขต ในจำนวนนี้เป็นว่าที่ ส.ส.ใหม่ ล้มช้าง 6 เขตเลือกตั้ง
ขณะที่พรรค ชพน. แห่งค่าย “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ยึด ส.ส.ฐานที่มั่นใหญ่โคราชได้แค่ 4 ต่ำกว่าเป้าตั้งไว้ 8 ที่นั่ง ส่วน “บุญจง วงศ์ไตรรัตน์” รองหัวหน้าพรรค ภท. แกนนำโคราช สาหัสรากเลือดไม่แพ้กัน พาลูกทีมเข้าสภาได้แบบหืดขึ้นคอรวม 3 ที่นั่ง จากที่คาดหวัง 6 เก้าอี้ ส.ส.