สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วานนี้ (4 ก.ค.)ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ยอมรับผลการเลือกตั้งแบบขาดลอยของพรรคเพื่อไทย
“ผมได้พูดคุยกับเหล่าผู้นำทหารแล้ว เราจะให้นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งได้ทำงาน และทหารจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวใดๆทั้งสิ้น” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์นักข่าวเอเอฟพี
“ประชาชนได้เปล่งเสียงอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้น ทหารจึงไม่สามารถทำอะไรได้ และพวกเรายอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้” พร้อมทั้งกล่าวว่า กองทัพจะให้นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งได้ทำหน้าที่ของพวกเขา กองทัพไม่สามารถขับไล่พวกเขาได้ เพราะพวกเขายังไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งนี้ หลายฝ่ายจับตาว่า ประเด็นสำคัญสำหรับกองทัพก็คือ รัฐบาลใหม่จะใช้ความพยายามทางด้านกฏหมายดำเนินการกับกองทัพ ต่อกรณีเหตุการณ์นองเลือดซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองกว่า 90 รายเมื่อปีที่แล้วหรือไม่
วันเดียวกัน เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เป็นประธานในงานวันสถาปนาสำนักงานตรวจสอบภายในทหารบกครบรอบ 33 ปี โดยมี พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ รองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (1) พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงามผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (2) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก และนายทหารระดับสูงเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวให้โอวาทว่า สำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก มีการบริหารจัดการทรัพยากรภายในหน่วยได้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะทรัพยากรบุคคลเพื่อให้ทำหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต และยุติธรรม และถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่กองทัพคาดหวัง ภารกิจดังกล่าวถือว่าสำคัญยิ่งว่าจะทำอย่างไรให้กองทัพบกสามารถมีการจัดสรร มีการใช้จ่าย และตรวจสอบทุกประเภทอย่างคุ้มค่า ที่ผ่านมาทำงานตามระเบียบข้อบังคับ และกฎกติกาต่าง ๆ ที่กองทัพบกต้องปฏิบัติ และทำตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ถือเป็นสิ่งที่ยากว่าทำอย่างไรให้งานเป็นไปด้วยดี
“ สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาทุกคนต้องการที่จะทำอย่างไรให้หน่วยร่วมกันอย่างสันติ และประคับประคองในสิ่งที่ถูกต้องไม่ทำอะไรที่ฝ่าฝืนระเบียบ และผิด แต่ผิดก็จะต้องเตือนกัน และบอกกันว่ามันไม่ถูกต้องเพื่อให้แก้ไขกัน แต่ถ้าบอกแล้วไม่แก้ไขก็จะต้องถูกลงโทษก็ว่ากันไปอีกระดับหนึ่ง ทั้งนี้สิ่งที่ได้ปฏิบัติมาขอให้ภาคภูมิใจ และรักษาคุณภาพ ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต และถูกต้อง รวมถึงยึดมั่นนโยบายของผู้บังคับบัญชา ทำให้กองทัพบกนั้นเป็นปึกแผ่นคิดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และนึกถึงประเทศชาติเป็นเป้าหมายหลักในการปฏิบัติงาน และขอให้ทุกคนได้รักกัน ขอให้ทุกคนทำหน้าที่เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เพราะสิ่งที่เราจะต้องอยู่เคียงข้างตลอดเวลา ช่วยกันรักษาสถาบันที่เราเคารพนับถือตลอดไป” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปร่วมงานที่สำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ มีเหล่าบรรดาสื่อมวลชนทั้งจากหนังสือพิมพ์ ทีวี และ วิทยุ เพื่อไปดักรอสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะจุดยืนของกองทัพต่อสถานการณ์การเมืองภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งจนได้เป็นหัวหน้าคณะในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงท่าทีกองทัพต่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างไร แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่าง พร้อมกับเดินทางกลับเข้าสำนักงานกองทัพบกทันที มีเพียงเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกองทัพบกมาแจ้งให้สื่อมวลชนได้รับทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยังไม่ให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้ จะต้องรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
“ผมได้พูดคุยกับเหล่าผู้นำทหารแล้ว เราจะให้นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งได้ทำงาน และทหารจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวใดๆทั้งสิ้น” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์นักข่าวเอเอฟพี
“ประชาชนได้เปล่งเสียงอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้น ทหารจึงไม่สามารถทำอะไรได้ และพวกเรายอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้” พร้อมทั้งกล่าวว่า กองทัพจะให้นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งได้ทำหน้าที่ของพวกเขา กองทัพไม่สามารถขับไล่พวกเขาได้ เพราะพวกเขายังไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งนี้ หลายฝ่ายจับตาว่า ประเด็นสำคัญสำหรับกองทัพก็คือ รัฐบาลใหม่จะใช้ความพยายามทางด้านกฏหมายดำเนินการกับกองทัพ ต่อกรณีเหตุการณ์นองเลือดซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองกว่า 90 รายเมื่อปีที่แล้วหรือไม่
วันเดียวกัน เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เป็นประธานในงานวันสถาปนาสำนักงานตรวจสอบภายในทหารบกครบรอบ 33 ปี โดยมี พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ รองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (1) พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงามผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (2) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก และนายทหารระดับสูงเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวให้โอวาทว่า สำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก มีการบริหารจัดการทรัพยากรภายในหน่วยได้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะทรัพยากรบุคคลเพื่อให้ทำหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต และยุติธรรม และถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่กองทัพคาดหวัง ภารกิจดังกล่าวถือว่าสำคัญยิ่งว่าจะทำอย่างไรให้กองทัพบกสามารถมีการจัดสรร มีการใช้จ่าย และตรวจสอบทุกประเภทอย่างคุ้มค่า ที่ผ่านมาทำงานตามระเบียบข้อบังคับ และกฎกติกาต่าง ๆ ที่กองทัพบกต้องปฏิบัติ และทำตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ถือเป็นสิ่งที่ยากว่าทำอย่างไรให้งานเป็นไปด้วยดี
“ สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาทุกคนต้องการที่จะทำอย่างไรให้หน่วยร่วมกันอย่างสันติ และประคับประคองในสิ่งที่ถูกต้องไม่ทำอะไรที่ฝ่าฝืนระเบียบ และผิด แต่ผิดก็จะต้องเตือนกัน และบอกกันว่ามันไม่ถูกต้องเพื่อให้แก้ไขกัน แต่ถ้าบอกแล้วไม่แก้ไขก็จะต้องถูกลงโทษก็ว่ากันไปอีกระดับหนึ่ง ทั้งนี้สิ่งที่ได้ปฏิบัติมาขอให้ภาคภูมิใจ และรักษาคุณภาพ ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต และถูกต้อง รวมถึงยึดมั่นนโยบายของผู้บังคับบัญชา ทำให้กองทัพบกนั้นเป็นปึกแผ่นคิดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และนึกถึงประเทศชาติเป็นเป้าหมายหลักในการปฏิบัติงาน และขอให้ทุกคนได้รักกัน ขอให้ทุกคนทำหน้าที่เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เพราะสิ่งที่เราจะต้องอยู่เคียงข้างตลอดเวลา ช่วยกันรักษาสถาบันที่เราเคารพนับถือตลอดไป” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปร่วมงานที่สำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ มีเหล่าบรรดาสื่อมวลชนทั้งจากหนังสือพิมพ์ ทีวี และ วิทยุ เพื่อไปดักรอสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะจุดยืนของกองทัพต่อสถานการณ์การเมืองภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งจนได้เป็นหัวหน้าคณะในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงท่าทีกองทัพต่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างไร แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่าง พร้อมกับเดินทางกลับเข้าสำนักงานกองทัพบกทันที มีเพียงเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกองทัพบกมาแจ้งให้สื่อมวลชนได้รับทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยังไม่ให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้ จะต้องรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จเรียบร้อยก่อน