xs
xsm
sm
md
lg

โอมเพี้ยง เลือกตั้งครั้งนี้ ขออย่าให้มีนองเลือด

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

เลือกตั้งครั้งนี้มีแต่-โกหก ปกปิด บิดเบือน เชือนเฉย ละเลยกฎหมาย ทำลายขื่อแป-ตายแน่ๆ แบบผ่อนส่ง

บทความนี้เขียนก่อนการเลือกตั้ง 2554 หนึ่งวัน เพื่อจะทำนายว่า เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งนอกกฎหมายที่เสมือนในกฎหมาย มีการละเมิดกฎหมายมากที่สุดทั้งโดย กกต.โดยพรรคและผู้สมัคร โดยกองทัพที่สั่งการกำลังพลให้ลงคะแนนเป็นคุณเป็นโทษแก่พรรค โดยตำรวจและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองที่ลำเอียงเข้าข้างพรรคที่อยู่ในอำนาจ อันจะเป็นเหตุให้พรรคบางพรรคที่ไม่มีความชอบธรรม เพราะกระทำผิดและทำลายกฎหมายทุกอย่างมากกว่ากลับกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ และเป็นแชมเปี้ยนประชาธิปไตยขึ้นมาในสายตาของคนดูที่ลำเอียงหรือไร้เดียงสาทั้งในและนอกประเทศ

การเลือกตั้งครั้งนี้จะผลักประเทศไทยให้จมลงในหุบเหววิกฤตที่ยิ่งกว่าวิกฤตที่สุดในโลกของในหลวง ทั้งนี้เพราะผู้รักษากฎหมายทุกฝ่ายและนักการเมืองร่วมกันหรือต่างก็ “โกหก-ปกปิด-บิดเบือน-เชือนเฉย-ละเลยกฎหมาย-ทำลายขื่อแป” ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

หาไม่แล้ว การเลือกตั้งนี้จะต้องได้ใบแดง ยุบพรรคและเป็นโมฆะไปตั้งแต่ต้น

แต่ กกต.และผู้มีหน้าที่รักษาความมั่นคงสงบเรียบร้อยของประเทศต่างก็ไม่แยแส เกาะแจอยู่แต่กับ “ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข” ที่ได้มากับตำแหน่ง ผู้นำไทยในราชการยุคนี้ไม่มีกระดูกสันหลังตามสำนวนฝรั่งว่า No Spine จีนว่า บ่มิไก๊ ไทยว่า ไม่มีกึ๋น

ความไม่มีกึ๋นของคนพวกนี้จะสาปให้ลูกหลานบ้านเมืองต้องตายแบบผ่อนส่ง ไม่มีผุดมีเกิด

มีหลักฐานอันควรเชื่อได้แน่นอนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่สุจริตเที่ยงธรรมทั้งประเทศ มิใช่เฉพาะแต่เป็นเขตๆ ในเขตนั้นบ้างเขตนี้บ้างเท่านั้น แต่ทั่วประเทศ อันเป็นเหตุจำเป็นให้ กกต.จะต้องวินิจฉัยสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อบรรเทาความเสียหายหรืออย่างน้อยก็ต้องชี้แจงแถลงให้ประชาชนทราบล่วงหน้าก่อนวันเลือกตั้ง หากลงคะแนนไปแล้วต่อให้พูดจนตายก็ไม่มีน้ำหนัก เช่นเดียวกับการที่ กกต.ไม่ยอมออกใบแดงปล่อยให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช นั่งบัลลังก์ประธานรัฐสภาลงนามสนองฯตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เมื่อมาถูกล้มภายหลังจึงไม่มีใครเชื่อ หาว่าอำมาตย์อิจฉาพากันทำลายประชาธิปไตย แม้แต่ในต่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตยก็ยังเชื่อ

คราวนี้จะหนักยิ่งกว่าเดิม เพราะต่างประเทศที่เป็นอภิมหาทุนโลกาภิวัตน์ได้วางหมากไว้ช่วยลูกน้องของตนล่วงหน้ามานานแล้ว ท่ามกลางความงี่เง่าไม่เอาไหนของผู้นำไทย

แท้ที่จริงการเลือกตั้งครั้งนี้โมฆะไปแล้วตามข้อมูลและข้อวินิจฉัยของอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา : ยินดี วัชรพงศ์ ต่อสุวรรณ และคณาจารย์กฎหมายชุดอาจารย์คมสัน ดร.บรรเจิด ที่ระบุพรรคการเมือง 14 พรรคละเมิดกฎหมายเลือกตั้งเรื่องสัญญาว่าจะให้ทั้งส่วนผู้สมัครทั้งส่วนพรรค แถม กกต.กระทำผิดตัดสิทธิผู้มีสิทธิเลือกตั้งมิให้ลงคะแนนถึงสองล้านคน!

แต่ผมกลัวที่สุด คือ worst case scenario หรือภาพวาดอนาคตที่ร้ายที่สุด worst case scenario นี้จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดก็ได้ แล้วแต่เงื่อนไขและเงื่อนเวลาอันเป็นข้อเท็จจริงหรือภววิสัยที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป

การเลือกตั้งครั้งนี้ยังมีเหตุที่ต้องเป็นโมฆะอีกอย่างหนึ่ง เพราะมีต่างประเทศเข้าแทรกแซงการเลือกตั้ง ให้ทุนสนับสนุน และหาเสียงให้พรรคที่เคยถูกกล่าวหาว่าต้องการล้มล้างระบบกษัตริย์ แต่ กกต.และฝ่ายความมั่นคงก็ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ

ประจักษ์พยานที่เห็นได้โจ่งแจ้งมีอยู่ดังต่อไปนี้

หนึ่ง เอกอัครราชทูตอเมริกันได้ต้อนรับหรือเชิญนางสาวยิ่งลักษณ์เข้าพบเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนนี้ เป็นเหตุให้กรมประชาสัมพันธ์นำไปออกข่าว และมีการแพร่ข่าวไปทั่วประเทศและทั่วโลก ว่าทูตอเมริกันปรามกองทัพว่าอย่าคิดยึดอำนาจ พรรคเพื่อไทยได้นำไปหาเสียงทั่วประเทศ

สอง การเปิดเผยข่าวในวิกิลีกส์ และล่าสุดบทความพิเศษหลายบทโดย Tony Cartalucci ในรายงาน Land Destroyer เปิดโปงนักการทูตและบรรดาอัศวินปล่อยข่าวที่พากันทำร้ายประเทศไทยและสถาบัด้วยการกระพือความเท็จที่ผมไม่อยากแปล relying entirely on the dubious credibility of both WikiLeaks and the US diplomats who supposedly composed the cables, will "open discussion of the (Thai) monarchy even more, at a time when the election campaign, the growing crackdown on dissent, and the impending demise of the king all are terrifying Thais and forcing some reevaluation of their country’s political system, perhaps leading to a total meltdown of Thai politics.

คนพวกนี้ รวมทั้ง Endowment for Democracy ที่จัดตั้งและดำรงอยู่ด้วยงบประมาณจากคองเกรสหรือรัฐสภาของสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนเว็บไซต์ประชาไทยซึ่งเป็นใจกับกระบวนการเสื้อแดงและจาบจ้วงสถาบันอยู่เนืองๆ ผมรู้จัก Endowment for Democracy นี้ดีเพราะครั้งหนึ่งนานมาแล้วเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยหลายคนของผมหากินเป็นคนใหญ่คนโตที่นี่ รวมทั้ง Bill Kintner อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำประเทศไทย ผมขอส่งข่าวให้ Thai Forum Washington DC เตรียมไปเหยียบ Endowment for Democracy กันได้แล้ว

สาม พวกอเมริกันน่าเกลียด หรือ Ugly American ที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถว The Council on Foreign Relations (CFR) ที่เป็นถังขยะทางปัญญาของบรรษัท Fortune 500 ของอเมริกันที่ต้องการยัดเยียดและจัดการวาระแห่งโลกมหาโลภะหรือ the global corporatocracy's agenda จึงสนับสนุนการเข้ายึดประเทศไทยด้วยการใช้การเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 นี้เป็นเครื่องมือ

สี่ บทความ Thailand Being Handed Over to the Globalists ได้เผยเบาะแสการสนับสนุนของอเมริกันให้สมุนที่รักของบุชและคณะได้กลับมาเป็นใหญ่ในประเทศไทยเพราะพูดกันรู้เรื่องและทำงานด้วยกันได้ มันว่าไหนๆ สถาบันก็คงอยู่ไม่นานแล้ว มันจึงพากันสนับสนุนเว็บไซต์ต่างๆ การฝึกอบรมสัมมนาทางวิชาการ การฝึกงานและปฏิบัติการ รวมทั้งการที่จะจัดตั้งหมู่บ้านสีแดงให้ครบหนึ่งพันก่อนการเลือกตั้งอีกด้วย

ขอกล่าวถึง Worst Case Scenario ที่น่าสะพรึงกลัวอีกครั้งและขอภาวนาว่าอย่าให้เป็นเช่นนั้น คือ

1. พรรคสีแดงชนะเลือกตั้งท่วมท้น-พอดี-หรือเกือบชนะ แต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะแท้ที่จริงการเลือกตั้งเป็นโมฆะ

2. พรรคสีแดงไม่ยอมแพ้ ชุมนุมต่อ และใช้กำลังทั้งรากหญ้า ทั้งต่างด้าวที่อาจจะมีอยู่แล้วทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน

3. มีการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีเงื่อนไขหรือไม่มีทางทำได้

4. รัฐบาลอเมริกันประกาศสนับสนุนการเลือกตั้งและหรือรัฐบาลพลัดถิ่นหาว่าประเทศไทยทำลายประชาธิปไตย เป็นตัวตั้งตัวตีพานานาชาติคว่ำบาตรประเทศไทย

ผมไม่อยากเชื่อแต่ก็ไม่อยากให้พวกเราประมาทว่า บริษัทน้ำมันข้ามชาติ เครือข่ายเดียวกับบริษัทที่ทักษิณกับบุชเป็นกรรมการร่วมกัน ซึ่งเป็นต้นเหตุที่แท้จริงของความไม่สงบในตะวันออกกลาง จะไม่เข้ามาแทรกแซงก่อความวุ่นวายทำลายความมั่นคงและเสถียรภาพของไทยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพื่อจะได้เข้ามามีอำนาจควบคุมการเมืองและผลประโยชน์ด้านพลังงานทั้งในทะเลและบนบก ตลอดอาณาเขตสามจังหวัดภาคใต้ ชายแดนกัมพูชาและอีสาน และภาคตะวันตกติดชายแดนพม่า

ผมเคยเขียนบทความเมื่อพฤศจิกายน 2533 ให้สังคมไทยระวังและหาวิธีป้องกันการเนืองเลือด แต่พฤษภาทมิฬก็เกิดจนได้ ผมเขียนบทความอีกเมื่อตุลาคม 2550 ว่าเลือกตั้งน้ำเน่าเราจะพากันไปตาย

คราวนี้ผมเกรงว่าจะหนักยิ่งกว่าหาอะไรเทียบไม่ได้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย

โอมเพี้ยง ขออย่าให้เป็นจริงเลย

พระสยามเทวาธิราชช่วยลูกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น