“ชุมพล” ยอมรับเพื่อไทยกระแสแรงนำทุกพรรค เผยเงื่อนไขร่วมรัฐบาลต้องยอมรับนโยบายปรองดอง ขอคุมกระทรวงเกษตรฯ พาณิชย์ ท่องเที่ยวและกีฬา
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่หาเสียงตลาดเทวศร์ และตลาดบางลำพู ถึงกรณีที่โพลหลายสำนักรวมถึงสำนักข่าวต่างประเทศมีความเห็นตรงกันว่าพรรคเพื่อไทยมาแรงและอาจได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งว่า กระแสตอนนี้ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียงที่ค่อยข้างนำกว่าทุกพรรค ส่วนแท้จริงจะนำเท่าไรนั้นยังไม่มีความแน่นอน
ส่วนที่โพลระบุว่ายังมีเสียงของประชาชนกว่าอีก 10 ล้านคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองไหนนั้น ตอนนี้เท่าที่ดูพลังเงียบที่ว่าก็ลดจำนวนลดเรื่อยๆ แล้ว เริ่มมีการตัดสินใจบ้างแล้ว หลังจากการหาเสียงผ่านไป 2-3 อาทิตย์ เหลือโค้งสุดท้ายอีกประมาณ 10 วันก็จะเลือกตั้งแล้ว ซึ่งพลังเงียบกว่า 50% น่าจะตัดสินใจแล้ว ที่เหลืออยู่ก็ประมาณ 20-30% เท่านั้น ส่วนจะสวิงไปทางไหนเดี๋ยวก็ต้องรอดูโค้งสุดท้ายอีกทีในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรถึงพลังเงียบหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ก็ยังคงรอตัดสินใจกันอยู่ ก็ให้ไปรอดูสัปดาห์สุดท้ายก็แล้วกัน ก็อยากฝากว่าสัปดาห์สุดท้ายให้แสดงความคิดเห็นออกมา ให้ทุกคนแสดงความชัดเจนออกมาว่าทิศทางของประเทศจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้เป็นการหาเสียงระหว่างที่พรรคที่จะไปเป็นรัฐบาล และพรรคที่จะไปฝ่ายค้านในสภา จึงอยากให้ทุกคนออกมาแสดงความคิดเห็นให้ชัดเจนไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบทั้ง 2 พรรคก็ขอให้มาเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 21 ก็แล้วกัน
“สื่อต่างประเทศเสนอข่าวด้วยข้อมูลพื้นฐานมาจากสื่อไทย โดยเฉพาะสื่อภาษาอังกฤษ ซึ่งมีผู้สื่อข่าวประจำประเทศไทย ผมเชื่อว่าน่าเชื่อถือไม่ค่อยผิดพลาด เพราะแม้แต่กระแสข่าวในประเทศเอง กระแสก็สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งเราต้องยอมรับ ส่วนกรณีที่ทูตหลายประเทศได้เข้าพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกครั้งที่ใกล้วันเลือกตั้งก็เป็อย่างนี้ โดยเฉพาะทูตอเมริกันก็มักจะเข้าพบกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เลือกตั้งเที่ยวนี้คิดว่ากระแสน่าจะเบนไปทางพรรคเพื่อไทย เขาเลยหันมาพบกับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย ผมคิดว่าทูตประเทศต่างๆ คงจะไปพบกับทุกพรรค อย่างพรรคชาติไทยพัฒนาเอง ท่านทูตของประเทศญี่ปุ่นก็มาพบกันไปเรียบร้อยแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา สามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า คงต้องดูก่อนว่าพรรคไหนได้คะแนนเลือกตั้งสูงสุด แล้วได้จัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตามาพรรคชาติไทยจะร่วมกับใครนั้น ต้องขอให้ 1.ยอมรับในนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาเรื่องการปรองดองแห่งชาติ 2.ต้องเป็นมติของพรรคชาติไทยพัฒนาว่า สรุปแล้วหลังการเลือกตั้ง พรรคควรมีทิศทางอย่างไร ต้องเป็นมติพรรคก่อน ซึ่งทุกอย่างจะชัดเจนหลังวันที่ 3 ก.ค.
ต่อข้อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนายื่นเงื่อนไขต้องได้ดูแลกระทรวงเกษตรฯ คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะยอมรับได้หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า คิดว่าทุกพรรคที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคชาติไทยพัฒนาตัดสินใจคิดว่าจะไปร่วมรัฐบาลก็เข้าใจดีว่าพรรคแกนนำนั้นๆ เข้าใจเรื่องดีว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเชี่ยวชาญเรื่องการเกษตร จึงเชื่อว่าประเด็นนี้ไม่น่าเป็นปัญหาหลัก แต่ปัญหาอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้กำหนดราคาสินค้าการเกษตรทุกอย่าง ในเมื่อกระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้ผลิตผลผลิตมากมาย ช่วยเหลือเกษตรกรแต่การกำหนดราคานั้นไม่สามารถช่วยเกษตรกรชาวไร่ชาวนาได้ ทำให้เราเสียความพยายามที่จะทำให้ผลผลิตสูงขึ้น ราคาดีขึ้น
ส่วนความเป็นไปได้ที่พรรคชาติไทยพัฒนาจะขอกำกับดีแลกระทรวงพาณิชย์ด้วยเสียเลย นายชุมพลกล่าวว่า “ก็ถ้าเป็นไปได้ก็อยากขอกระทรวงพาณิชย์ด้วย แต่คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเลขหลังการเลือกตั้งว่าจะได้มากน้อยเพียงใด” เมื่อถามว่าสำหรับกระทรวงที่ทางพรรคชาติไทยพัฒนาดูแลอยู่ในรัฐบาลนี้อยากจะสานงานต่อหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า “อยากจะขอกระทรวงที่ดูแลอยู่เดิม เพื่อสานงานต่อไป อย่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตอนนี้ก็มีงานค้างอยู่จำนวนมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะนำเอาไปเป็นเงื่อนไขคงลำบาก”