ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ทีมข่าวการเมือง ASTVผู้จัดการ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนที่กำลังอ่านเอเอสทีวีผู้จัดการ สุดสัปดาห์อยู่ตอนนี้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฏาคม โดยพร้อมเพียงกัน
ตอนนี้คงเห็นด้วยว่า ไม่มีทางเลือกที่ดีเลย ทั้งตัวผู้สมัครส.ส.ระบบเขต และพรรคการเมืองที่จะเลือก ก็ “โนโหวต” นั่นแหละ คือทางออกที่ดีที่สุดของการเมืองไทยวันนี้
เพราะวันนี้ การเมืองยังคงเป็นการเมืองน้ำเน่าที่นักการเมืองทำทุกอย่างเพื่อขอคะแนน พอเลือกตั้งเสร็จ ก็ไม่เห็นประชาชนอยู่สายตา
ไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงที่ผ่านมา ได้เห็นนักการเมือง-พรรคการเมืองต่างๆ ที่พยายามช่วงชิงคะแนนจากประชาชนแล้ว รู้สึกสังเวชใจอย่างยิ่ง กับลีลาทของพวกแกนนำพรรคต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ -ชุมพล ศิลปอาชา-ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ไปเล่นบทต่างๆ ทั้งชาวนา ชาวไร่-ขี่มอเตอร์ไซด์วิน-แคะขนมครก-ตำส้มตำ-เป็นเด็กวัดนอนตามศาลา-ขี่สามล้อรับจ้าง
หลังวันที่ 3 ก.ค. 54 ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพปกติ คนพวกนี้จะหายหัวหมด ดังนั้น โอกาสเดียวที่เราจะสั่งสอนนักการเมืองพวกนี้ได้ ก็คือ การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และกา “โหวตโน” เท่านั้น เพราะมันหมดยุคแล้วที่นักการเมืองเวลาจะหาเสียงก็ทำทุกอย่างเพื่อสร้างภาพให้กับตัวเอง โดยคิดว่าประชาชนรู้ไม่เท่าทัน
อย่างคนที่เรียกตัวเองว่า “ไม้บรรทัด” ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จากพรรครักษ์สันติ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ใช้เวลากลางดึกออกไปหาเสียงสร้างภาพเดินตรวจผับ-สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน ย่านเอกมัย-สุขุมวิท แล้วก็ชักภาพการเที่ยวกลางคืนของวัยรุ่นเยาวชน เหมือนกับต้องการสื่อสารทางการเมืองว่า หากได้รับเลือกตั้ง จะเข้าไปแก้ปัญหาสถานบริการ และขอกลับมาจัดระเบียบสังคมอีกครั้ง เหมือนตอนเป็น รมว.มหาดไทย ในยุคทักษิณ 1 ที่เคยสร้างผลงานให้กับปุระชัย จนได้ฉายามือปราบสายเดี่ยว
“ทีมข่าวการเมือง” อยากตั้งคำถามกับปุระชัยว่า การสร้างภาพเช่นนี้ มีประโยชน์อะไร ก็ในเมื่อก่อนหน้านี้ แม้ปุระชัย จะหลุดจากขั้วอำนาจการเมืองมาหลายปี ตั้งแต่แยกทางเดินกับทักษิณ ชินวัตร แต่ปุระชัย ก็ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ซึ่งก็มีอำนาจในการออกกฎหมายต่างๆ ได้เหมือนกับส.ส. จากนั้นก็ได้รับการผลักดันจากเพื่อนรัก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ สมัยเป็น ผบ.ตร. ให้ได้เป็นกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร. อยู่หลายปี
ทำไม ปุระชัย ถึงไม่เข้าไปแก้ปัญหาเรื่องสถานบริการ หรือปัญหาเด็กเยาวชนที่เป็นวัยนักเรียนนักศึกษาไปมั่วสุมเสพยาเสพติด และเที่ยวสถานกลางคืน
เพราะการเป็น ก.ตร. ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับควบคุมการบริหารงานบุคคลของตำรวจทั่วประเทศ หากปุระชัย ต้องการเอาจริงเอาจังกับเรื่องสถานบริการ และปัญหาสังคมของเด็กเยาวชน ก็สามารถใช้อำนาจหน้าที่ ก.ตร.ในการพิจารณาให้คุณให้โทษกับตำรวจระดับต่างๆ ตั้งแต่ผู้บัญชาการภาค-ผู้บังคับการจังหวัด-ผู้กำกับทั้งทางตรง และทางอ้อม
เช่น เวลามีการพิจารณาโผบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับต่างๆ ที่ ผบ.ตร.-รองผบ.ตร. ที่ดูแลแต่ละกองบัญชาการเสนอบัญชีเข้าที่ประชุม ก.ตร.
ปุระชัย ก็สามารถกำชับในที่ประชุมได้ว่า ควรให้แต่ละกองบัญชาการเข้าไปเข้มงวดกวดขันเรื่องสถานบริการ ไม่ให้เปิดให้เด็กเยาวชนเข้าไปเที่ยวหรือเสพยาเสพติด หากพื้นที่ไหน หรือตำรวจคนไหน ทำได้ ไม่มีเรื่องร้องเรียน ก็ต้องพิจารณาความดีความชอบให้เป็นกรณีพิเศษ พื้นที่ไหนมีปัญหามาก สถานบริการเปิดเกินเวลา ตำรวจรับส่วย ก็ต้องจัดการทันที ก.ตร.สามารถทั้งให้คุณ ให้โทษ และลงดาบได้ทันที ไม่ใช่เป็น ก.ตร. ตรายาง ที่นั่งประชุมกันในห้องแอร์ ใครเสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายใครมา ก็ประทับตราเห็นชอบ
แค่ง่ายๆ แบบนี้ ตำรวจทุกท้องที่หากรู้ว่ามีคนใน ก.ตร.จับตามองและเฝ้าสอดส่องเรื่องสถานบริการให้อยู่ในร่องในรอย ตำรวจแต่ละแห่งก็ต้องกวดขันอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีเรื่องเสื่อมเสีย
ปัญหาเรื่องสถานบริการทำผิดกฎหมายก็จะลดน้อยไปได้เอง เพราะกลไกสำคัญที่สุดในการควบคุมเรื่องนี้ก็คือ ตำรวจในแต่ละพื้นที่ แต่ข้อเท็จจริงที่พบเห็นก็ คือ บทบาทของปุระชัยทั้งตอนเป็นสนช. ในยุค คมช.และตอนเป็น ก.ตร.หาได้มีบทบาทอะไรที่ทำให้สังคมจดจำได้ว่า ได้ใช้อำนาจทำประโยชน์ให้กับสังคม
เป็น สนช.ก็ไม่เห็นมีข่าวว่าผลักดันกฎหมายอะไรที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวม เป็นก.ตร.ก็มีแต่ข่าวที่คนจำได้ก็คือ ปุระชัย ใช้การเป็น ก.ตร. ออกมาปกป้อง พล.ต.อ.พัชรวาท ผบ.ตร.มือเปื้อนเลือด ที่สั่งตำรวจทำร้ายประชาชนในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ
แล้วมาตอนนี้ ก็เอามุกเก่าๆ มาหาเสียงเช่น เป็นไม้บรรทัดบ้าง ขอเป็นผู้นำอาเซียนบ้าง โถ่! ไม้บรรทัดงอ และเสื่อมสิไม่ว่า
จะเลือก ปุระชัยหรือ รักษ์สันติ หรือไม่ ก็โปรดใคร่ครวญกันให้ดี
ส่วน “มาร์คหน้าหล่อ-ดีแต่พูด”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เช่นกัน หลังหาเสียงมาหลายอาทิตย์ นอกจากคะแนนไม่พุ่งพรวด ยังมีแต่ดิ่งเหว
สองสัปดาห์สุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา เลยจนมุม งัดเอามุกเดิม ปลุกผีทักษิณ มาหาเสียง
ด้วยความคิดแบบง่ายๆว่า ในกลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจจะเลือกใคร หรืออาจจะ “โหวตโน” คนกลุ่มนี้ ต้องการข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะอยากให้โอกาสเพื่อไทย และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้จะมีความไม่ชอบหรือเกลียดทักษิณ ชินวัตรและพวกเสื้อแดง
แต่ก็อยากให้โอกาสเพื่อไทย และยิ่งลักษณ์ เพราะความเข็ดหลาบกับ อภิสิทธิ์ และประชาธิปัตย์ที่บริหารประเทศมาสองปีกว่าแล้วไม่มีผลงาน รวมถึงการเลือกพรรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์เพราะอยากประชดมาร์ค กับชวน หลีกภัย ช่างทาสีคนใหม่
ที่ระยะหลัง ชวนฉีกหลักการทิ้ง ออกมาชี้นำเรื่องตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งที่รู้แล้วว่าเสียงน่าจะแพ้เพื่อไทย แต่ยังคิดจะแย่งสิทธิ์ชิงตั้งรัฐบาลก่อน โดยเล่นบทหน้าด้านบวกเอาพรรคภูมิใจไทยเข้าไปด้วย เป็นสองรุมหนึ่ง ถ้าเสียงสองพรรคมากกว่า ก็จะทวงสิทธิ์ตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย
เมื่อปชป.หวังพึ่งจมูก เนวิน ชิดชอบ หายใจ แต่คนไม่ยอมรับ เพราะพรรคนี้ภาพโกงติดตา ชวนก็เลยต้องออกมาทาสีให้เนวิน หวังย้อมดำด้วยสีขาวให้คนยอมรับ แต่ปรากฏเสียงสะท้อนกลับมาด่ากันขรมไปทั้งแผ่นดิน ว่า ตาแก่เมืองตรังคนนี้เพี้ยนหนักจนกู่ไม่กลับไปแล้ว
ดังนั้น ในสมรภูมิเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์ ก็ต้องไปแย่งคะแนนมาให้ได้ เพราะคนกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่พร้อมจะเปลี่ยนการตัดสินใจได้ตลอดเวลา คือ อาจเปลี่ยนใจมาเลือกประชาธิปัตย์ก็ได้ และวิธีที่อภิสิทธิ์และประชาธิปัตย์ เห็นว่าทำง่ายที่สุด
ก็คือ ขุดซากปีศาจทักษิณ มาทำให้คนกลุ่มนี้หวาดกลัว
ทำให้คนเกิดความรู้สึกว่า ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้ว ยิ่งลักษณ์ จะนิรโทษกรรมหรือทำทุกอย่างเพื่อเอาเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท คืนให้พี่ชายตัวเอง และพวกแกนนำเสื้อแดง ที่สั่งเผาบ้านเผาเมืองจะได้เป็นส.ส. ได้เป็นรัฐมนตรี จะไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ จะทำทุกอย่างเพื่อล้มคดีความ เช่น คดีล้มเจ้า คดีก่อการร้าย เป็นต้น
แค่นี้ คนที่กำลังลังเลใจ จะเลือกเพื่อไทย อยากให้โอกาสยิ่งลักษณ์ หรือจะไปเลือกพรรคอื่นๆ เช่น เลือก ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เอา ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เลือกชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน-กิจสังคม-ภูมิใจไทย หรือ โหวตโน
พอได้รับข้อมูลแบบนี้ จากอภิสิทธิ์ ที่ปลุกเร้าอย่างหนักในช่วงนี้ผ่านการปราศรัยหรือคำให้สัมภาษณ์และป้ายหาเสียงทั่วประเทศว่า เพื่อไทยจะเข้าไปล้างผิดให้ทักษิณ เพื่อไทยจะทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย เพราะจะไปออกกฎหมายนิรโทษกรรมแล้วคนจะออกมาต่อต้าน แค่คิด คนก็สยองแล้ว ตั้งสติคิดตามไม่ได้ ยิ่งเจอนักพูดมากกว่าทำ อย่าง อภิสิทธิ์ ก็พลอยเคลิ้มตาม เชื่อไปหมด สุดท้ายเลยเข้าคูหา กาเบอร์ 10
เสร็จ มาร์ค อีกตามเคย
ที่บอกว่าคิดตามไม่ทัน ก็เพราะพวกนักการเมืองมันดีไซน์ไว้หมดแล้วว่า จะหาเสียงอย่างไรให้คนเชื่อ คนเห็นด้วย บนการพูดแบบปกปิดข้อเท็จจริงเอาไว้บางส่วน เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองและทำลายคนอื่น
คิดง่ายๆ อภิสิทธิ์ เป็นนายกฯสองปีกว่า ทำได้แค่ ถอนพาสปอร์ตทักษิณ ทั้งที่หากเอาจริง ก็สามารถไล่ล่า เอาตัวมาติดคุกในเมืองไทยได้ทุกเมื่อ ด้วยการกดดันทางการฑูตไปยังประเทศที่ทักษิณเข้าไปอยู่หรือไปทำธุรกิจ หรือแม้แต่ส่งตำรวจสากลของไทย หรือประสานตำรวจสากลให้ไปรวบทักษิณตามสถานที่ต่างๆ ก็ได้ แต่ก็ไม่เห็นจะทำอะไร
ส่วนพวกเสื้อแดง ก็มีคนของประชาธิปัตย์อย่าง กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ สมัยเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือ พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเป็นพยานในชั้นศาลเพื่อช่วยเบิกความให้แกนนำ นปช.อย่าง วีระ มุสิกพงศ์ -ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-เหวง โตจิราการ ได้ออกมาจากคุก และมาลงสมัครส.ส.เพื่อไทย
แล้วตอนนี้จะมาขู่ให้คนกลัว ว่าหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล พวกแกนนำ นปช.ได้เป็นส.ส.ได้เป็นรัฐมนตรี บ้านเมืองจะไม่มีนิติธรรม คนเผาเมืองจะได้เป็นใหญ่
ทั้งหมด ล้วนเป็นแผนอันแยบยลของ อภิสิทธิ์ และประชาธิปัตย์ ที่รู้มาตลอดก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีทางที่ ปชป.จะสู้เพื่อไทย และทักษิณได้เลย
ดังนั้น ก็ต้องให้ ผีทักษิณ วนเวียน อยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ส่งทักษิณลงหลุม รวมถึงเลี้ยงไข้พวกแกนนำเสื้อแดงไม่ให้ตาย ให้อยู่คอยเอาไว้ให้ ปชป.ขุดขึ้นมาหลอกหลอน เป็นการเก็บไว้เพื่อใช้งานยามสบโอกาส เช่นตอนนี้ที่เรตติ้งปชป.ยังตามหลังเพื่อไทย ก็ขุดผีทักษิณ-เสื้อแดง ขึ้นมาหลอกหลอนให้ประชาชนกลัว จะได้ไม่เลือกเพื่อไทย มาเลือกปชป.ดีกว่า
ที่อภิสิทธิ์ บอกว่าให้ประชาชนเลือกปชป. เพื่อให้ก้าวข้ามพ้นทักษิณ ชินวัตร
จริงๆ แล้ว ประเทศไทยก้าวข้ามพ้นทักษิณมานานแล้ว แต่อภิสิทธิ์ และปชป. ต่างหาก ที่เลี้ยงผีทักษิณ ไว้หากินไม่หยุดหย่อน