แข่งกันพาไทยไปล้มละลายเรอะ?

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

เหลืออีก 2-3 วันเท่านั้น ทำไมยังมีความรู้สึกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ยังเป็นความไม่แน่นอน ทั้งๆ ที่ป้ายหาเสียงของผู้สมัครเกลื่อนเมือง สร้างมลภาวะเป็นพิษทางสายตา ยิ่งเห็น 4-5 ป้ายตั้งไกล้กับภาพสัตว์ ทำให้แยกแยะยากว่าอะไรชั่วร้ายกว่ากัน

จะมีเลือกตั้งหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เวรกรรมของบ้านเมือง มาถึงจุดนี้ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายของการระดมพลังในการโกหกพกลมหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนคนมีสิทธิกาเบอร์ด้วยนโยบายเอาใจสารพัด มีข้อเสนอจะให้ ทำเอาคนชอบของฟรีตัดสินใจยาก

เมื่อเห็นข้อความยั่วใจคนให้เลือก บอกได้เลยว่าทุกพรรคแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยนโยบายประชานิยม เพื่อนำไทยไปสู่สภาพล้มละลายเหมือนอาร์เจนติน่า

หลายคนได้อ่านนโยบายฝันเฟื่องแล้วต้องรีบเอากระจกมาส่อง ดูว่าเขางอกออกจากหัวหรือยัง? ทำไมนักหาเสียงทั้งหลายนึกว่าชาวบ้านโง่งม จะต้มตุ๋นอย่างไรก็ได้

ช่วงเบียดกันเข้าโค้งสุดท้าย ใครมีทีเด็ด ลูกเล่น กระสุนชุดสุดท้าย ต้องทุ่มออกมาเบียดคู่แข่งให้ได้ ลงทุนขนาดนี้แล้ว ต้องถือคติ “ถ้าจะล้มช้างอย่าเสียดายเกลือ”

อืมม์...เราจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศจริงหรือ? บ้านเมืองจะต้องติดหล่มจมปลักอยู่ในบ่วงเวร บ่อกรรม ด้วยน้ำมือของขบวนการเหลี่ยมร้ายอีกรอบหรือ

หลับตานึกถึงอนาคตแล้วบอกได้ว่าสยดสยอง เมื่อเห็นการแพล็มของนโยบายซื้อใจก๊อกสุดท้าย ประกาศออกมาวันก่อน หลังจาก “น้องปูแดง” ออกอาการเป๋ ซวดเซเป็นแม่ปู เพราะโดน “พี่มาร์ค” ตอกเข้าไปหนักๆ 2-3 ดอก แทบตั้งสติรับไม่ทัน

เอาเพียงประเด็นนิรโทษกรรม คืนทรัพย์สินให้เหลี่ยมร้าย ก็ลนลาน! ความเป็นสาวมั่น จ้อเหมือนแผ่นเสียงตกร่องท่องสคริปต์ ตระเวณต่างจังหวัดออกอาการสะดุด

ต้องถาม “น้องปู” ว่า กล้าจะเป็นนายกฯ หรือ? คงมีคนตอบแทนเธอว่า “แน่นอน เพราะเธอไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก พี่เหลี่ยมร้ายคิดให้ทุกขั้นตอนอยู่แล้ว” เธอจะเป็นนอมินีเต็มบ้องต่อจากพี่เขย “ชาย ตู้เย็น” เพียงแต่หน้าตาน่ามองกว่าเท่านั้น ฮ่า!

เธอเป็นนายกฯ ได้อย่างไร เมื่อเธอเป็นตัวของตัวเองยังไม่ได้!! ทุกแห่งที่เธอไป ต้องพูดตามสคริปต์ ทุกจังหวะก้าวย่างบนเส้นทางสู่เก้าอี้นายกฯ มีสมุนเหลี่ยมร้ายจัดการให้เสร็จ! แม้ยามหลับ เธอคงไม่เป็นอิสระ พี่เหลี่ยมร้ายมาเข้าฝันกำกับบททุกคืน

สังเกตหรือไม่ว่าทำไมขบวนการเชลียร์ องค์รักษ์แก้ต่าง เคยแวดล้อมตัวเธอ จึง หายหัวไปหมด ทั้งๆ ที่ทุกโพลบอกว่าเธอไกล้เก้าอี้นายกฯ แค่มือเอื้อมถึง หรือพวกเขี้ยวยาว เป็นยอดนกรู้ว่าผลสุดท้ายเธอจะขี่ม้าขาวไม่เข้าป้าย ตกม้าเสียก่อน ต้องรีบชิ่งห่าง

ตัวตนที่แท้จริงปรากฎ เมื่อเธอให้สัมภาษณ์สื่อตัวต่อตัว! ดูความเป็นสาวมั่นเกินระดับของเธอแล้ว บอกได้เลยว่า “น่ากลัวมาก” เพราะเธอพูดเหมือนเธอพ่น ไม่หยุดคิด! ได้เห็น ฟังเธอแล้วเกิดคำถาม “เธอกล้าพูด กล้าแสดงออกขนาดนั้นได้อย่างไร?”

วันก่อนเธอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเป็นภาษาอังกฤษ เธอพูดได้เร็ว คล่อง! ขออภัย ภาษาอังกฤษของเธอยังใช้ไม่ได้สำหรับการเป็นนายกฯ ดูพื้นฐานแล้ว ถ้าเข้าหลักสูตรเร่งรัดก็ยังไม่ทัน! ความกล้าพูดแบบผิดๆ ถูกๆ ด้วยหน้าตายิ้มแย้มนี่แหละ น่ากลัว!

พูดแบบนี้คงมีคนเถียง “อ้าว! ก็ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่ของเธอ จะให้พูดเก่งเหมือนเด็กเรียนโรงเรียนอินเตอร์ โตเมืองนอกได้อย่างไร!” จำ “เสี่ยเหลิม” ได้หรือเปล่า ไม่ใช่เพราะกล้าพ่นภาษาปะกิตในสภาฯ ไม่ใช่เรอะ จึงต้องเป็นตัวโจ๊กทุกวันนี้

ที่น่าสยองกว่าคือ คำตอบของเธอ ไม่ตรงคำถาม! ออกแนวถามลิงตอบค่าง ถามช้างตอบม้า ทำให้สงสัยว่าเธอเข้าใจคำถามหรือไม่? หรือใครจะถามอย่างไร ต้องตอบตามสคริปต์ ไม่อย่างนั้นจะคิดเองไม่ทัน! ตอบไม่ตรง ดีกว่าตอบแล้วพลาด งั้นเถอะ!

อยากสงสาร! แต่ทุกคนควรประมาณตน รู้จักตัวเอง รู้จักเหนียมอาย! เธอจะเป็นนายกฯ ต้องออกงาน พบปะผู้นำต่างประเทศ! ไม่ใช่พวกสาวบาร์เบียร์ เมียเช่าฝรั่งย่านพัทยา สัตหีบ ยุค ’60! ที่ผ่านมา เธอพบกับทูตสวิส นอร์เวย์ อังกฤษ สหรัฐ มาแล้ว

พวกทูตฝรั่งคงอยากพบปะ ประเมินศักยภาพของเธอ! และจะวัดได้จากคำพูดจา ความฉลาด สติปัญญาของเธอจากการพูด การใช้ภาษานั่นแหละ! จะได้รู้ว่าถ้าประเทศไทยมีเธอเป็นผู้นำ จะรุ่งเรือง หรือตกต่ำ หายนะ ชาวบ้านจะอดอยาก หรือต้องทนอดสู

เอาเถอะ! ถ้าบอกว่าพูดภาษาอังกฤษแบบดำน้ำไม่สำคัญ เคยได้ยินเธอพูดกับชาวบ้านด้วยภาษาไทยหรือไม่ การใช้ภาษา เสียง มาด บุคลิกของเธอเป็นอย่างไร? ถ้าประเมินตรงๆ สไตล์เธอแสดงออกถึงความอยากติดดิน เสียงลากยานถึงระดับ “แม่ค้า”

อ้าว! ก็เธอเป็นนักธุรกิจ คนทำมาค้าขาย จะใช้ภาษาผู้ดีตีนแดงเหมือน “พี่มาร์ค” ได้อย่างไร? ต้องติดดิน!!! มาดแบบนี้ ฝรั่งบอกว่า “It shows” หรือ “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” นั่นแล! ยิ่งอยากรู้ว่าพวกทูตฝรั่งคุยกันเรื่องเธอแล้วส่งเสียงคิกคักอย่างไร

เธอจะเสนอก๊อกสุดท้ายวิสัยทัศน์นโยบายสำหรับ พ.ศ. 2563 ว่าทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเอง เกษตรกรมีที่ดินทำกิน ค่าจ้างขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อวัน เงินเดือนผู้จบปริญญาตรีเริ่มต้นที่ 30,000 บาท คนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า ปลอดยาเสพติด

เธอจะโม้ว่า เยาวชนจะมีการศึกษาทั่วถึงทันโลก การคมนาคมขนส่งในกรุงเทพฯจะสะดวกยิ่งขึ้น รถไฟฟ้าทั้ง 10 สายจะแล้วเสร็จ สร้างเมืองใหม่ ที่อยู่อาศัยตามเส้นทางรถไฟฟ้า การขนส่งระบบรางจะครอบคลุมทั้งประเทศ มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมเมืองใหญ่

จบปริญญาตรีได้เงินเดือนเท่าค่าแรงขั้นต่ำ ราคาข้าวผัดคงจานละ 5 พันบาท เมืองไทยคงล่มจมด้วยประชานิยม ไปโลดแซงหน้าอาร์เจนติน่าแน่ๆ นิ! อิอิอิ!!!