“สอดแนมการเมือง”
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
เลือกตั้งระบอบโจราธิปไตย ใครเงินเยอะกว่า..โกงเก่งกว่า..โจราคนนั้นก็..ชนะ!!!
ยิ่งไกล้วันเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 บรรดาโจรการเมืองยิ่งต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย หวังจะเข้ายึดครองอำนาจรัฐไทย เพื่อนำพลพรรคเข้าปล้น“ขุมทรัพย์งบประมาณแผ่นดิน”ของชาติ ในนามรัฐบาลไทยที่มาจากการ(ซื้อเสียง)เลือกตั้งโดยประชาชน
คำถามก็คือ กกต.จัดการเลือกตั้งครั้งนี้ให้บริสุทธิ์ยุติธรรมได้หรือ? การเลือกตั้งครั้งนี้..เป็นประชาธิปไตยจริงหรือ?
ในขณะที่ประชาชนคนไทยรู้กันถ้วนทั่วแล้วว่า ผู้รับสมัครเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร ทั้งชนิดแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อของทุกพรรคการเมือง มีการใช้เงินซื้อเสียงประชาชนทุกหัวระแหง บางแห่งซื้อกันนับพันบาท แต่บางที่ซื้อเสียงต่อหัวสูงถึง 2-3000 บาทเลยทีเดียว
ธนาคารแห่งประเทศไทยถึงกับรายงานว่า ห้วงนี้..มีเงินนับหมื่นล้านเคลื่อนไหวกันอย่างผิดปกติ แถมธนาคารบางแห่งยังระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการซื้อเสียงอย่างรุนแรง ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท!
กระทั่ง นางสดศรี สัตยธรรม หนึ่งในกกต.กลางยังอดรนทนไม่ไหว จนถึงกับออกมาพูดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการซื้อเสียงกันอย่างหนัก ถ้าจะมีการปฏิวัติรัฐประหารก็ทำเสียแต่ตอนนี้เลยดีกว่า!
แต่ท่ามกลางการซื้อเสียงอย่างครึกโครม กกต.ใหญ่ทั้ง 5 คนยังคงทำเสมือน“คนตาบอด” ที่ไม่รู้-ไม่เห็น-ไม่ยินดี-ยินร้าย กับการซื้อเสียงเลือกตั้งกันอย่างโจ๋งครึ่มในครั้งนี้แม้แต่น้อย
แถม กกต.ใหญ่ถึง 4 คน ยังใช้เวลานับสัปดาห์ดอดไปดูงานที่ยุโรป ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วง“หน้าสิ่วหน้าขวาน”ของฤดูจับโจรการเมืองซื้อเสียงเสียอีก โดยทิ้ง กกต.ใหญ่ไว้เฝ้าสำนักงานแค่คนเดียว ทำให้กระแสข่าวกกต.จะแจกใบเหลืองใบแดง ก่อนวันที่ 3กรกฏาคมยังคงเงียบฉี่ไร้วี่แววจนบัดนี้
ด้วยเหตุที่กกต.ทั้งท้องถิ่นและส่วนกลางไร้ประสิทธิภาพ ทำงานกันแบบตั้งรับมากกว่ารุก จนกกต.ได้กลายเป็นองค์กร“เสือกระดาษ” สรุปตรงไปตรงมาก็คือ วันนี้โจรการเมืองทั้งหลายจึงเริงร่ากับการซื้อเสียง โดยไม่กลัว-ไม่เกรง-ไม่สนใจใครหน้าไหน.แม้แต่น้อย
การเลือกตั้งที่กกต.รับผิดชอบในยามนี้จึงไร้กติกา เพราะ กกต.ปล่อยให้มีการทำลายป้ายหาเสียงไปทุกหย่อมหญ้า รวมทั้งใช้ป้ายหาเสียงด้วยนโยบายประชานิยม ลด-แลก-แจก-แถมกันอย่างไร้สติ รวมทั้งนโยบายโกหกพกลมหลอกชาวบ้าน ทั้งๆ ที่เป็นนโยบายซึ่งทำจริงไม่ได้เลย
ที่สำคัญ กกต.ยังปล่อยให้นักโทษหนีคุกชาวมอนเตรเนโกร เข้ามาควบคุมบงการพรรคเพื่อไทยอย่างเปิดเผย ถึงขนาดขึ้นคำขวัญไว้บนป้ายหาเสียงว่า ทักษิณ..คิด..พรรคเพื่อไทย..ทำ ซึ่งนักกฎหมายหลายคนระบุว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง แต่กกต.ใหญ่ทั้ง 5 คนก็กลับปล่อยปละละเลย ไม่ทำอะไรกับการกระทำที่ผิดกฎหมายนี้แต่ประการใด
กกต.ยังปล่อยให้การเลือกตั้งสกปรกครั้งนี้ กลายเป็นความรุนแรงถึงขั้นเข่นฆ่าหัวคะแนนกันอย่างโหดเหี้ยม สุดท้าย..ก็คือ..ปล่อยให้มีการใช้เงินแข่งซื้อเสียงกันอย่างโจ๋งครึ่ม!
จนบัดนี้..การกระทำผิดกฏหมายทั้งปวง ที่เกิดขึ้นอย่างเกลื่อนกล่นกว้างขวาง ของบรรดาโจรการเมืองที่แข่งขันกันอยู่ กกต.ใหญ่ส่วนกลางทั้ง 5 คน ก็ยังคงทำตัวเป็น“คนตาบอดคลำช้าง” จับโจรการเมืองโกงการเลือกตั้งไม่ได้สักคนเลย
การเลือกตั้งกำลังเดินเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว การชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่28 ของประเทศไทย ระหว่าง “นารีขี่หมาขาว” น้องสาว“นักโทษชายแม้ว” กับ “ชายชาตรีชอบดูดไอติมเพื่อน” กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ตอนนี้..ทั้งโพลจริง-โพลรับจ้าง-โพลตอแหล-โพลของพรรคการเมือง โพลลับๆ ล่อๆ และโพลเปิดเผยของส่วนราชการบางแห่ง ล้วนระบุว่า..พรรคปชป.ยังคงเสียเปรียบพรรคเพื่อไทย ทั้งในภาคอีสาน ภาคเหนือตอนบน ภาคกลางบางส่วน และกรุงเทพฯ
ยิ่งปชป.ผลักมิตรแท้อย่างพันธมิตรฯให้กลายเป็นศัตรู ถึงขนาดระบุว่า..พันธมิตรฯ เป็นภัยต่อความมั่นคงเฉกเช่นคนเสื้อแดง ก็ยิ่งทำให้ปชป.โดดเดี่ยวไร้มิตร-ไร้มวลชนเคียงข้าง
พันธมิตรฯนั้นเคยสนับสนุน ปชป. จนทำให้ ปชป.ที่เคยได้คะแนนแค่ 7 ล้านเสียง ได้เพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านเสียง ดังนั้น..เมื่อพันธมิตรฯตัดสินใจลงมติรณรงค์“โหวตโน” หรือกากบาทไม่ลงคะแนนให้พรรคการเมืองทุกพรรค เพื่อเดินหน้าสู่ก้าวแรกแห่งการปฏิรูปการเมืองไทย
แน่นอน..คะแนนเสียงของพันธมิตรฯ ย่อมกระทบกับปชป.ในแง่ลบไม่มากก็น้อย!
เมื่อเข้าตาจน..หนทางชนะดูจะตีบตัน ก็เกิดข่าวลึกแต่ไม่ลับว่า..มีนักการเมืองตาโปนตัวดำจากปักษ์ใต้คนหนึ่ง ได้แอบย่องไปพบกับผบ.ทบ. หลังจากนั้นไม่นาน ผบ.ทบ.ก็ออกมาพูด ในเชิงเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรค ปชป.ด้วยข้ออ้างให้เลือกพรรคที่ปกป้องบ้านเมืองและสถาบันกษัตริย์ ผ่านทางจอทีวีของกองทัพบกถึง 2 ช่อง
ขณะเดียวกัน..ผบ.ทบ.ก็ได้ประณามขบวนการคนไทยในต่างประเทศ โดยระบุชื่อ นายใจ อึ้งภากรณ์ และ นายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่ป่วนบ้านเมือง และจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย
งานนี้..รู้ๆ กันอยู่ว่า คนเสื้อแดง 2 คนนี้ ล้วนอยู่ภายใต้การสนับสนุนของทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงเสียงจริง ทั้งหมดก็เลยถึงบางอ้อทันทีว่า ผบ.ทบ.นั้นโจมตีพรรคเพื่อไทย..เพื่อหนุนพรรค ปชป.ไงล่ะครับ
แต่ดูเหมือน ผบ.ทบ.ที่อ่อนหัดทางการเมือง จะถูกนักการเมืองตัวดำตาโปนหลอกซึ่งๆ หน้าเพราะลงทุนเอากองทัพบกมาเสี่ยงกับการเสียชื่อเสียง แต่กลับได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เนื่องจากพรรคปชป.ยังคงเสียเปรียบทางการเมืองต่อเพื่อไทยอยู่ดี
เรียกว่า..ผบ.ทบ.ลงทุนเอากองทัพบกมาสู้ให้แล้ว แต่พรรค ปชป.ก็ยังไม่อาจตีตื้น หรือสู้กับพรรคพท.ไม่ได้ตามเคย!
ทั้งหมดเพราะ2 ปีกว่าของรัฐบาลอภิสิทธิ์นั้น ผลงานไม่เข้าตาประชาชนแม้แต่น้อย เพราะ“มาร์ค”ดีแต่พูด-เก่งกู้กับโกง-อ่อนแอจนเกิดการเผาบ้านเผาเมือง-ก่อการจลาจล-ก่อการร้าย ฆ่าผู้คนและทหารกลางเมืองหลวงถึง 2 ครั้ง 2 ครา
ที่สำคัญรัฐบาล“มาร์ค”ประกาศจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต แต่กลับปล่อยให้พวกจาบจ้วงทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ขยายตัวมากขึ้นในทุกมิติ ฯลฯ
ยิ่งปัญหาปากท้องของประชาชนด้วยแล้ว รัฐบาล“มาร์ค”จงใจปล่อยให้สินค้าขึ้นราคากันจนแพงหูฉี่ แถมยังจงใจปล่อยให้เกิดการกักตุนสินค้าบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์มจนขาดแคลนอย่างหนัก แม้รัฐบาลจะขึ้นราคาน้ำมันปาล์มจากราคา 39 บาท เป็น 47 บาทต่อขวด แต่ห้วงนั้น..น้ำมันปาล์มก็ยังคงขาดแคลนจนต้องปันส่วนขายกันเลย
เรื่องผลประโยชน์น้ำมันปาล์มนั้น..คนไทยรู้กันทั่วว่า คนในรัฐบาลมาร์คมีส่วนเกี่ยวข้องได้เสียอยู่ด้วย ถึงวันนี้..น้ำมันปาล์มจะไม่ขาดแคลนแล้ว แต่ราคาน้ำมันปาล์มยังคงไม่มีการลดราคาแต่ประการใดเลย!
ส่วนปัญหาการคอร์รัปชั่นนั้น รัฐบาล“มาร์ค”ล้มแชมป์รัฐบาล“แม้ว”จนชิดซ้ายไปเลย เพราะนักธุรกิจไทยต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ ให้คนในรัฐบาล“มาร์ค”มากกว่ารัฐบาล“แม้ว” ก็รัฐบาล “แม้ว”นั้นจ่ายเงินใต้โต๊ะ 20-30% แต่รัฐบาล“มาร์ค”นั้น..ต้องจ่ายกันถึง 40-50% เลยล่ะ
เฮ้อ..นักการเมืองอัปรีย์กับจัญไรกันทั้งนั้น อย่างนี้ต้อง“โหวตโน”หรือ“ไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ใคร”
3 กรกฏาคม 2554 กากบาท-ตรงช่องข้างล่างสุด-ขวาสุดเลย..พ่อแม่พี่น้องเอ้ย...!!!