“สอดแนมการเมือง”
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ปราชญ์บางท่านบอกว่า การเมือง คือ หัวใจของชาติบ้านเมือง เพราะการเมืองซึมซาบอยู่ในทุกมิติของสังคม
ประชาธิปไตยไทยเดินทางมากว่า 79 ปี ท่ามกลางนักการเมือง-นักวิชาการ-สื่อมวลชนชั่ว ที่หลงในลาภ-ยศ-เงินทอง ได้สร้างลัทธิแบบผิดๆให้ผู้คนหลงเชื่อว่า เส้นทาง“ประชาธิปไตย”ที่แท้จริงต้อง“เลือกตั้ง”
“การเลือกตั้ง”เป็นดรรชนีชี้ให้รู้ ถึงความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงหรือ“ประชาธิปไตยจอมปลอม”ครับ!
ทว่า..นักการเมือง-นักวิชาการ-นักสื่อมวลชนชั่วเหล่านั้น ไม่ได้พูดให้ครบถ้วนกระบวนความว่า การเลือกตั้งที่มีการใช้เงินซื้อเสียงและกลโกง เพื่อเอาชัยในการเข้ายึดครองอำนาจรัฐนั้นถือเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกและไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แถมยังเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายบ้านเมือง รวมทั้งยังเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยตรงอีกต่างหาก
มาตราฐานประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น การเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการซื้อเสียงและโกงแบบเมืองไทยครับ!
79 ปีประชาธิปไตยไทยบนหนทางเลือกตั้ง นักการเมือง-นักวิชาการ-สื่อมวลชนทั้งชั่วและดี ล้วนรู้ถึงเบื้องลึกกับเบื้องลับว่า ทุกครั้งที่ยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรไทยนั้น จะมีนักการเมือง-นักธุรกิจ-ข้าราชการชั่ว สุมหัวกันโกงและซื้อเสียงเลือกตั้งเสมอ
การซื้อเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองไทยนั้น เริ่มต้นจากให้รองเท้าแตะ1 คู่ ก่อนลงคะแนนเอาไป 1 ข้าง หลังลงคะแนนเสียงแล้ว..ให้อีก1 ข้าง บางแห่งของภาคอีสานมีการให้“ปลาทูเค็ม”ก็มี เรียกว่า..ให้ข้าวของเล็กน้อยเป็นสินน้ำใจ..ซึ่งก็คือการซื้อเสียงนั่นเอง
ต่อมานักการเมืองได้เปลี่ยนมาจ่ายเป็นเงินสดแทน เพราะข้าวของนั้นยุ่งยากต่อการซื้อและจ่ายแจก ที่สำคัญ..ข้าวของที่แจกยากที่จะถูกใจผู้คนทุกคน การให้เป็นเงินสดนั้น..ถูกใจทุกคนแน่นอน เพราะชาวบ้านจะเอาเงินไปซื้ออะไรก็ได้ตามใจชอบ
การแจกเงินของแต่ละเขตเริ่มต้นจาก 1 ล้านบาท ขึ้นเป็น 3 ล้านบาท กลายเป็น 5 ล้านบาท 10 ล้านบาท 15 ล้านบาท 20-25 ล้านบาท จนกระทั่ง 30 ล้านบาทในปัจุบัน
แต่การเลือกตั้ง 3 กรกฏาคม 2554 นักการเมืองและนักธุรกิจชั่วบางพรรค ถึงกับทุ่มเงินซื้อตัวอดีต ส.ส.เกรดเอบวกบางคนสูงถึง 60 ล้านบาท แถมให้เงินซื้อเสียงต่างหากอีก 30-40 ล้านบาท!
ศึกชิงแผ่นดินไทยครั้งนี้ ทำไมทุกพรรคการเมืองจึงทุ่มเงินซื้อเสียง มากมายเป็นประวัติการณ์ประเมินประมาณกันว่า จะมีการใช้เงินไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท!
คำตอบคือ..นอกจากนักการเมืองชั่ว จะหากินจากเงินงบประมาณแผ่นดิน 2.2 ล้านๆ บาทแล้ว ยังมีเงินมหาศาลจากบ่อน้ำมันในอ่าวไทย-กัมพูชา ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า5.5 ล้านๆ บาท นั่นทำให้“เทพเทือก”อดใจไม่ไหว ถึงกับป่าวประกาศแบบไม่กลัวฟ้า-ดิน หลังได้เข้าพบกับฮุนเซนที่กรุงพนมเปญว่า...
“คนไทยอย่าเสียเวลาทะเลาะกันเรื่องที่ดิน(4.6 ตร.กม.)แค่แมวดิ้นตายเลย มาหาผลประโยชน์ในทะเลกันดีกว่า..”
ดังนั้น กรณี MOU 2543 ที่รับรองแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน จึงมีการส่งทอดต่อจากรัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่า โดยเขมรฮุนเซนมักเรียกร้องให้ทุกรัฐบาลไทย อย่าได้ยกเลิก MOU 2543 โดยเด็ดขาด
หากเราส่องกล้องมองการแข่งขันเลือกตั้งในวงจรอุบาทว์ ที่เริ่มต้นด้วยคำประกาศยุบสภาก่อน จากนั้นก็ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งแข่งกัน..เพื่อยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน ก่อนจะใช้อำนาจรัฐที่ได้มาอย่างผิดกฏหมาย..มาโกงชาติบ้านเมือง
นั่นเป็นเรื่องที่นักการเมือง-นักธุรกิจการเมือง-ข้าราชการชั่ว กระทำชั่วจนเป็นเรื่องปกติกระทำผิดกันโดยไม่แยแสต่อกฏหมายบ้านเมือง ที่สำคัญ..กระทำชั่วโดยไม่เคยแยแสต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติเลย
เนื่องจากมีนักวิชาการและสื่อมวลชนชั่ว คอยให้ท้าย-สนับสนุน-ส่งเสริม-ชื่นชม-การเลือกตั้งกำมะลอ ที่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินจัดทุกครั้งว่า เป็นการเลือกตั้งเพื่อนับหนึ่งใหม่ทางการเมือง ทั้งๆที่การเลือกตั้งสกปรกนั้น ไม่สามารถฟอกความสกปรกหรือความผิด ของบรรดานัก
การเมืองที่ทำผิดกฏหมายได้เลย
ทั้งๆที่การเลือกตั้งสกปรกเยี่ยงนี้ ควรถูกนักวิชาการและสื่อมวลชน เปิดโปง-ประณาม-ก่นด่าและทำลายล้างให้หมดสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย แต่นักวิชาการและสื่อมวลชนไทย ที่เป็นขี้ข้าของนักการเมืองชั่วกลับนิ่งเฉย ไม่พูดถึงหรือแฉโพยการกระทำชั่วเหล่านั้นเลย
ทำให้สังคมไทยต้องเดินอยู่บนเส้นด้ายแห่งความไม่มั่นคง การเมืองไทยจึงเต็มไปด้วยคนชั่วขึ้นปกครองบ้านเมือง ส่วนคนดีกลับตกอยู่ใต้เบี้ยล่างของคนชั่ว!
การเลือกตั้งสกปรกวันนี้..จึงเป็นการแข่งขันระหว่างคนชั่ว ใครจ่ายเงินซื้อเสียงเยอะกว่าหรือโกงเก่งกว่า-คนนั้นชนะ พรรคการเมืองใหญ่อย่างปชป.กับเพื่อไทย จึงขับเคี่ยวกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะมีลาภ-ยศ-เงินทองทั้งงบประมาณแผ่นดิน และเงินใต้โต๊ะก้อนมหึมาของบริษัทค้าน้ำมันต่างชาติล่อตาล่อใจอยู่
เมื่อการเลือกตั้งไร้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม..ด้วย กกต.ไร้น้ำยา การเมืองการชิงอำนาจก็ทวีความรุนแรงยิ่งๆขึ้น จนพยากรณ์ล่วงหน้าไว้ได้เลยว่า..หลังทราบคะแนนเสียงว่า พรรค ปชป.ได้สส.กี่คน..เพื่อไทยได้สส.กี่คน..ปัญหาร้ายๆก็จะตามมาอย่างไม่จบสิ้น
หากปชป.ชนะเพื่อไทย นักโทษชายทักษิณกับเพื่อไทยและคนเสื้อแดง จะต้องไม่ยอมรับผลของการเลือกตั้ง จากนั้นก็จะเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า..ปชป.โกงเพื่อไทย แต่หากเพื่อไทยชนะปชป.แล้วตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะด้วยมีมือที่มองไม่เห็นมาขวาง หรือสีเขียวบางคนโดดมาช่วยปชป.ให้ตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคเล็กพรรคน้อยได้สำเร็จ
งานนี้..คงได้เห็นคนเสื้อแดงของคนหน้าเหลี่ยม ออกโรงมาเผาบ้านเผาเมืองกันอีกครา!
ทว่า..การเมืองไทย..อะไรที่ไม่ควรเกิด มันก็เกิดมาให้พวกเราได้เห็นได้ดูตำตามากมายแล้วนั่นคือ ปชป.กับเพื่อไทยอ้างความสงบของชาติ ตั้งรัฐบาลเพื่อความปรองดองแห่งชาติขึ้นมาล่ะ?
แน่นอน..ทั้งเพื่อไทยและปชป.คงโดนแฟนๆด่าขรมในตอนแรก ทว่า..“วรนุสหล่อ”กับ “วรนุสห้อย”ก็ผสมพันธุ์ให้เห็นกับตามาแล้วนี่ ทำไม“วรนุสหล่อ”กับ“วรนุสสวย”จะผสมพันธุ์กันไม่ได้ล่ะ..โลกนี้มีอะไรแน่นอนนิรันดร์กาลไหม..หือ..?
การเมืองไทยพรรคเล็กพรรคน้อยในสถานการณ์แบบนี้..คือ..ตัวแปร แต่ถ้าพรรคเล็กพรรคน้อยมีข้อเรียกร้องสูงเกินจริง ถึงขนาดจะผลักดันให้“คนหูกาง” ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทนพรรคใหญ่ ไม่แน่นะครับ..พรรคใหญ่ 2 พรรคอาจดัดสันดาน ดับความกระสันต์อยากได้เกินตัวของพรรคเล็กพรรคน้อย ด้วยการใช้สูตรลับที่“จรกาตาโปน”แอบโทรศัพท์ และส่งใครบางคนไปคุยกับ“นักโทษหน้าเหลี่ยม”แล้วว่า..
ถึงเวลาแล้วที่..ใหญ่ต้องจับใหญ่..ส่วนใครจะเป็นนายกฯนั้น..คุยกันอีกที..โอเคไหม?
การเมืองไทย..อะไรที่ไม่น่าเกิด..ชอบเกิด! ยิ่งมีนักการเมืองที่ชั่วเหนือจินตนาการ ได้เป็นสส.เสียงข้างมากในรัฐสภาและรัฐบาล เรื่องชั่วๆเกินจินตนาการชนิดคาดไม่ถึงอีกเยอะ จะเกิดขึ้นในผืนแผ่นดินไทยของเราครับ
ดังนั้น..แม้วชนะ-มาร์คชนะ..ชาติไทยลุกเป็นไฟแน่นอน..จริงไหม..?
นักการเมืองอัปรีย์-จัญไร-ชั่วได้ใจขนาดนี้ หนทางแก้เห็นแค่ทางเดียวตอนนี้ นั่นคือ กางบัตรเลือกตั้ง..ล่างสุด-ขวาสุด-กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ใคร..!