สาระนิยาย..สัตว์การเมืองตัวผู้-ตัวเมีย!!!

“สอดแนมการเมือง”
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ขณะที่ศึกนักการเมืองกำมะลอ กำลังใช้เงินโรมรันพันตูเข้ายึดอำนาจรัฐไทย เพื่อหวังจะคอร์รัปชั่นโกงกินบ้านเมือง อย่างเอาเป็นเอาตายกันอยู่ในประเทศไทย..ยามนี้..

ณ มุมลึกลับแห่งหนึ่งในโลกกลมๆใบนี้ ชายหญิงกลุ่มหนึ่งนั่งประชุมกันด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ก่อนที่ชายหน้าเหลี่ยมนั่งตรงหัวโต๊ะจะเอ่ยขึ้น..

“..แข่งกีฬาย่อมมีแพ้มีชนะ แต่ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เอ้อ..เราจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด..ต้องชนะลูกเดียว..”

ความตึงเครียด-ขึงทั่วบรรยากาศในห้องของคฤหาสน์หรูแห่งนี้

“...ถ้าแพ้คราวนี้..ผมอาจเฉาตาย อาจไม่ได้กลับเมืองไทยแบบตัวเป็นๆ เพราะโอกาสทองที่พวกเราจะเอาชนะเลือกตั้งสูง..สูงมากขนาดนี้..หาไม่ได้ง่ายๆ นะ..”

สาวสวยหน้าหวานวัย 44 ปี มองชายวัยวัย 60 กว่าปี ด้วยสายตาแสนห่วง..ขณะที่หน้าเหลี่ยมของชายตรงหน้าเธอ..ดูเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ

“..ที่สำคัญ..มักเกิดเรื่อง“เข็มขัดสั้น”หรือ“คาดไม่ถึง”เสมอ สถานการณ์การเมืองอาจมีการพลิกผัน แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ผมเสียเปรียบคู่ต่อสู้ จนไม่สามารถใช้เงินเข้ายึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือ..ก็ได้ นั่นหมายถึง..ผมคงไม่มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่ได้อีก..จริงไหม?”

หน้าเหลี่ยมของชายคนนั้น..เครียดจัดจนน่ากลัว น่ากลัวจน“จิ้งจก”หลายตัวบนเพดานห้องขวัญผวา..จนแทบร่วงตกลงสู่พื้น..

“น้ำขึ้นต้องรีบตัก..เรื่องเงินไม่ต้องห่วง..ผมตุน(โกง)ไว้เหลือเฟือ ผมจ่ายไม่อั้น..ซื้อเสียงเน้นๆที่ภาคอีสาน-ภาคเหนือ-ภาคตะวันออก..ภาคกลาง อ้อ..ชุมชนแออัดในกรุงเทพด้วย..ซื้อให้หมดทุกที่..”

ชายหน้าเหลี่ยมเหลือบสายตามองหน้าทุกคน ก่อนจะย้ำว่า..

“โพลลับที่จ้างทำระบุว่า..พรรคเราชนะเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน หากเราได้สส.เกินครึ่งสภาใครก็ขวางการตั้งรัฐบาลเราไม่ได้แน่นอน “หนั่นหูกาง”ส่งข่าวมาว่า“เตี้ยบางปลาม้า”พร้อมฉีกสัตยาบันที่ทำกับ“ห้อยรีรัมย์”มาผสมพันธุ์กับเราแล้ว..”

ชายหน้าเหลี่ยมฉายแววตาเจ้าเล่ห์แวบหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า

“ถึงวันนั้น..เราช่วย“เตี้ยบางปลาม้า”ให้มีข้ออ้างทิ้ง“ห้อยรีรัมย์” เราจะส่งคนเสื้อแดงไปชุมนุมที่บ้าน“เตี้ยฯ” เรียกร้องให้เสียสละเพื่อความสงบสุขและปรองดอง ด้วยการเข้าร่วมกับพรรคที่ได้สส.อันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล โดยไม่ต้องกลัวทหารบางคนข่มขู่..”

แววตาคนรอบโต๊ะ..เปล่งประกาย สาวสวยผู้น้องอดเอ่ยปากชมพี่ชายไม่ได้

“..พี่ชายช่างรอบครอบดีจัง เสียดายที่พี่ชายโคลนนิ่ง..ปู..ออกมาไม่ได้เรื่อง ความฉลาดแกมโกงของพี่ชายน่ะ..ซู้ดดดยอดจริงๆ..”

“..เรื่องชั่วๆที่พี่ทำมาทั้งชีวิต..เป็นความสามารถส่วนตัว น้องจะโคลนนิ่งหรือเลียนแบบยังไงก็ไม่ได้อย่างพี่หรอก อ้อ..หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย...ปูก็อย่าเสี่ยงเป็นนายกฯนะ พี่จะให้คนอื่นเป็นก่อน ตอนนี้ลมแรง..น้ำเชี่ยว..ไม่คุ้ม..ให้คนอื่นตายแทนเราดีกว่า..จริงไหม?”

น้องสาวคนสวยพยักหน้าหงึกๆ ชายหน้าเหลี่ยมพูดต่อว่า..

“โชคดีนะ..ที่ไอ้หล่อกับเทือกตาโปนดันสิ้นคิด พวกมันเนรคุณพวกพันธมิตรฯ แถมดันป้ายสีว่าพธม.เป็นผู้ก่อการร้ายเหมือนพวกเราอีก เมื่อพันธมิตรฯชูประเด็นโหวตโน คะแนนเสียงที่เคยหนุนไอ้หล่อเลยเดี้ยงลงไปอีก..”

ชายหน้าเหลี่ยมเม้มปาก..ก่อนจะถ้วยกาแฟที่ควันโชยกรุ่นขึ้นดื่มช้าๆ ก่อนจะพูดต่อว่า

“แต่..พวกเราต้องระวังไอ้หล่อกับไอ้เทือกเล่นเกมสกปรก ผมถึงดึงคนเสื้อแดงมาลงในบัญชีรายชื่ออันดับดีๆ เพื่อให้คนเสื้อแดงมีผลประโยชน์ร่วม เตรียมทำศึกเฉพาะหน้า..สู้กับไอ้หล่อไว้แล้ว ถ้าพรรคไอ้หล่อโกงจนชนะพวกเรา หรือถ้าเราชนะ..แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้..เพราะทหารขวาง เราจะให้คนเสื้อแดงชุมนุมใหญ่..เผาใหญ่..จลาจลไปทุกหนแห่ง..”

ทั้งหน้าเหลี่ยมแดงก่ำเส้นโลหิตปูดโปน เพราะเก็บอารมณ์โกรธไม่อยู่..

“เราจะสั่งสอนพวกอำมาตย์ เราจะป่วนให้หนักกว่าทุกคราว ชนิดที่พวกมันคาดไม่ถึงกันเลยล่ะ..”

“..อ้อ..ถ้าเราได้เป็นรัฐบาล..เรื่องนิรโทษกรรมนั้น ผมให้ดร.เยสโนโอเคดูช่องทางไว้แล้วงานสำคัญที่สุด..คือ..นิรโทษกรรม ทำให้ผมพ้นจากความผิดทั้งหมดโดยเร็วที่สุด พร้อมๆ ไปกับการเปิดมหกรรมถอนทุนบวกกำไรไปด้วยกัน ทุกอย่างทำตามแผนที่ผมวางไว้..”

“..เอ้อ..พี่ชาย..ทำชั่ว..เอ้ย..ทำแบบนั้น..พี่ไม่กลัวทหารรัฐประหารหรือ?..”

พี่ชายหน้าเหลี่ยมเหลือบมองน้องสาวคนสวยแว๊บหนึ่ง

“..เป็นคำถามที่ดี..พี่ประสานกับพวกทหารแตงโมแล้ว ส่งข่าวไปให้ประยุทธ์ว่า..ไม่ต้องกลัวเราจะโยกย้าย แถมพี่ยังส่งข่าวลวงว่า..เราพร้อมให้คนของทหาร ขึ้นเป็นรมว.กลาโหมอีกด้วย ถ้าน้องเป็นนายกฯต้องจำและท่องให้ขึ้นใจนะว่า..แก้ไข-ไม่แก้แค้น พวกเราต้องใจเย็นๆ ต้องรอจนพวกมันตายใจเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยโยกย้ายหรือฆ่าพวกมันไงล่ะ เอางี้..เรื่องทหารกับตำรวจนั้น..พี่ขอจัดการเอง..”

“นายครับ..แล้วพรรคภูมิใจห้อย..จะดึงมาร่วมรัฐบาลไหมครับ?”

ใครคนหนึ่งในชุดสูทสีเข้มถามแบบทะลุกลางปล้อง

“..จำเป็นจริงๆ..ถึงใช้..แต่ดูจากสถานการณ์ทางการเมืองแล้ว พรรคเราจะใช้บริการ“เตี้ย”เป็นพรรคแรก ตามด้วยพรรคของกำนันเป๊าะ อีกพรรคที่จะเอามาร่วมด้วย..คือ..วัจน์ลำตะคอง ส่วนพรรคเล็กๆไม่น่ามีปัญหากับพรรคเรา ผมจะบัญชาการรบทั้งในสนามเลือกตั้งและบนท้องถนนเอง หากพวกเราถูกโกงหรือตั้งรัฐบาลไม่ได้..ดีไหม..?”

“พธม.โหวตโน..จะส่งผลเสียกับพวกเราหรือไม่..? ใครคนหนึ่งถามขึ้น

“..ผลทางคะแนนกระทบพรรคเราน้อยมาก แต่กระทบกับพรรคไอ้หล่ออย่างแรง พรรคไอ้หล่อเคยได้คะแนนเสียงทั่วประเทศประมาณ5-7 ล้านเสียง แต่พอพธม.มาหนุน..เลยได้ถึง 12 ล้านเสียง โหวตโนจึงกระทบคู่แข่งเรา แต่เราก็ต้องสะกัดโหวตโนเหมือนกัน เพราะหากคนลงคะแนนโหวตโนเยอะ จะเป็นอุปสรรคต่อการนิรโทษกรรม และการโกงกินของพวกเรา..”

“..เป็นปัญหายังไงหรือครับนาย..” ใครอีกคนหนึ่งถามด้วยความสงสัยเต็มประดา

“ไอ้พวกพธม.จะนำประชาชนที่มาลงคะแนนโหวตโน ออกมาเคลื่อนไหวกดดันให้รัฐบาลปฏิรูปการเมืองในหลายมิติ ไม่ว่าจะในด้านกฏหมายการลงโทษ นักการเมืองซื้อเสียง-โกงการเลือกตั้ง รวมทั้งนักการเมืองที่คอร์รัปชั่นโกงกินบ้านเมือง พวกมันอยากจะให้กฏหมายลงโทษรุนแรง ถึงขั้น-ติดคุกตลอดชีวิต-ประหารชีวิต-ยึดทรัพย์ บรื้อ..น่ากลัว..ไม่อยากนึก..ไม่อยากคิด..”

ชายหน้าเหลี่ยมหายใจยาวและลึกเข้าปอด ก่อนจะพูดต่อว่า

“ขืนมีกฏหมายจับผิดการซื้อเสียงมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มการลงโทษการโกงหนักแบบนั้น ผมก็ไม่อยากเข้ามายุ่งกับการเมือง..เพราะไม่คุ้มกับการลงทุน แต่การเมืองไทยตอนนี้..ธุรกิจการเมืองในประเทศไทย..น่าลงทุนที่สุด กฏหมายลงโทษทั้งการซื้อเสียงและการคอร์รัปชั่นไม่รุนแรงเลย การคืนทุนก็เร็วมาก..การทำกำไรก็อยู่ในอัตราสูง ถึงขนาดเรียกเงินใต้โต๊ะนักธุรกิจได้ 30- 50% แถมยังบวกราคาโครงการต่างๆเพิ่มได้อีก100-200% ด้วย เฮ้อ..สวรรค์..5 ปีก่อน..ผมถึงทำเงินได้กว่า 400,000 ล้านบาทไงล่ะ..”

ชาย-หญิงรอบโต๊ะ..ยกแก้วไวน์ขึ้นชน ชายหน้าเหลี่ยนพูดเสียงดังอย่างมีความสุข

“ถึงเวลาใช้เงินยึดรัฐไทยเก่า..แล้วโกงชาติเพื่อสร้างรัฐไทยใหม่แล้วพวกเรา..ฮ่าฮ่าฮ่า..”