xs
xsm
sm
md
lg

สุวัจน์ห่วงเลือกตั้งปัญหาไม่จบ แนะพรรคต้องจับขั้วลดขัดแย้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (23 มิ.ย.) ที่โรงแรมพูลแมน คิงพาวเวอร์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย และ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวในงานสัมมนาครบรอบ 61 ปี หนังสือพิมพ์สยามรัฐ รายวัน ในหัวข้อ ประเทศไทยหลังเลือกตั้ง
นายสุวัจน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วงระยะเวลาที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ตนมองย้อนไปสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 ที่เป็นรัฐบาลผสม แต่เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตนตรี ที่เกิดจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอยู่ครบ 4 ปี และรัฐบาลทักษิณ ในสมัยที่ 2 ที่พรรคการเมืองเดียวได้เสียงข้างมาก แต่ก็เกิดกระแสการต่อต้านจนนำไปสู่การปฏิวัติ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49
จากนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองก็อยู่ในรัฐบาลทหาร ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในสภาชุดนี้ถือว่าเป็นรัฐบาลช่วงเปลี่ยนถ่าย จากการปฏิวัติสู่ประชาธิปไตย และขณะนี้เรากำลังเดินทางจากประชาธิปไตยไปสู่ประชาธิปไตย
นายสุวัจน์ กล่าวว่าก่อนปฏิวัติเรามีสีเดียว หลังปฏิวัติก็เกิดสีมากขึ้น ตนมีโอกาสไปต่างประเทศบ่อย จะมีคนถามว่า การหลังเลือกตั้งครั้งนี้ ปัญหาจะจบหรือไม่ เพราะเสียงที่ดังในประเทศออกไปข้างนอกค่อนข้างเยอะ และสิ่งที่อยู่ในใจคนไทยทุกคนคือ อยากเห็นบ้านเมืองสงบ
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนมองการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. จะเป็นทางออกของประเทศไทย เพราะข้อเรียกร้องที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เป็นข้อเรียกร้องที่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง วันนี้การเลือกตั้งถือว่าเป็นการตอบสนองของกลุ่มบุคคลที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง และจะสามารถลดอุณหภูมิ และการเลือกตั้งครั้งนี้จะถูกจับตาจากนานาชาติ หากการเลือกตั้งเรียบร้อย เรื่องเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น
ทั้งนี้ โครงสร้างของรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารประเทศ เพราะรัฐบาลชุดปัจจุบันเกิดจากการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงวิกฤติของประเทศ โครงสร้างของการจัดรัฐบาล ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศเท่าที่ควร
นายสุวัจน์ กล่าวว่า อะไรที่คนอยากเห็นมากที่สุดหลังการเลือกตั้งคือ 1. เรื่องเศรษฐกิจ ที่ต้องสร้างความน่าเชื่อในการลงทุน 2 . การยุติความขัดแย้งภายในประเทศ ที่รัฐบาลต้องยุติให้ได้
" หลังเลือกตั้งต้องลืมอดีต และมาพูดคุยกัน เพื่อยุติความแตกแยก ทั้งนี้พรรคการเมืองต้องจับขั้ว เพื่อลดปัญหาความแตกแยก" นายสุวัจน์ กล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้มีกุญแจ 4 ดอก ที่พาบ้านเมืองไปสู่ทางออกของการเลือกตั้ง คือ 1. นักการเมืองที่เล่นตามกติกา 2. กกต. ต้องทำให้ผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ 3. ข้าราชการวางตัวเป็นกลางที่แท้จริง และ 4.ประชาชน ที่ไม่ขายเสียง หรือ ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
" ผมไม่สบายใจ ที่มีคนพูดว่า หากพรรคการเมืองที่ได้คะแนนสูงสุดไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ คนเรือนหมื่นจะออกมาประท้วง ขอถามว่า ทำไมนักการเมืองดูแคลนประชาชน ว่าชี้นำอะไรก็ได้ ไม่มีใครทำร้ายประเทศไทยนอกจากคนไทย อนาคตของการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับ 4 ประเด็น หากเป็นไปตามครรลอง และกติกาทั้งหมด เชื่อว่าประเทศก้าวข้ามพ้นวิกฤตได้แน่นอน"
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การมองอนาคตหลังการเลือกตั้ง ต้องมองปัจจุบัน เราไม่ใช่โหร ไม่มีใครรู้อนาคต แม้กระทั่งการทำโพล ที่สำรวจความคิดเห็นประชาชน อย่าคิดว่าผลโพล จะเป็นความจริง และจะมาจากความคิดของประชาชนจริงๆ ยกตัวอย่างการเลือกตั้งซ่อมที่ จ. สงขลา ที่ผลโพลบอกว่าพรรคเพื่อไทย จะชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่ปรากฏว่า พรรคประชาธิปัตย์ ชนะ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สัปดาห์ก่อนหน้านั้น กกต. เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ทำให้คนเป็นห่วงว่า จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ แต่เมื่อกกต.กลับมาจากต่างประเทศแล้วแถลงข่าว ทำให้ทุกคนโล่งใจว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่ และต้องจับตาที่มีพรรคการเมืองหนึ่ง ปราศรัยใหญ่ ที่แยกราชประสงค์ ใช้ชื่อว่า ดับไฟประเทศ แต่มีคนมองว่า จะเป็นการดับไฟประเทศ หรือโหมไฟประเทศกันแน่ วันนี้ไม่มีใครรักประเทศไทย มากกว่าประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น