วานนี้(23 มิ.ย.)ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะจับขั้วกับพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาล ว่า ขอบคุณในความปรารถนาดี อย่างไรก็ต้องรอหลังวันที่ 3 ก.ค. เพราะประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ
กรณีเอแบคโพลชี้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 8 ที่นั่ง เห็นว่า อยากตั้งข้อสังเกตว่าผลโพล จากสำนักที่น่าเชื่อถือทำไมจึงแตกต่าง ซึ่งจะเชื่อได้หรือไม่ พรรคไม่เชื่อผลโพลเท่าใด แต่ไม่ถึงขนาดที่ไม่นำมาพิจารณา
ส่วนประเมินว่าจะได้กี่ที่นั่งหลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย นายศุภชัย กล่าวว่า มีการประเมินทุกสัปดาห์ซึ่งอาจสวนกับผลโพลหลายสำนัก เพราะกระแสตอบรับพรรคเราไม่น้อยกว่าที่เคยมีมา และคิดว่าจะเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ได้มีการผลิตสื่อเกี่ยวกับนโยบายการล้างหนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ส่วนจะดึงบุคคลสำคัญของพรรค เช่น หัวหน้าพรรคออกสื่อให้มากขึ้นหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงจะมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้ เพราะได้แบ่งหน้าที่กันในการลงพื้นที่ และช่วงโค้งสุดท้ายจะได้เห็นหัวหน้าพรรคลงพื้นที่มากขึ้น
**“มาร์ค”ปัดคุยภูมิใจห้อยจัดตั้งรบ.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์พิเศษของตนกับนสพ.ฉบับหนึ่งว่า หากพรรคประชาธิปัตย์รวมกับพรรคภูมิใจไทยแล้วน่าจะมีเสียงข้างมากเพียงพอจะตั้งรัฐบาลได้ว่า ไม่ใช่ ก็ขอบอกว่าวันนั้นมีคำถามว่า หากบางพรรคได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับที่หนึ่ง พรรคนี้มาอันดับที่สอง จะมีกติกาอย่างไรในการตั้งรัฐบาล ตนก็บอกว่า ตอนนี้ตัวเลขมันซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เพราะพรรคเพื่อไทยปฏิเสธว่าไม่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย สมมติว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยมันเกินครึ่ง พรรคเพื่อไทยก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตนพูดแค่นั้นเอง ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะยังเป็นช่วงที่แต่ละพรรคหาเสียงและให้ประชาชนตัดสินใจในวันเลือกตั้ง
ส่วนได้คุยเรื่องจับมือกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้แล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูด วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าขอคะแนนเสียงจากประชาชน และพรรคอยากได้เกิน 250 เสียง
**ปชป.เชื่อได้ ส.ส.กทม. 25-26 ที่นั่ง
เมื่อถามว่า หากดูผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 เป็นต้นมา ตัวเลขส.ส.ที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนระบุไว้นั้นค่อนข้างตรงกับผลการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เสมอไป การเลือกตั้งคราวที่แล้วก็ไม่ใช่ เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ประเมินตัวเลขอย่างไร และเปลี่ยนแปลงดีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีเปลี่ยนแปลงบ้าง โพลสะท้อนออกมาว่าหลังการเปิดตัวนั้นพรรคเพื่อไทยพุ่งแรงขึ้นมา แต่พรรคประชาธิปัตย์จับกระแสได้ว่า กทม.หรือบางพื้นที่นั้นตอนนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว พรรคประชาธิปัตย์นั้นเปลี่ยนแปลงในกทม.ดีขึ้น รวมทั้งสถานที่อื่นๆก็เริ่มดีขึ้นเช่น ภาคเหนือตอนล่าง
เมื่อถามว่า หวังไว้หรือไม่ว่า ในกทม.พรรคจะได้ส.ส.ขั้นต่ำ 25 คน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากได้หมด แต่อยู่ที่ประชาชนเป็นคนให้ หากเทียบสัดส่วนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วส.ส.เยอะกว่าครั้งนี้ แต่เมื่อเทียบกับแล้วพรรคน่าจะได้ 25 คน ส่วนคาดหวังกับการเปิดเวทีที่ราชประสงค์ในวันที่ 23 มิ.ย.อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังเรื่องคะแนนเสียง แต่คาดหวังให้ประชาชนรับทราบว่าหนทางข้างหน้าที่จะเดินไปนั้นจะเดินไปอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับผลโพลที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งนั้น ผลโพลคงจะไม่ตรงเสมอไป และจากการลงพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ ถือว่ามีคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น ดูจากกระแสของพรรคเช่นในพื้นที่ กทม.พรรคยังหวังว่าจะได้จำนวนที่นั่งประมาณ 25-26 ที่นั่ง จากทั้งหมด 33 ที่นั่ง รวมถึงภาคเหนือตอนล่าง ส่วนพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังว่าจะได้ส.ส.มากกว่าครั้งที่แล้ว ที่ได้มา 5 ที่นั่ง
**พท.โวกวาดเขต180 ปาร์ตี้ลิสต์72
มีรายงานว่าพรรคเพื่อไทยได้จัดทำโพลล์สำรวจคะแนนนิยมล่าสุด ส.ส.เขตค่อนข้างแน่นอนเกือบ100% จะอยู่ที่จำนวน 180 คน ขณะที่อีก 75 เขตเลือกตั้งยังสูสีกับคู่แข่ง สำหรับส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อน่าจะได้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่ที่จำนวน 72คน มั่นใจว่าจำนวนส.ส.อย่างน้อยที่สุดที่พรรคจะได้นั้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 252 คน
**พท.ฝันส.ส.กทม. 25 ปชป.กวาดฝั่งธนบุรี
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย แถลงว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีถึงร้อยละ 90 จึงเชื่อว่า จะได้ ส.ส.ในกรุงเทพมหานคร ประมาณ 25 ที่นั่ง และชนะพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า 10 เขต
นพ.เหวง โตจิราการ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย น่าจะชนะพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า 20 ที่นั่ง
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กรุงเทพฯและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พื้นที่ 10 เขตของกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี พรรคมีความมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.ทั้ง 10 เขต ไม่เว้นแม้เขตบางบอน ที่มีการแข่งขันสูง
**ภท.ขอเป็นรบ.ได้ส.ส.มากได้เก้าอี้ รมต.
นายโสภณ ซารัมย์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จุดยืนที่ประกาศตัวเป็นรัฐบาล แต่ไม่ขอที่จะแข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับใคร แต่พรรคที่จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ จะต้องมีจำนวน ส.ส.มากพอ เชื่อจะได้ที่นั่ง ส.ส.เกินครึ่งจากจำนวน ส.ส.ทั้งประเทศ ทั้งนี้หลักการของพรรค คือ หากจังหวัดไหนได้ที่นั่ง ส.ส.มาก ก็จะมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้จังหวัดนั้นๆ เพื่อให้ได้มีโอกาสกลับมาพัฒนาบ้านของตนเอง
**ชุมพล" ลั่นไม่ได้ก.เกษตรฯ ไม่ร่วมรัฐบาล
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมคณะได้ปราศรัยหาเสียงที่อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ว่า ได้มายืนยันว่า ทำงานให้จริง อีกทั้งหลังเลือกตั้งก็จะขอดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“มีคนถามผมว่า หลังเลือกตั้งจะผสมพันธุ์กันอย่างไร ซึ่งตามกติกาแล้ว ถ้าพรรคไหนได้อันดับ 1 จะต้องได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน คือต้องเป็นพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุด แต่ถ้าจัดไม่ได้ก็ค่อยให้พรรคที่ 2 เขาจัด เราก็ต้องมาดูว่านโยบายมันไปด้วยกันได้หรือไม่ ถึงจะไปร่วมจัดกับเขา และพรรคนั้นต้องยอมรับนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาได้ เราจะยอมร่วมรัฐบาลด้วย และพรรคชาติไทยพัฒนาก็จะขอกระทรวงเกษตรฯ ถ้าไม่ให้ก็ไม่ร่วม ” นายชุมพล กล่าว
**พรรคกลางเล็กหาเสียงคึกคัก
ส่วนการหาเสียงของพรรคขนาดกลางและเล็กวันเดียวกันนี้ ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์นี้มีการปราศรัย เขตเลือกตั้งที่ 2 มหาสารคาม เขต 3-4 บุรีรัมย์ และที่ผ่านมาก็ประชาชนให้ความสนใจ ไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นคน ทุกเวลา โดยเฉพาะนโยบายล้างหนี้กองทุนหมู่บ้านที่ประชาชนสนใจ ซึ่งพรรคอื่นพยายามบิดเบือนข้อมูล
**ชพท.อุ้ม“สมรักษ์”เทียบชั้น“ปาเกียว”
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นำทีมผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ช่วยร.อ.สมรักษ์ คำสิงห์ ผู้สมัครส.ส.เขต 10 ขอนแก่น โดยได้แวะเยี่ยมบ้านพักของร.อ.สมรักษ์ ซึ่งเปิดที่ทำการสาขาพรรคชาติไทยพัฒนา อำเภอแฮด จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ร.อ.สมรักษ์ได้นำข้าวเหนียวที่นึ่งแล้วเป็นสีชมพูมาโชว์นายชุมพล ดู และบอกว่าเป็นข้าวเหนียวปรองดอง พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันก่อนมีงูเห่าเข้าบ้าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรบตนเอง เพราะในอดีตก่อนที่ตนได้เหรียญทองโอลิมปิคงูเห่าก็เคยเข้าบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง มาครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะมีข่าวดีวในการเลือกตั้ง
นายชุมพล กล่าวปราศรัยว่า ขอให้ชาวขอนแก่นช่วยสนับสนุนร.อ.สมรักษ์ เหมือนแมนนี่ปาเกียว นักชกแชมป์โลกชาวฟิลลิปินส์ที่ได้ไปเป็นส.ส.แล้ว
**เสธฯหนั่น บุกเมืองช้างหน่วยคุ้มกันเข้ม
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เดินทางมาช่วยผู้สมัครส.ส.เขต 8 สุรินทร์ หาเสียงที่ตลาดสดสุขาภิบาลกังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยได้ปั่นจักรยานปรองดองหาเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการลงพื้นที่ในจ.สุรินทร์ของพล.ต.สนั่นในครั้งนี้ ได้มีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมาก โดยมีการนำทหารนอกเครื่องแบบมาช่วยดูแลคุ้มกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการต่อสู้กันอย่างรุนแรง โดยเป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย และมีการข่มขู่ ข่มขวัญประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ออกมาฟังคำปราศรัย
**ชพน.ปราศัยใหญ่โคราช 28 มิ.ย.
นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นำคณะลงพื้นที่หาเสียงย่านเยาวราช โดยเริ่มสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดไตรมิตรฯ จากนั้นเดินหาเสียงที่ตลาดเยาวราช ขณะเดียวกันจะมีการปราศรัยใหญ่วันที่ 28 มิ.ย. ที่ จ.นครราชสีมา และในวันที่ 30 มิ.ย. จะมีการปราศรัยใหญ่ที่ จ.สกลนคร
**หนักใจโค้งสุดท้าย“สุวิทย์”ติดภาระกิจ
น.ส.สุวิภา คุณกิตติ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 ของพรรคกิจสังคม กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงย่านฝั่งธนบุรี บริเวณตลาดบางแคโว่า การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มการประชาสัมพันธ์ถึงกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ ประธานพรรคกิจสังคม ต้องไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการปะชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ เพราะนายสุวิทย์จะไม่มีโอกาสช่วยหาเสียงในประเทศไทยจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.ทำให้การหาเสียงของพรรคทำไม่ได้เต็มที่เหมือนพรรคการเมืองอื่น ส่วนการปรับเปลี่ยนป้ายหาเสียงจากรูปของนายสุวิทย์ เป็นรูปของตนนั้น ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้คนรู้จักตนเองมากขึ้น เมื่อนายสุวิทย์ไม่มีโอกาสลงพื้นที่ตนจึงต้องทำหน้าที่แทนบิดาในการช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตหาเสียง
**สีสรรค์พรรคเล็กบิ๊กหอยหาเสียงยะลา
ด้าน นายวนัสธนา สัจจากุล (บิ๊กหอย) หัวหน้าพรรคพลังคนกีฬา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 36พร้อมลูกพรรคในพื้นที่ ลุยหาเสียงในพื้นที่ อ.ยะหา และอ.เมือง ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยได้มีการตระเวณหาเสียงใช้รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง (โชว์เลย์) เริ่มจากบริเวณตลาดสดในพื้นที่อำเภอยะหา ตลาดเมืองใหม่ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยมีการชูนโยบายของพรรคนำบอลไทยไปบอลโลก ผลักดันมวยในพื้นที่ 3 จังหวัด มุ่งสู่โอลิมปิค บรรยากาศการหาเสียงโดยทั่วไปพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังให้ความสนใจน้อย เพราะเป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่
**มท.ภ.2 ปฏิเสธสั่งกำลังพลเลือกปชป.
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวกองทัพภาคที่ 2 สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัวของกำลังพลเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า ไม่เป็นความจริง เพราะทหารจะต้องวางตัวเป็นกลาง และทหารถือเป็นกลไกของรัฐบาล หากจะให้นโยบายกับผู้ใต้บังคับบัญชาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง คงเป็นแค่การให้ทหารออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งและเลือกคนดีเข้าสภา เนื่องจากการเติบโตของทหารจะต้องมาจากสายงานโดยตรง
**มท.สั่งผู้ว่ารับมือประท้วงผลเลือกตั้ง
ระหว่างประชุมกระทรวงมหาดไทย นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่ร่วมประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนท์ว่าในช่วงการเลือกตั้ง ขอให้ทุกคนวางตัวเป็นกลาง และอย่าแสดงตนเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องจัดทำแผนเผชิญเหตุการณ์ในการเลือกตั้ง รวมถึงมีแผนการแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งโดยต้องประสานการปฏิบัติกับฝ่ายการตำรวจอย่างจริงจัง.
กรณีเอแบคโพลชี้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 8 ที่นั่ง เห็นว่า อยากตั้งข้อสังเกตว่าผลโพล จากสำนักที่น่าเชื่อถือทำไมจึงแตกต่าง ซึ่งจะเชื่อได้หรือไม่ พรรคไม่เชื่อผลโพลเท่าใด แต่ไม่ถึงขนาดที่ไม่นำมาพิจารณา
ส่วนประเมินว่าจะได้กี่ที่นั่งหลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย นายศุภชัย กล่าวว่า มีการประเมินทุกสัปดาห์ซึ่งอาจสวนกับผลโพลหลายสำนัก เพราะกระแสตอบรับพรรคเราไม่น้อยกว่าที่เคยมีมา และคิดว่าจะเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ได้มีการผลิตสื่อเกี่ยวกับนโยบายการล้างหนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ส่วนจะดึงบุคคลสำคัญของพรรค เช่น หัวหน้าพรรคออกสื่อให้มากขึ้นหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงจะมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้ เพราะได้แบ่งหน้าที่กันในการลงพื้นที่ และช่วงโค้งสุดท้ายจะได้เห็นหัวหน้าพรรคลงพื้นที่มากขึ้น
**“มาร์ค”ปัดคุยภูมิใจห้อยจัดตั้งรบ.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์พิเศษของตนกับนสพ.ฉบับหนึ่งว่า หากพรรคประชาธิปัตย์รวมกับพรรคภูมิใจไทยแล้วน่าจะมีเสียงข้างมากเพียงพอจะตั้งรัฐบาลได้ว่า ไม่ใช่ ก็ขอบอกว่าวันนั้นมีคำถามว่า หากบางพรรคได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับที่หนึ่ง พรรคนี้มาอันดับที่สอง จะมีกติกาอย่างไรในการตั้งรัฐบาล ตนก็บอกว่า ตอนนี้ตัวเลขมันซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เพราะพรรคเพื่อไทยปฏิเสธว่าไม่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย สมมติว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยมันเกินครึ่ง พรรคเพื่อไทยก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตนพูดแค่นั้นเอง ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะยังเป็นช่วงที่แต่ละพรรคหาเสียงและให้ประชาชนตัดสินใจในวันเลือกตั้ง
ส่วนได้คุยเรื่องจับมือกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้แล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูด วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าขอคะแนนเสียงจากประชาชน และพรรคอยากได้เกิน 250 เสียง
**ปชป.เชื่อได้ ส.ส.กทม. 25-26 ที่นั่ง
เมื่อถามว่า หากดูผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 เป็นต้นมา ตัวเลขส.ส.ที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนระบุไว้นั้นค่อนข้างตรงกับผลการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เสมอไป การเลือกตั้งคราวที่แล้วก็ไม่ใช่ เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ประเมินตัวเลขอย่างไร และเปลี่ยนแปลงดีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีเปลี่ยนแปลงบ้าง โพลสะท้อนออกมาว่าหลังการเปิดตัวนั้นพรรคเพื่อไทยพุ่งแรงขึ้นมา แต่พรรคประชาธิปัตย์จับกระแสได้ว่า กทม.หรือบางพื้นที่นั้นตอนนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว พรรคประชาธิปัตย์นั้นเปลี่ยนแปลงในกทม.ดีขึ้น รวมทั้งสถานที่อื่นๆก็เริ่มดีขึ้นเช่น ภาคเหนือตอนล่าง
เมื่อถามว่า หวังไว้หรือไม่ว่า ในกทม.พรรคจะได้ส.ส.ขั้นต่ำ 25 คน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากได้หมด แต่อยู่ที่ประชาชนเป็นคนให้ หากเทียบสัดส่วนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วส.ส.เยอะกว่าครั้งนี้ แต่เมื่อเทียบกับแล้วพรรคน่าจะได้ 25 คน ส่วนคาดหวังกับการเปิดเวทีที่ราชประสงค์ในวันที่ 23 มิ.ย.อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังเรื่องคะแนนเสียง แต่คาดหวังให้ประชาชนรับทราบว่าหนทางข้างหน้าที่จะเดินไปนั้นจะเดินไปอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับผลโพลที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งนั้น ผลโพลคงจะไม่ตรงเสมอไป และจากการลงพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ ถือว่ามีคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น ดูจากกระแสของพรรคเช่นในพื้นที่ กทม.พรรคยังหวังว่าจะได้จำนวนที่นั่งประมาณ 25-26 ที่นั่ง จากทั้งหมด 33 ที่นั่ง รวมถึงภาคเหนือตอนล่าง ส่วนพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังว่าจะได้ส.ส.มากกว่าครั้งที่แล้ว ที่ได้มา 5 ที่นั่ง
**พท.โวกวาดเขต180 ปาร์ตี้ลิสต์72
มีรายงานว่าพรรคเพื่อไทยได้จัดทำโพลล์สำรวจคะแนนนิยมล่าสุด ส.ส.เขตค่อนข้างแน่นอนเกือบ100% จะอยู่ที่จำนวน 180 คน ขณะที่อีก 75 เขตเลือกตั้งยังสูสีกับคู่แข่ง สำหรับส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อน่าจะได้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่ที่จำนวน 72คน มั่นใจว่าจำนวนส.ส.อย่างน้อยที่สุดที่พรรคจะได้นั้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 252 คน
**พท.ฝันส.ส.กทม. 25 ปชป.กวาดฝั่งธนบุรี
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย แถลงว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีถึงร้อยละ 90 จึงเชื่อว่า จะได้ ส.ส.ในกรุงเทพมหานคร ประมาณ 25 ที่นั่ง และชนะพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า 10 เขต
นพ.เหวง โตจิราการ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย น่าจะชนะพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า 20 ที่นั่ง
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กรุงเทพฯและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พื้นที่ 10 เขตของกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี พรรคมีความมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.ทั้ง 10 เขต ไม่เว้นแม้เขตบางบอน ที่มีการแข่งขันสูง
**ภท.ขอเป็นรบ.ได้ส.ส.มากได้เก้าอี้ รมต.
นายโสภณ ซารัมย์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จุดยืนที่ประกาศตัวเป็นรัฐบาล แต่ไม่ขอที่จะแข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับใคร แต่พรรคที่จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ จะต้องมีจำนวน ส.ส.มากพอ เชื่อจะได้ที่นั่ง ส.ส.เกินครึ่งจากจำนวน ส.ส.ทั้งประเทศ ทั้งนี้หลักการของพรรค คือ หากจังหวัดไหนได้ที่นั่ง ส.ส.มาก ก็จะมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้จังหวัดนั้นๆ เพื่อให้ได้มีโอกาสกลับมาพัฒนาบ้านของตนเอง
**ชุมพล" ลั่นไม่ได้ก.เกษตรฯ ไม่ร่วมรัฐบาล
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมคณะได้ปราศรัยหาเสียงที่อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ว่า ได้มายืนยันว่า ทำงานให้จริง อีกทั้งหลังเลือกตั้งก็จะขอดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“มีคนถามผมว่า หลังเลือกตั้งจะผสมพันธุ์กันอย่างไร ซึ่งตามกติกาแล้ว ถ้าพรรคไหนได้อันดับ 1 จะต้องได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน คือต้องเป็นพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุด แต่ถ้าจัดไม่ได้ก็ค่อยให้พรรคที่ 2 เขาจัด เราก็ต้องมาดูว่านโยบายมันไปด้วยกันได้หรือไม่ ถึงจะไปร่วมจัดกับเขา และพรรคนั้นต้องยอมรับนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาได้ เราจะยอมร่วมรัฐบาลด้วย และพรรคชาติไทยพัฒนาก็จะขอกระทรวงเกษตรฯ ถ้าไม่ให้ก็ไม่ร่วม ” นายชุมพล กล่าว
**พรรคกลางเล็กหาเสียงคึกคัก
ส่วนการหาเสียงของพรรคขนาดกลางและเล็กวันเดียวกันนี้ ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์นี้มีการปราศรัย เขตเลือกตั้งที่ 2 มหาสารคาม เขต 3-4 บุรีรัมย์ และที่ผ่านมาก็ประชาชนให้ความสนใจ ไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นคน ทุกเวลา โดยเฉพาะนโยบายล้างหนี้กองทุนหมู่บ้านที่ประชาชนสนใจ ซึ่งพรรคอื่นพยายามบิดเบือนข้อมูล
**ชพท.อุ้ม“สมรักษ์”เทียบชั้น“ปาเกียว”
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นำทีมผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ช่วยร.อ.สมรักษ์ คำสิงห์ ผู้สมัครส.ส.เขต 10 ขอนแก่น โดยได้แวะเยี่ยมบ้านพักของร.อ.สมรักษ์ ซึ่งเปิดที่ทำการสาขาพรรคชาติไทยพัฒนา อำเภอแฮด จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ร.อ.สมรักษ์ได้นำข้าวเหนียวที่นึ่งแล้วเป็นสีชมพูมาโชว์นายชุมพล ดู และบอกว่าเป็นข้าวเหนียวปรองดอง พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันก่อนมีงูเห่าเข้าบ้าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรบตนเอง เพราะในอดีตก่อนที่ตนได้เหรียญทองโอลิมปิคงูเห่าก็เคยเข้าบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง มาครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะมีข่าวดีวในการเลือกตั้ง
นายชุมพล กล่าวปราศรัยว่า ขอให้ชาวขอนแก่นช่วยสนับสนุนร.อ.สมรักษ์ เหมือนแมนนี่ปาเกียว นักชกแชมป์โลกชาวฟิลลิปินส์ที่ได้ไปเป็นส.ส.แล้ว
**เสธฯหนั่น บุกเมืองช้างหน่วยคุ้มกันเข้ม
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เดินทางมาช่วยผู้สมัครส.ส.เขต 8 สุรินทร์ หาเสียงที่ตลาดสดสุขาภิบาลกังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยได้ปั่นจักรยานปรองดองหาเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการลงพื้นที่ในจ.สุรินทร์ของพล.ต.สนั่นในครั้งนี้ ได้มีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมาก โดยมีการนำทหารนอกเครื่องแบบมาช่วยดูแลคุ้มกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการต่อสู้กันอย่างรุนแรง โดยเป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย และมีการข่มขู่ ข่มขวัญประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ออกมาฟังคำปราศรัย
**ชพน.ปราศัยใหญ่โคราช 28 มิ.ย.
นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นำคณะลงพื้นที่หาเสียงย่านเยาวราช โดยเริ่มสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดไตรมิตรฯ จากนั้นเดินหาเสียงที่ตลาดเยาวราช ขณะเดียวกันจะมีการปราศรัยใหญ่วันที่ 28 มิ.ย. ที่ จ.นครราชสีมา และในวันที่ 30 มิ.ย. จะมีการปราศรัยใหญ่ที่ จ.สกลนคร
**หนักใจโค้งสุดท้าย“สุวิทย์”ติดภาระกิจ
น.ส.สุวิภา คุณกิตติ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 ของพรรคกิจสังคม กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงย่านฝั่งธนบุรี บริเวณตลาดบางแคโว่า การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มการประชาสัมพันธ์ถึงกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ ประธานพรรคกิจสังคม ต้องไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการปะชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ เพราะนายสุวิทย์จะไม่มีโอกาสช่วยหาเสียงในประเทศไทยจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.ทำให้การหาเสียงของพรรคทำไม่ได้เต็มที่เหมือนพรรคการเมืองอื่น ส่วนการปรับเปลี่ยนป้ายหาเสียงจากรูปของนายสุวิทย์ เป็นรูปของตนนั้น ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้คนรู้จักตนเองมากขึ้น เมื่อนายสุวิทย์ไม่มีโอกาสลงพื้นที่ตนจึงต้องทำหน้าที่แทนบิดาในการช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตหาเสียง
**สีสรรค์พรรคเล็กบิ๊กหอยหาเสียงยะลา
ด้าน นายวนัสธนา สัจจากุล (บิ๊กหอย) หัวหน้าพรรคพลังคนกีฬา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 36พร้อมลูกพรรคในพื้นที่ ลุยหาเสียงในพื้นที่ อ.ยะหา และอ.เมือง ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยได้มีการตระเวณหาเสียงใช้รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง (โชว์เลย์) เริ่มจากบริเวณตลาดสดในพื้นที่อำเภอยะหา ตลาดเมืองใหม่ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยมีการชูนโยบายของพรรคนำบอลไทยไปบอลโลก ผลักดันมวยในพื้นที่ 3 จังหวัด มุ่งสู่โอลิมปิค บรรยากาศการหาเสียงโดยทั่วไปพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังให้ความสนใจน้อย เพราะเป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่
**มท.ภ.2 ปฏิเสธสั่งกำลังพลเลือกปชป.
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวกองทัพภาคที่ 2 สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัวของกำลังพลเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า ไม่เป็นความจริง เพราะทหารจะต้องวางตัวเป็นกลาง และทหารถือเป็นกลไกของรัฐบาล หากจะให้นโยบายกับผู้ใต้บังคับบัญชาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง คงเป็นแค่การให้ทหารออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งและเลือกคนดีเข้าสภา เนื่องจากการเติบโตของทหารจะต้องมาจากสายงานโดยตรง
**มท.สั่งผู้ว่ารับมือประท้วงผลเลือกตั้ง
ระหว่างประชุมกระทรวงมหาดไทย นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่ร่วมประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนท์ว่าในช่วงการเลือกตั้ง ขอให้ทุกคนวางตัวเป็นกลาง และอย่าแสดงตนเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องจัดทำแผนเผชิญเหตุการณ์ในการเลือกตั้ง รวมถึงมีแผนการแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งโดยต้องประสานการปฏิบัติกับฝ่ายการตำรวจอย่างจริงจัง.
