xs
xsm
sm
md
lg

"ปูแดง"หาเสียงคนใต้ ดัน3จังหวัดปกครองพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยิ่งลักษณ์" ลงหาเสียง 3 จังหวัดใต้ ปลุกกระแสไทยมุสลิม หากเป็นรัฐบาลจะยกให้เป็นพื้นที่เขตปกครองพิเศษ พร้อมรับปากช่วยเยาวชนที่ต้องต่อสู้คดีความมั่นคง 7 พันคดีให้ ด้าน"มาร์ค" เตือนข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง อย่าเลือกข้างไปตามกระแสโพล เพราะยังไม่แน่ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล "เทือก"ชี้ "ยิ่งลักษณ์" แค่สร้างภาพ อย่าหวังจะได้ใจคนใต้ เพราะยังไม่ลืมบาปกรรมที่ "ทักษิณ" ก่อไว้ แฉ"สงคราม" บงการป่วน ปาไข่ที่ปากน้ำ เตรียมทำรูปพวกเผาบ้านเผาเมืองที่ลงสมัครส.ส.เพื่อไทย แจกให้ประชาชนตัดสินใจก่อนลงคะแนน

วานนี้ (14 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปหาเสียงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายนิติภูมิ นวรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่สนามบินดอนเมือง ก่อนเดินทางไปยังสนามบินบ้านท่อน จ.นราธิวาส ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ต้องการพบปะประชาชนเพื่อให้กำลังใจ และนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่จะแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยต้องการให้เป็นพื้นที่เขตปกครองพิเศษ อย่างเช่น กรุงเทพมหานคร และพัทยา และให้มีโครงการสานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อเพิ่มโควต้าให้ชาวไทยมุสลิมได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียได้ โดยไม่ต้องเสียค่ามัดจำ

นอกจากนี้ จะส่งเสริมอาหารอิสลาม และพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงในภาคใต้ เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอมรับว่าพื้นที่ภาคใต้ไม่ใช่ฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทย แต่ตนก็ต้องการขอโอกาสได้ลงพื้นที่ เสนอนโยบายพรรค เพราะถือว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน โดยตนอยากเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในทุกภาค และไม่ขอประเมินว่าจะได้จำนวนส.ส.กี่ที่นั่ง

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้พกเครื่องรางของขลังใดๆ เป็นพิเศษ มีเพียงพระประจำตัว และพรจากพรรคเพียงเท่านั้น

**เลือก"ปูแดง"ช่วยล้าง7พันคดี

นายดาโต๊ะสุธิพันธ์ ศรีริกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นราธิวาส พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคชูนโยบายหลักๆ ไว้หลายข้อ เช่น การสร้างที่พักให้ผู้เดินทางไปแสวงบุญที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ทุนการศึกษา กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร 3 ปี รวมทั้งโครงการบ้านหลังแรกในชีวิตให้กับผู้ยากจน ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำได้และเป็นการสร้างความหวังให้กับประชาชน โดยเฉพาะการสร้างที่พักให้ผู้ไปแสวงบุญเป็นปัญหาใหญ่ของคนมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานานแล้ว

ส่วนเหตุไฟใต้ที่เกิดขึ้นเป็นเวลากว่า 8 ปีนั้น ถึงตอนนี้มีคดีความมั่นคงที่ค้างในศาลอยู่ 7,000 คดี เยาวชนถูกจับกุมจะไม่ใช่หรือผิดจริงยังไม่รู้ แต่ไม่คืบหน้า บางคนต้องขายที่ขายสวนไปประกันตัวสู้คดี เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เพื่อไทยจะเข้ามาสะสางโดยให้มีการนิรโทษกรรม เชื่อมั่นว่าชาวบ้านพอใจ

** "มาร์ค"เตือนอย่าหวั่นไหวตามโพล

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ผลโพลจากหลายสำนัก ที่ระบุว่าคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย เหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะมีผลให้ข้าราชการเริ่มเลือกข้าง ว่า ข้าราชการไม่ควรเลือกข้าง แต่ตนรู้ว่าความพยายามที่จะปั่นกระแสโพลส่วนหนึ่งก็เพื่อให้มีผลกับข้าราชการ ยืนยันว่าข้าราชการทุกคนต้องปฏิบัติตัวเป็นกลาง และอย่าไปมองแค่การเลือกตั้งครั้งใดครั้งหนึ่งไม่ได้ ในที่สุดทุกคนต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ยืนยันว่าโพลตอนนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า ใครจะเป็นรัฐบาล

เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อถูกถามถึงเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มักจะร้องไห้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าเส้นทางทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่ดูข่าว

**ไม่ติดใจ"ชุมพล"หนีประชุมครม.

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งที่นายกฯ เคยบอกว่าจะทำความเข้าใจกันในเรื่องการชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ค ว่า นายชุมพล คงไม่ได้ต้องการประท้วงอะไร เพราะเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ได้บอกกับตนว่า นายชุมพล ติดภารกิจ ไม่สามารถเข้าประชุมครม.ได้ เพียงแต่ตนยังไม่เห็นชื่อนายชุมพลลาประชุมครม.เท่านั้น ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร และเห็นว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร และก็ตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกัน ถ้าเจอหน้าก็ทักทายกัน

เมื่อถามว่านายบรรหาร ยืนยันที่จะสร้างหนังเรื่องปรองดองคล้องใจต่อ นายอภิสิทธิ์ ได้แต่หัวเราะ โดยไม่ได้ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เห็นภาพตัดต่อทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นภาพนายอภิสิทธิ์ คู่กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ยังไม่เห็น

**เจอสาวใหญ่โชว์ของเทียมไล่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ไปช่วยเดินหาเสียงให้กับนายสรรเสริญ สะมะลาภา ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 8 ที่บริเวณตลาดโชคชัย 4 โดยนายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นรถปราศรัยเพื่อขอคะแนนจากประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว โดยมีขบวนรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งขี่ล้อมรถหาเสียง ซึ่งระหว่างที่นั้นได้มีรถของผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย นายสิงห์ทอง บัวชม ได้เคลื่อนรถสวนเข้ามาในบริเวณที่นายอภิสิทธิ์กำลังปราศรัยอยู่ และได้ปราศรัยแข่งกับนายอภิสิทธิ์ ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ก็มีกลุ่มเสื้อแดงกรูกันเข้าไปตะโกนเบอร์ 1 ทำให้ นายอภิสิทธิ์ ต้องหยุดการปราศรัย และพูดว่าเราเป็นนักประชาธิปไตย จะหาเสียงอย่างสันติ โดยจะยังไม่ปราศรัย รอให้รถขบวนของผู้สมัครพรรคเพื่อไทยผ่านไปก่อน แต่ขบวนรถของนายสิงห์ทอง ได้จอดนิ่งอยู่ประมาณ 2 นาที จากนั้นก็เคลื่อนผ่านรถที่นายอภิสิทธิ์ยืนปราศรัย นายอภิสิทธิ์ บอกให้ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ปรบมือให้ขบวนรถหาเสียงของผู้สมัครพรรคเพื่อไทย แต่นายสิงห์ทอง ไม่สนใจ และได้ตะโกนเบอร์ 1 ตลอดเวลา
จากนั้นขบวนรถของนายอภิสิทธิ์ ได้ตระเวนไปตามถนนต่างๆ ระหว่างนั้นได้มีพ่อค้าชูชุดเอี้ยมสีแดง เขียนข้อความว่า "กูเพิ่งมา มึงอย่าเพิ่งยิง" และมีหญิงสาววัยกลางคน ถือวัสดุสีแดงลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชาย และเขียนเบอร์ 1 ชูใส่ขบวนรถที่ผ่านไปด้วย แต่ก็มีประชาชนจำนวนมากที่ออกมาให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์อย่างคึกคัก

ต่อมานายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปเขตห้วยขวาง เพื่อช่วย นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 7 โดยได้รับการต้อนรับจากประชาชนสองข้างทางอย่างล้นหลาม แต่ก็ยังมีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 4 คน ยืนปะปนกับกลุ่มคนตะโกนด่า ทำให้ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์พากันตะโกนแข่งว่า เบอร์ 10 จนกลุ่มเสื้อแดงเงียบเสียงไป ขณะที่นายอภิสิทธิ์ได้แต่ยิ้มรับไม่ตอบโต้อะไร จากนั้นขึ้นปราศรัยบริเวณ ถนนประชาราชบำเพ็ญ โดยยืนยันว่าได้ฝ่าฟันปัญหายากๆ ตลอด 2 ปี และร่วมทุกข์ สุข พร้อมพี่น้องประชาชน พร้อมยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินหน้าประเทศด้วยนโยบายเพื่อประชาชนไม่ใช่เพื่อนักการเมือง

** ยังไม่เลิกท้าดีเบตกับยิ่งลักษณ์

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ตอบรับคำเชิญจากมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) เพื่อไปดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ของหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จำนวน 6 พรรค ที่คาดว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้แล้ว รวมทั้งยังได้ตอบรับคำเชิญให้ไปประชันวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 24 มิ.ย.ด้วย

อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะตอบรับหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีการตอบรับใดๆ จากพรรคเพื่อไทยเลย โดยทางพีเน็ต ได้ให้โอกาสตอบรับวันถึงวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เท่านั้น

**"แม้ว"ทำกรรมกับคน 3 จังหวัดใต้ไว้เยอะ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงไปหาเสียงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ไม่กังวลว่าประชาชนในพื้นที่จะเทใจให้พรรคเพื่อไทย เพราะมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น การที่จะทำให้เกิดภาพหรือสร้างภาพเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การได้คะแนนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คิดว่าคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คงไม่ลืมว่า ตอนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำร้ายคนชายแดนภาคใต้อย่างไรบ้าง เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชานชายแดนภาคใต้

** "เทือก"แฉคนปาไข่เป็นเด็ก"สงคราม"

นายสุเทพยังกล่าวถึง กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงต่อต้านการหาเสียงของตน ซึ่งตนถูกปาไข่ ระหว่างการช่วยผู้สมัคร หาเสียงที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ตนขึ้นรถหาเสียงจนกระทั่งถึงตลาดก็ได้เดินลงไปขอคะแนนเสียง ถือว่าเป็นการทำตามปกติ แต่พอถึงพื้นที่สำโรงเหนือ ก็มีคนที่จัดตั้งมาต่อต้านเป็นจุดๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเชียร์เราบ้าง ไม่เชียร์เราบ้าง แต่พอเดินมาสักพักหนึ่ง ก็มีคนขว้างไข่ใส่ เจ้าหน้าที่ก็เลยจับกุมดำเนินคดี เบื้องต้นทราบเป็นคนจาก จ.ชัยภูมิ และก่อนที่จะมาขว้างไข่นั้น ได้มีคนถ่ายคลิปไว้ได้ว่าเขากำลังปรึกษาหารือกันอยู่ คิดว่าคงได้รับการวางแผนกันมา และมีชาวบ้านมาบอกตนว่า คนจัดการชื่อ สงคราม

เมื่อถามย้ำว่าคนชื่อสงคราม ใช่คนที่ส่งภรรยาลงรับสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ทราบ รู้แต่ว่าชาวบ้านบอกมาอย่างนี้ ว่านี่ คือ พรรคพวกของนายสงคราม ที่นายสงครามจัดมา

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนจะไปหาเสียงช่วยลูกพรรคต่อทุกจังหวัด และจะไปที่ปากน้ำอีก เพราะเราทำหน้าที่ของเรา พวกอันธพาลการเมือง จะดำเนินการอย่างไร ก็ให้ประชาชนไปพิจารณาเอง ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปล่อเป้า แต่ไปหาคะแนนเสียง และคงไม่ไปร้องกกต. แต่ให้ กกต.ดูเอาเอง

** เตรียมแจกรูปพวกเผาบ้านเผาเมือง

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยระบุว่า ที่คนเสื้อแดงออกมา เพื่อเป็นการตอบโต้ที่นายสุเทพ ยังคงตอกย้ำเรื่องการเผาบ้านเผาเมืองอยู่ตลาดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง เพราะเขาทำก่อนหน้านี้แล้ว และทำมาตลอด สิ่งที่ตนพูดไม่ได้เป็นการตอบโต้ แต่พูดความจริงให้ประชาชนได้ทราบว่า ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย 22 คน มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย อย่างตั้งใจ ตนต้องการให้ประชาชนได้รู้ว่า คนเหล่านี้เผาบ้านเผาเมือง ประชาชนอาจจะไม่ทราบ เดี๋ยวตนจะเอารูปหน้าตา และพฤติกรรมของคนเหล่านี้มาเปิดเผยอีกครั้ง หากประชาชนทราบข้อเท็จจริงแล้ว ยังเลือกพวกเผาบ้านเผาเมืองอีก พวกตนจะได้ทำใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเป็นที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะยังจับมือกับพรรคภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาลแข่ง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพยายามรับฟังเรื่องนี้ ข่าวก็ว่ากันไปเอง แต่ข้อเท็จจริงสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหว หรือพูดจากับใคร เราก้มหน้าก้มตาหาเสียงอย่างเดียว เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมากพอในการจัดตั้งรัฐบาลได้ ถึงตอนนั้นก็จะพูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ ฉะนั้นอย่าไปตื่นเต้นกับสูตรการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีข่าวการแบ่งโควต้ารัฐมนตรีอะไรกัน ขอให้ตื่นเต้นกับการเลือกตั้งก่อนดีกว่า เรื่องรัฐบาลเอาไว้ให้ถึงวันที่ 3 ก.ค.ก่อน

**ผบ.ตร.ยันไม่เด้งผกก.สภ.สำโรงเหนือ

พ.ต.อ.ศิริชัย ครูประเสริฐวัฒนา ผกก.สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ กล่าวถึงคดีปาไข่ใส่นายสุเทพ ขณะลงพื้นที่หาเสียงว่า ตนทำงานเต็มความสามารถ และหากเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นสาเหตุให้ถูกสั่งย้าย ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชา เพราะตนเป็นตำรวจ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่ขณะนี้ ก็ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้น และยังทำงานในหน้าที่เดิม ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผย

ขณะที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มีการสั่งย้าย ผกก.สภ.สำโรงเหนือ จากกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นเรื่องที่ควบคุม และห้ามได้ยาก รวมถึงหลังจากก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทันที

ผบ.ตร. ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงการปราศรัยหาเสียง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท้องที่ อำนวยความสะดวกการปราศรัยหาเสียงของผู้สมัครทุกพรรค พร้อมทั้งห้ามกลุ่มบุคคลขัดขวางการหาเสียง โดยหากพบว่ามีการขัดขวางเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที

**พท.ดีเบตกันเองผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก

เมื่อเวลา11.00 น. วานนี้ (14 มิ.ย.) พรรคเพื่อไทย ได้จัดดีเบตผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยนายโอฬาร ไชยประวัติ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ได้ตอบคำถามของประชาชนที่ถามถึงนโยบายประชานิยมภาครัฐ ที่มีจำนวนมาก มีแนวทางจัดสรรอย่างไรว่า นโยบายพรรคเพื่อไทย สามารถสร้างรายได้ให้คนไทยในอนาคต ซึ่งพรรคเพื่อไทยสามารถสร้างโอกาสแข่งขันได้ในตลาดโลก ภาคเศรษฐกิจในวันข้างหน้า จะใช้คนที่มีคุณภาพ มีการศึกษา มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งแน่นอนว่า การแข่งขันในเวทีทีโลกให้ได้นั้น จะต้องมีการลดภาษีนิติบุคคลให้ธุรกิจขนาดเล็ก นอกจากนี้ นโยบายการลงทุนมุ่งเน้นในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรแรงงาน ซึ่งการลงทุนจะทำ 2 เรื่อง คือ การสะสมทุนถาวร และการแก้ปัญหาโลกร้อนในอีก 10 ปี ข้างหน้า รวมแก้ปัญหาน้ำมันแพง
กำลังโหลดความคิดเห็น