xs
xsm
sm
md
lg

แดงป่วนหนัก! อัด‘มาร์คเรยา’ เสธ.หนั่นดับฝันพรรคSME จับขั้วตั้งรัฐบาลเกิดยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "เสื้อแดง" ยังตามป่วน "มาร์ค" ขณะหาเสียง ชูป้ายแทงใจดำ "ไร้ฝีมือ ข้าวยากหมากแพง" "เรยาทางการเมือง ปากจัด ทำไม่เป็น" "นายกฯเฮงซวย" ขณะที่"มาร์ค" ลากิจ 3 วัน ขึ้นหาเสียงภาคเหนือ อ้างเรื่องที่รับปาก"บรรหาร" แล้วผิดสัญญา ก็แค่เรื่องไม่ได้ไปบึงฉวากตามคำเชิญ ตอกกลับ"ห้อย-เติ้ง" เรื่องนิรโทษพวกบ้านเลขที่ 111 และ 109 ทำไม่ได้ ไม่ใช่ยกมือให้เป็นนายกฯแล้วต้องทำตามใจทุกเรื่อง จวก "แม้ว" ปั่นกระแสบีบคนไทยเลือกพท. ใช้วิธีข่มขู่ แต่ปากบอก สมานฉันท์ ปรองดอง ยันนิรโทษแบบเหมารวมไม่ได้ "เสธ.หนั่น" ยอมรับแผนรวมพรรค SME เป็นขั้วที่ 3 เกิดยาก

เมื่อเวลา 06.30 น. วานนี้ ( 31 พ.ค. ) ที่ตลาดวงศกร ถ.สุขาภิบาล 5 เขตสายไหม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ และทีมงานได้ไปช่วย นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้สมัคร ส.ส.เขตสายไหม หาเสียง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาแม่ค้าได้มอบดอกกุหลาบสีชมพู และร่วมถ่ายรูปให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ เช่นเดียวกับ นายก้องศักดิ์ ที่มีนายสุวิทย์ ยอดมณี อดีต รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งเป็นบิดา มาร่วมให้กำลังใจด้วย

**เสื้อแดงยังตามมากวนใจ"มาร์ค"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เดินหาเสียงรอบตลาดวงศกรนั้น ได้แวะสอบถามพูดคุยกับ พ่อค้า-แม่ค้าเป็นระยะ ได้มีหญิงกลางคนทราบชื่อว่า นางสิริมา นวลแจ่ม อายุ 60 ปี อดีตพนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กทช. ) สวมเสื้อสีแดงได้ยืนถือป้ายเขียนข้อความว่า " ไร้ฝีมือ ข้าวยากหมากแพง" ดักรอนายอภิสิทธิ์ แต่ตำรวจได้เข้ามาไกล่เกลี่ยก่อนที่นายอภิสิทธิ์ จะมาถึง
จากนั้นนางสิริมา ให้สัมภาษณ์ว่าต้องการมาแสดงออกถึงความไม่พอใจในนโยบายการแก้ปัญหาของนายอภิสิทธิ์ ที่ทำให้สินค้าราคาแพง โดยเฉพาะเรื่องไข่ชั่งกิโล และได้แสดงความน้อยใจว่า เมื่อครั้งผู้สมัครเพื่อไทยมาหาเสียง เหตุใดตำรวจในสน.นี้จึงไม่มาคุ้มกันบ้างเลย แต่พอนายอภิสิทธิ์มาก็ยกโขยงมาแทบทั้งโรงพัก

**เรยาทางการเมือง ปากจัด ทำไม่เป็น

นอกจากนี้ ยังมีชายกลางคนใส่เสื้อสีขาว ยืนถือป้ายประท้วง นายอภิสิทธิ์ เช่นกัน โดยเขียนข้อความว่า "เรยาทางการเมือง ปากจัด ทำไม่เป็น" แต่ตำรวจได้เข้ามาไกล่เกลี่ย ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ยินยอมที่จะออกไปเช่นเดียวกัน

เมื่อนายอภิสิทธิ์ ออกมาจากตลาด และทราบว่า นางสิริมา ได้มาถือป้ายขับไล่ตน นายอภิสิทธิ์ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่พาไปหานางสิริมา โดยนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตนยินดีรับฟังปัญหา มีอะไรก็ขอให้บอกกัน ขณะที่นางสิริมา บอกกับนายอภิสิทธิ์ว่า ตนมาคนเดียว และไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก่อน พอทราบว่านายอภิสิทธิ์จะมา จึงเพิ่งเขียนป้ายดังกล่าวเพื่อสะท้อนปัญหา

จากนั้นคณะของนายอภิสิทธิ์ และนายก้องศักดิ์ ได้ขึ้นรถหาเสียง แห่ไปตาม ถ.สายไหม มุ่งหน้าไป ถ.พหลโยธิน เป็นระยะทางประมาณ 4-5 กม.

** "มาร์ค"ลากิจ3 วันหาเสียงภาคเหนือ

หลังการหาเสียงนายอภิสิทธิ์ ได้เข้าร่วมประชุมครม. และได้ขอลากิจเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 1-3 มิ.ย.โดยจะเดินทางไปหาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือ โดยวันที่ 1 มิ.ย. ช่วงเย็นจะออกเดินทางโดยเครื่องบินไปลง จ.เชียงราย แล้วต่อไปที่ จ.พะเยา เพื่อปราศรัยใหญ่ จากนั้นก็เข้าพักนอนที่ วัดหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ช่วงเช้าวันที่ 2 มิ.ย. จะไปที่สหกรณ์บ้านแม่ ช่วงสายก็จะเดินทางต่อไปที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เพื่อทำกิจกรรมกับประชาชน และจะไปปราศรัยใหญ่ที่ จ.พะเยา เป็นครั้งแรกด้วย
ส่วนวันที่ 3 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ จะเปิดจะนโยบายทางด้านเศรษฐกิจกับผู้นำทางด้านเศรษฐกิจ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ และในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน อาทิ จ.ชัยภูมิ นครราชสีมา

** "เทือก"ยันไม่มีอะไรติดค้าง"บรรหาร”

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา สนับสนุนให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องขอบคุณนายบรรหาร ที่ให้เกียรติ หวังว่าหลังเลือกตั้งเสร็จ ถ้าตนไปชวนมาเข้าร่วมรัฐบาล นายบรรหาร จะยังคงให้ความกรุณาตนเช่นนี้ตลอดไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่นายบรรหาร ได้พูดถึงสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์รับปากแล้วไม่ทำให้ เป็นเรื่องของการนิรโทษกรรมนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์ 5 ปี หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีติดค้างอะไรกัน อะไรที่ทำให้นายบรรหารได้ตนก็ทำไปแล้ว

ส่วนที่นายบรรหาร บ่นน้อยใจว่า ช่วงนี้ค่อนข้างห่างเหินกันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่าต้องขออภัย นายบรรหาร ที่ตนห่างเหินจริงๆ เพราะตนเป็นเลขาธิการพรรค ต้องไปช่วยลูกพรรคลงไปดูเรื่องฐานเสียง

**ยัน"มาร์ค"รักษาคำพูดแต่บางเรื่องทำไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนนายบรรหาร พยายามพุ่งเป้าไปที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่รับปากแล้วไม่รักษาคำพูด จะทำให้เป็นปัญหาในการประสานงานเพื่อตั้งรัฐบาลอีกครั้งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา ความจริงนายอภิสิทธิ์ ก็เป็นคนที่รักษาคำพูด เพียงแต่ว่าบางเรื่องมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ตอนที่พูดก็พูดกันเร็วๆ แต่พอลงไปในรายละเอียดก็อาจจะมีข้อแตกต่างกันอยู่บ้าง ก็ต้องใช้เวลา

เมื่อถามว่า สิ่งที่นายบรรหาร อยากให้ดำเนินการก็คือ การนิรโทษกรรมให้กับนักการเมืองทั้งที่อยู่ใน 111 และ 109 ด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้หากเอามาพูดตอนนี้ อาจจะทำให้ประชาชนสับสน กับกรณีที่จะล้างความผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้กับบรรดาผู้ถูกกล่าวหาก่อการร้ายทั้งหลาย ที่เผาบ้านเผาเมือง เอามาพูดพร้อมกันไม่ได้ เดี๋ยวประชาชนสับสน

"หลักการของพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนคือ คนทำผิดก็ต้องรับผิด คนไม่ผิดก็ต้องไม่ผิด และผมจะไม่ขอตอบเรื่องนิรโทษกรรมในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการนิรโทษกรรมอะไร เพราะจะทำให้คนสับสน แต่ถ้าจะให้ชัดเจน ก็คือว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการที่จะล้มล้างความผิดให้ผู้ที่ทำผิดกฎหมาย เช่น พวกที่ไปเผาบ้านเผาเมือง ทั้งหลาย พวกก่อการร้ายทั้งหลาย หรือพวกที่ทำผิดกฎหมายอาญาต่างๆ" นายสุเทพ
กล่าว

** ยันปชป.ชู"มาร์ค"นายกฯไม่ใช่"เทือก"

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายบรรหาร เปลี่ยนแนวทางมาหนุน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี แทนนายอภิสิทธิ์ ว่า ใครจะพูดอะไรก็ได้ในช่วงเลือกตั้ง แต่เราไม่สับสน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนในการสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ

**"หนั่น"ยึดปรองดองยกโทษให้"เทือก"

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวขอโทษตน หลังจากให้สัมภาษณ์ในเชิงเยียหยามว่า เป็นนายกฯไม่ได้ว่า ตนเป็นนักปรองดอง ไม่มีโกรธใคร เมื่อเช้าได้พบกับนายสุเทพ ในห้องประชุมครม. นั่งติดกัน พูดคุยกันธรรมดาไม่ได้ว่าอะไร ทำความเข้าใจกันหมดแล้ว ซึ่งนายสุเทพ ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ปากพาไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าชื่อของ พล.ต.สนั่น มีลุ้นได้เป็นนายกฯ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนไม่ได้มาแข่งเป็นนายกรัฐมนตรีกับใคร แต่อยากเป็นนายกฯปรองดอง ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรี ต้องมาจาก 2 พรรคใหญ่ ที่เขาจะดำเนินการกัน ส่วนตนก็เดินหน้าปรองดอง ทุกคนต้องลดละความเคียดแค้น ต้องรู้จักคำขอโทษ และให้อภัย ก้าวข้ามความเจ็บปวดให้ได้

** รวมพรรคขนาดกลาง-เล็ก เกิดยาก

ส่วนสูตรจัดตั้งรัฐบาลโดยรวมพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก เป็นขั้วที่ 3 นั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ยังไม่มีวี่แววใดๆ มีเพียง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ที่เสนอมาเท่านั้น แต่ยังไม่เคยพูดจากอะไรกัน แต่ถ้าพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็กรวมกันได้จริงก็ดี เป็นปึกแผ่น แต่ตนก็มองว่าคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องให้ 2 พรรคใหญ่เขาคิดกัน แต่ถ้า 2 พรรคใหญ่เขาจัดไม่ได้ ก็ต้องมาให้พรรคขนาดกลาง แต่ในความเป็นไปได้จริง มีแค่ 0.001 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น

** จวก"แม้ว"ใช้การข่มขู่แต่อ้างปรองดอง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่ไมได้เป็นรัฐบาล คนเสื้อแดงจะลุกขึ้นมาอาละวาดอีก ว่า ก็อยากจะบอกว่าในขณะที่ปากพูดว่าจะปรองดอง แต่ก็ยังไม่หยุดยั้ง ในเรื่องของการข่มขู่คุกคาม ยืนยันว่าการทำให้ประเทศปรองดองไปสู่ความสงบสุขได้ เราต้องทำให้คนไทยเคารพกฎหมาย ไม่ใช่เอากำลังมาข่มขู่

เมื่อถามว่า พ.ต.ทักษิณอ้างว่า เรื่องการปรองดอง เขาคือส่วนหนึ่งของผู้ที่ถูกกระทำ ควรได้รับประโยชน์จากการปรองดองด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอย้ำว่า คนที่จะคิดทำปรองดอง ต้องคิดทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ใครที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะมีกระบวนการช่วยดู แต่ว่าต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากจุดไหน อย่างไร วันนี้ก็พูดกันไป แต่ไม่ได้ดูเลยว่าสิ่งที่จะลบล้างกันนั้น มีเรื่องอะไรบ้าง มันคลุมไปหมด ทั้งเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ต้องมาดูว่าเราจะต้องส่งสัญญาณอย่างไร เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วหรือเปล่า ไปจนถึงเรื่องของการทำลายทรัพย์สินทางราชการ

" ถึงเวลานี้ เป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องตัดสินใจแล้วเหมือนกันว่า ตกลงเราจะเดินหน้าด้วยสังคมที่มีกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความชัดเจน เพื่อยืนยันว่าต่อจากนี้ ทุกคนต้องเคารพ ใครที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมต้องข่มขู่คุกคาม ไม่ใช่ว่าบอกไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยไม่ได้เปิดให้คนอื่นได้พิจารณา แต่เอาอำนาจการข่มขู่มาใช้เพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้าคิดว่าไปยอมคนที่มีปัญหา เพื่อให้ปัญหามันจบ วันข้างหน้าจะมีคนที่มีปัญหาเยอะเลยครับ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯ มองอย่างไรที่การเมืองไทยไม่สามารถก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีคนไม่อยากให้จบ จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ปัญหาคือ สังคมต้องเข้มแข็ง คนไทยต้องเข้มแข็ง ในการที่จะผ่านตรงนี้ไป เพื่อความถูกต้อง

** "มาร์ค"อ้างผิดสัญญาเรื่องไปบึงฉวาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกว่าถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ เพราะล่าสุด นายบรรหาร ศิลปอาชา ระบุว่า ทำงานกับนายกฯอภิสิทธิ์ ยาก ไม่รักษาคำพูด นายอภิสิทธิ์ กล่าว ตนไม่เห็นรายละเอียด แต่อยากเรียนว่าต้องขออภัย 1 เรื่องที่ไม่ได้ทำตามคำพูด คือไม่ได้พาครอบครัวไปบึงฉวาก ตามที่ท่านได้ชวนเอาไว้ก่อนยุบสภา อันนี้ยอมรับว่า รับปากไว้ แต่ไม่ได้ทำ ส่วนเรื่องอื่นไม่มี เพราะว่าเรื่องอื่นพูดกันชัด เห็นพูดถึง มาตรา 237

" ผมก็ต้องบอกว่าไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ต้องยึดความถูกต้อง ยึดประโยช์นของบ้านเมือง ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ทำไม่ได้ เพราะเวลานั้นพรรคประชาธิปัตย์ มีคดียุบพรรคอยู่ ผมไม่อาจเป็นนายกฯ ที่ไปออกกฎหมายล้างความผิด เพื่อให้ตัวเองหลุดจากคดี ผมทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะโกรธเคืองกัน ก็ต้องยอม เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ต้องยึดหลักการตรงนี้เพื่อความถูกต้อง จริงๆ ที่ผ่านมาผมก็ถือว่าการทำงานร่วมกับทุกพรรค ผมเข้าใจ มีขัดใจไปหลายเรื่อง เพราะว่าผมก็ต้องเป็นคนตัดสินใจว่า อะไรที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติ และผมก็รู้ว่าไม่พอใจ เพราะท่านบรรหาร และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ก็พูดบ่อยว่า อยากจะเปลี่ยนนายกฯ เพราะอาจจะไม่พอใจบางเรื่อง แต่ว่าส่วนใหญ่ ต้องขอบคุณ ที่ใช้เหตุใช้ผล ก็เข้าใจกัน พูดก็พูด อย่างพรรคภูมิใจไทย หลายเรื่อง นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ฟังเหตุผลแล้วก็เข้าใจดี อยู่ด้วยกันแล้วต้องตามใจกันทุกเรื่อง ไม่ได้หรอกครับ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเลือกตั้งแล้วจะไปบึงฉวาก หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ยินดีจะไป แต่ไม่รู้เมื่อถึงเวลานั้นท่านยังจะชวนอยู่หรือเปล่า เมื่อถามว่านายกฯ คิดว่าแค่เรื่องไม่ไปบึงฉวาก มันเรื่องใหญ่ขนาดโกรธกันเลยหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบครับ เพราะผมมานั่งคิดว่า มีเรื่องไหนที่รับปากแล้วไม่ได้ทำ ก็มีแค่เรื่องนี้

เมื่อถามว่า มีปัญหากันอย่างนี้ จะเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ แต่นายอภิสิทธิ์ เฉไฉว่า เรื่องบึงฉวากหรือครับ คงไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวย้อนถามว่า เรื่องแก้มาตรา 237 จะเป็นปัญหาจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอกครับ ทุกอย่างมันมีเหตุ มีผลของมัน และตนก็พูดชัดว่า ถ้าจะมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์อยู่ แล้วตนไปแก้กฎหมายอันนี้มันเป็นไปไม่ได้ "ประชาชนจะมองว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ไปแก้กฎหมายเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากคดี ถึงได้บอกว่า คนมีส่วนได้เสียทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดความคลางแคลงใจ ทำให้เกิดความขัดแย้งกับการบริหารบ้านเมืองด้วยหลักการที่ดี เพราะฉะนั้นผมถึงได้บอกว่า ถ้าขัดใจกัน ก็ต้องขัดใจ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

** ยันนิรโทษกรรมแบบเหมารวมไม่ได้

เมื่อถามว่า ตอนนี้มันชัดเจนมากว่า พรรคภูมิใจไทย กับพรรคชาติไทยพัฒนา มีจุดยืนที่ตรงกัน ในเรื่องการนิรโทษกรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ค่อยแน่ใจ เพราะคำว่านิรโทษกรรมมันกว้าง มีทั้งเรื่องการเมือง กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ก็เป็นคนละเรื่อง ก่อการร้ายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มีความผิดตาม มาตรา 112 ไปพูดรวมๆกัน ตนไม่เชื่อ และจริงๆ ถึงได้ถามว่า เรื่องนี้หยิบขึ้นมาทำไม เพราะก่อนที่ยังไม่หยิบขึ้นมา ก็ไม่ขัดแย้งกัน พอหยิบขึ้นมาก็มาวิพากษ์วิจารณ์กัน ขัดแย้งกัน ในขณะที่เราอยากให้เรื่องความขัดแย้งกัน อยากให้การเลือกตั้งกลับไปเป็นเรื่องของประชาชน เพราะฉะนั้น ตนจะยืนจุดนี้

**ตอก"เติ้ง-เนวิน" ตามใจทุกเรื่องไม่ได้

ต่อมาในช่วงบ่าย นายอภิสิทธิ์ ได้ใช้เวลาหลังเวลาราชการ ออกช่วยลูกพรรคหาเสียง ที่ บริษัท ซี พี ค้าปลีกและการตลาด จำกัด จ.ปทุมธานี โโยมีสาวโรงงานถือกุหลาบรอให้การต้อนรับ ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวถึงผลงานในช่วง 2 ปีที่เป็นรัฐบาลและหากมีโอกาสได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก 4 ปี ก็จะทำงานที่ค้างอยู่ให้สำเร็จ จะทำให้ประเทศไทยเป็นบ้านเมืองที่กฎหมายเป็นกฎหมาย ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด จะไม่ยอมให้มีการบิดเบือนกฎหมาย นำเอาอำนาจ แรงกดดันนำมาล้างความผิดหรือให้ลืมกันไป

ส่วนที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา บ่นตนในทุกวันนี้ เป็นเพราะตนไม่ค่อยตามใจ ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ อะไรที่เห็นว่าควรทำ ก็สนับสนุน อะไรที่ไม่ควรทำ ก็จะไม่ตามใจ แต่ถ้าหงุดหงิดแล้วบอกว่าจะยกมือให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วให้ตามใจ คงไม่ได้ และถ้าให้คนที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ต้องมาบอก คอยตามใจ หรือมาต่อรองกับตนมากๆ คงไม่ถูก ตนจึงบอกว่า ขอให้ทุกคนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้เสียงเกิน 250 เสียง จะได้หมดปัญหา

** ด่า"มาร์ค" นายกฯเฮงซวย

ต่อมานายอภิสิทธิ์ ได้ไปหาเสียงที่ ภายในห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ปรากฏว่าว่ามีคนเสื้อแดงสองสามี ภรรยา โดยภรรยาได้ตะโกนโวยวายด้วยคำหยาบคาย ด้วยสีหน้าโกรธแค้นว่า "ขอเจออภิสิทธิ์หน่อย ทำไมถึงเจอไม่ได้ อยากจะถามว่าเรื่องการรักษาพยาบาลของประชาชน เช่น ยาแคลเซียมรักษาเข่า ยา 30 บาทเบิกได้ แต่รักษาฟรีทำไมถึงเบิกไม่ได้ เป็นการโกหกประชาชน นายกฯ เฮงซวย" ขณะที่สามี และเจ้าหน้าที่ ได้พยายามห้ามปราบ และกันให้ไปจากพื้นที่ ดังกล่าว แต่ยังได้มีการตะโกนด่าอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันได้มีประชาชนโห่ไล่ว่า คนชั่ว คนเลว ไปช่วยมันทำไม โรคชั่วๆ รักษาไม่ได้หรอก จากนั้นประชาชนส่วนหนึ่งตะโกนขับไล่ให้ออกไป ขณะที่ขบวนหาเสียงของนายกฯ พยายามให้ขบวนชะลอให้ช้าลง เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน จนในที่สุดได้พาหญิงคนดังกล่าวไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ

** อัด"แม้ว"ปั่นกระแสบีบคนไทยเลือกพท.

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีความเคลื่อนไหวยุทธศาสตร์สร้างกระแสข่าวของพ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย โดยใช้เวทีกระแสโลกมากดดัน ซึ่งพบว่าเป็นการเคลื่อนไหวใน 3 แนวทางดังนี้

1 .นำเสนอคะแนนนิยมที่สูงเกินจริง คือการคุยว่าจะได้ 270 เสียง เพื่อกำหนดผลเลือกตั้ง และเตรียมการกล่าวอ้างว่า มีการทุจริตหากไม่ได้คะแนนเสียงสูงอย่างที่ตั้งเป้าไว้

2 หากผลเลือกตั้งออกมายังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามกระบวนการรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความวุ่นวาย

3. ผูกชะตาของตัวเองหากศาลพิพากษาตัดสินให้จำคุก และไม่สามารถล้างความผิดได้ความสงบก็จะไปกลับมา ดังนั้นขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาทำความเข้าใจ ชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเฉพาะความพยายามที่จะดังองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

**ตั้งเงื่อนไขต้องนิรโทษเพื่อปรองดอง

นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ โดยเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรม ให้ทหารเข้ากรมกองว่า พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทยกำลังข่มขืนประเทศไทย ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อว่าการนิรโทรกรรมกับการปรองดอง คือเรื่องเดียวกัน โดยหมายจะเอาคะแนนเสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง มาลบล้างนิติรัฐ และหลักนิติธรรม ของประเทศอย่างเลือดเย็น

นอกจากนี้ ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เดินแนวทางเอาพี่ชายกลับประเทศ และนิรโทษกรรมให้พี่ชาย ประเทศไทยทั้งสังคม จะต้องแบกเอาปัญหาอันเกิดจากความฉ้อฉลของเขาเป็นภาระอันหนักอึ้ง ที่ผู้รักความเป็นธรรมไม่อาจทนได้

**ปชป.ท้า 6 พรรคตีฝีปาก 23-24 มิ.ย.

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดีเบต หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย แสดงความประสงค์เข้าร่วมดีเบต ว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อมาจากองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ศูนย์วิจัยนโยบายภาครัฐ ม.ศรีปทุม สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ช่อง 9 สปริงนิวส์ ว่า จะมีการจัดดีเบตในวันที่ 23 มิ.ย.และ 24 มิ.ย. โดยในวันที่ 23 มิ.ย. จะเป็นการประชันวิสัยทัศน์ระหว่างผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของ 6 พรรคการเมือง ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และวันที่ 24 มิ.ย. จะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ ระหว่างผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พร้อมด้วยทีมงานอีก 2 คน จากทุกพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้พรรคได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมงานดังกล่าวแล้ว และทราบว่าได้มีการส่งจดหมายไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยเช่นกัน

** "ปลอด"เผย พท.ไม่ผสมพันธุ์"ห้อย"แน่

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่หาเสียงใน จ.นครราชสีมา โดยบอกว่าพร้อมจะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ว่า หากจะพูดถึงเรื่องของพรรคภูมิใจไทยนั้น พรรคเพื่อไทย คิดว่าพรรคภูมิใจไทยมีอุดมการณ์ แนวทางในการทำงาน และความประพฤติ ที่แตกต่างจากพรรคเพื่อไทยอย่างมาก ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมาร่วมงานกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น