ASTVผู้จัดการรายวัน – ทีเอชเอเผยอัตราเข้าพักโลว์ซีซั่น ปีนี้กลับสูภาวะปกติเมื่อปี 50 เฉลี่ยทั้งประเทศที่ 60-70% แต่ด้านราคายังต่ำอยู่ 10-15% พร้อมตั้งตาคอยฟังนโยบายหาเสียง 5 พรรคการเมืองในเวทีดีเบต 14 มิ.ย.ศกนี้ เตรียมถามพรรคการเมืองที่ดูแลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ว่า 2 ปีที่ผ่านมาทำอะไรสำเร็จบ้าง ขณะที่ประธานฝ่ายนโยบาย สทท. ยอมรับ เลือกตั้งกระทบโรงแรมแถบอีสานเงียบ ราชการไม่กล้าจัดสัมมนา
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย หรือ ทีเอชเอ เปิดเผยว่า อัตราเข้าพักโรงแรมช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ กลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อปี 2550 ก่อนที่ประเทศไทยจะมีปัญหาทางการเมือง โดยอัตราเข้าพักเดือนพฤษภาคม เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 60% หากแยกตามภูมิภาค อัตราเข้าพักภาคเหนืออยู่ที่ 40% ภาคใต้ 60-70% กรุงเทพ 40% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กรุงเทพฯมีอัตราเข้าพักอยู่ประมาณ 23% เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ มีความวุ่นวายทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม แม้อัตราเข้าพักจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติของช่วงโลว์ซีซั่น แต่ในเรื่องของราคาห้องพัก ยังไม่สามารถปรับเข้าสู่ต้นทุนที่แท้จริง หรือมีราคาเท่ากับเมื่อปี 2550 ได้ เนื่องจากผลของความวุ่นวายทางการเมืองที่ผ่านมา 3 ปี ทำให้ธุรกิจโรงแรมต้องปรับลดราคาห้องพัก จูงใจให้ลูกค้าใช้บริการ ทำให้ราคาต่ำกว่าปี 2550 ราว 10-15%
**สมาชิกทีเอชเอร่วมฟังบรรยายแน่น
สำหรับการประชุมสมาชิกทีเอชเอ ประจำเดือน พ.ค. นี้ ได้เชิญ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา หรือ itd มาบรรยาย ในหัวข้อเรื่อง “ทิศทางการท่องเที่ยวภายหลังการเลือกตั้ง” โดยครั้งนี้ มีสมาชิกทีเอชเอ ตอบรับเข้าร่วมฟังการบรรยายมากกว่า 200 คน สูงกว่าการประชุมทุกครั้งที่ผ่านมา สะท้อนว่า ผู้ประกอบการโรงแรมก็มีความสนใจในทิศทางท่องเที่ยวของประเทศไทยนับจากนี้ไป ขณะเดียวกัน ก็มีความเชื่อมั่นในตัวผู้บรรยาย เพราะ นายวีระศักดิ์ ซึ่งเคยทำงานทางการเมืองและเคยดำรงค์ตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงมีความรู้ความสามารถทั้งด้านการเมืองและด้านการท่องเที่ยวเป็นที่ยอมรับในภาคเอกชน
***ถาม 2 ปีที่ผ่านมาทำอะไร**
นายประกิจ กล่าวว่า สำหรับการเชิญ 5 พรรคการเมือง มาร่วมดีเบต ซึ่งจัดโดยสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟสต้า วันที่ 14 มิ.ย.54 ที่โรงแรมวินเซอร์ สุขุมวิท เพื่อมาร่วมพูดคุยถึงนโยบายด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละพรรค ในส่วนของ ภาคเอกชนได้เตรียมคำถามไว้มากมายเพื่อที่จะถามแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต่างก็ชูนโยบายด้านการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรค ว่ามีแผนการทำงานอย่างไรบ้าง
นอกจากนั้น ยังต้องการถามข้อข้องใจกับพรรคการเมืองที่บริหารท่องเที่ยว 2 ปีที่ผ่านมา ว่ามีนโยบายอะไรบ้างที่ทำสำเร็จ เพราะไม่ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะดีขึ้นหรือตกต่ำ จะเป็นไปตามภาวะตลาดและปัจจัยที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ผู้มีอำนาจด้านการบริหารนโยบาย ไม่เคยมีการเรียกประชุม แต่กลับนำเสนอว่าการเติบโตของท่องเที่ยวเป็นผลจากการทำงาน
***เลือกตั้งกระทบรร.อีสานเงียบ***
ทางด้านนายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. เปิดเผยว่า ช่วงก่อนการเลือกตั้ง ธุรกิจโรงแรมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่ จะรับกรุ๊ปสัมมนา ต่างได้รับผลกระทบ เพราะหน่วยราชการ ต่างพากันชะลอแผนงานจัดประชุมสัมมนาในต่างจังหวัด เพราะไม่มีรัฐมนตรีออกมาให้นโยบายอะไรได้และยังไม่สามารถเกณฑ์คนมารับฟังการสัมมนา การประชุมได้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎการเลือกตั้ง รวมถึง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) ก็จะไม่อนุญาตให้ดำเนินการด้วย
“ แม้ช่วงเลือกตั้งจะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัด แต่จะไม่เข้ามาในส่วนของภาคธุรกิจโรงแรมมากนัก เนื่องจากติดปัญหาดังที่กล่าวมา แต่เงินที่สะพัดจะกระจายไปสู่ภาคประชาชนโดยตรง” นายกงกฤช กล่าว
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย หรือ ทีเอชเอ เปิดเผยว่า อัตราเข้าพักโรงแรมช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ กลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อปี 2550 ก่อนที่ประเทศไทยจะมีปัญหาทางการเมือง โดยอัตราเข้าพักเดือนพฤษภาคม เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 60% หากแยกตามภูมิภาค อัตราเข้าพักภาคเหนืออยู่ที่ 40% ภาคใต้ 60-70% กรุงเทพ 40% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กรุงเทพฯมีอัตราเข้าพักอยู่ประมาณ 23% เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ มีความวุ่นวายทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม แม้อัตราเข้าพักจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติของช่วงโลว์ซีซั่น แต่ในเรื่องของราคาห้องพัก ยังไม่สามารถปรับเข้าสู่ต้นทุนที่แท้จริง หรือมีราคาเท่ากับเมื่อปี 2550 ได้ เนื่องจากผลของความวุ่นวายทางการเมืองที่ผ่านมา 3 ปี ทำให้ธุรกิจโรงแรมต้องปรับลดราคาห้องพัก จูงใจให้ลูกค้าใช้บริการ ทำให้ราคาต่ำกว่าปี 2550 ราว 10-15%
**สมาชิกทีเอชเอร่วมฟังบรรยายแน่น
สำหรับการประชุมสมาชิกทีเอชเอ ประจำเดือน พ.ค. นี้ ได้เชิญ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา หรือ itd มาบรรยาย ในหัวข้อเรื่อง “ทิศทางการท่องเที่ยวภายหลังการเลือกตั้ง” โดยครั้งนี้ มีสมาชิกทีเอชเอ ตอบรับเข้าร่วมฟังการบรรยายมากกว่า 200 คน สูงกว่าการประชุมทุกครั้งที่ผ่านมา สะท้อนว่า ผู้ประกอบการโรงแรมก็มีความสนใจในทิศทางท่องเที่ยวของประเทศไทยนับจากนี้ไป ขณะเดียวกัน ก็มีความเชื่อมั่นในตัวผู้บรรยาย เพราะ นายวีระศักดิ์ ซึ่งเคยทำงานทางการเมืองและเคยดำรงค์ตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงมีความรู้ความสามารถทั้งด้านการเมืองและด้านการท่องเที่ยวเป็นที่ยอมรับในภาคเอกชน
***ถาม 2 ปีที่ผ่านมาทำอะไร**
นายประกิจ กล่าวว่า สำหรับการเชิญ 5 พรรคการเมือง มาร่วมดีเบต ซึ่งจัดโดยสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟสต้า วันที่ 14 มิ.ย.54 ที่โรงแรมวินเซอร์ สุขุมวิท เพื่อมาร่วมพูดคุยถึงนโยบายด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละพรรค ในส่วนของ ภาคเอกชนได้เตรียมคำถามไว้มากมายเพื่อที่จะถามแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต่างก็ชูนโยบายด้านการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรค ว่ามีแผนการทำงานอย่างไรบ้าง
นอกจากนั้น ยังต้องการถามข้อข้องใจกับพรรคการเมืองที่บริหารท่องเที่ยว 2 ปีที่ผ่านมา ว่ามีนโยบายอะไรบ้างที่ทำสำเร็จ เพราะไม่ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะดีขึ้นหรือตกต่ำ จะเป็นไปตามภาวะตลาดและปัจจัยที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ผู้มีอำนาจด้านการบริหารนโยบาย ไม่เคยมีการเรียกประชุม แต่กลับนำเสนอว่าการเติบโตของท่องเที่ยวเป็นผลจากการทำงาน
***เลือกตั้งกระทบรร.อีสานเงียบ***
ทางด้านนายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. เปิดเผยว่า ช่วงก่อนการเลือกตั้ง ธุรกิจโรงแรมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่ จะรับกรุ๊ปสัมมนา ต่างได้รับผลกระทบ เพราะหน่วยราชการ ต่างพากันชะลอแผนงานจัดประชุมสัมมนาในต่างจังหวัด เพราะไม่มีรัฐมนตรีออกมาให้นโยบายอะไรได้และยังไม่สามารถเกณฑ์คนมารับฟังการสัมมนา การประชุมได้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎการเลือกตั้ง รวมถึง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) ก็จะไม่อนุญาตให้ดำเนินการด้วย
“ แม้ช่วงเลือกตั้งจะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัด แต่จะไม่เข้ามาในส่วนของภาคธุรกิจโรงแรมมากนัก เนื่องจากติดปัญหาดังที่กล่าวมา แต่เงินที่สะพัดจะกระจายไปสู่ภาคประชาชนโดยตรง” นายกงกฤช กล่าว