xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นยุบเพื่อไทย "สนธิ"ชี้ปล่อยนช.แม้วครอบงำ เล็งเชือดพรรคอื่นต่อ-ไม่เว้นปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-พันธมิตรฯ และพรรคเพื่อฟ้าดิน ยื่นกกต.ยุบพรรคเพื่อไทย ชี้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งชัด ให้ "ทักษิณ" บงการ จากป้ายหาเสียง "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" และการปราศรัยว่าผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนตนเองทั้งสิ้น คิวต่อไปยื่นยุบบรรดาพรรคที่ "สัญญาว่าจะให้" ไม่เว้นแม้ประชาธิปัตย์ "เด็จพี่"โวยยื่นยุบพรรคมีวาระซ่อนเร้น หวังล้มเลือกตั้ง

วานนี้ (21 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ เลขาธิการพรรคเพื่อฟ้าดิน ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้อง ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง ออกคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทย จากกรณีที่มีพฤติกรรม ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง และอยู่ในฐานะนักโทษหลบหนีคดีอาญา มีอำนาจสั่งการเหนือพรรคเพื่อไทย โดยได้แนบเอกสารหลักฐานจำนวน 13 รายการ ประกอบการพิจารณา โดยมีนายอำนวย น้อยโสภา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการสนับสนุน กกต.เป็นผู้รับเรื่อง

** "สนธิ"ร่วมลงนามยื่นยุบพท.

นายปานเทพกล่าวว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ลงนามในเอกสาร เพื่อร่วมร้องเรียนพร้อมกับตน และพรรคเพื่อฟ้าดิน โดยร.ต.แซมดิน เพื่อมาร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย โดยนำเอกสารทั้งหมด 13 ชิ้น เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณนั้น อยู่ในฐานะที่ถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ตามคำพิพากษาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ในฐานะผู้ที่เป็นนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน แต่กลับเป็นผู้บงการ มีคำสั่งชี้นำให้กับพรรคเพื่อไทยในการกำหนดนโยบาย

โดยมีคำปรากฏหลายประการ เช่น ป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เขียนว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” หรือแม้กระทั่งกรณีคำปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บอกว่าตัวแทนผู้สมัครเหล่านั้น เป็นตัวแทนของพ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้น ซึ่งเป็นหลักฐานเพียงบางส่วนจากจำนวนทั้งหมด 13 รายการ

นอกจากนี้ ยังมีแผ่นวีซีดีเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และการโฟนอินทั้งหมด คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง รวมถึงผู้สมัครที่กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ หลายกรณี ทำให้เชื่อมโยงได้อย่างชัดเจนว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ นายสนธิและตน จึงได้ลงนามในหนังสือ พร้อมด้วยพรรคเพื่อฟ้าดิน เพื่อขอให้ กกต.พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย จากพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 4, มาตรา 94 (1) (2) (3) และมาตรา 66

พร้อมกันนี้ ยังปรากฏที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ได้ร่วมกันรับบริจาคเงินชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ต่อมาบุคคลทั้งสองกับพวกถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย

ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทย โดยพ.ต.ท.ทักษิณ กระทำการข้างต้น จึงต้องถูกยุบพรรคตาม มาตรา 94 (1) (2) (3) และ (5) นอกจากนั้น หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ซึ่งยินยอมให้มีการกระทำดังกล่าว จึงต้องรับโทษตาม มาตรา 166 ด้วย นั่นหมายความว่า ต้องรับโทษในการยุบพรรค ถูกพิจารณายุบพรรค และถูกดำเนินคดีอาญาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการยื่นฟ้องยุบพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ หลักฐานใดที่ชัดเจนที่สุด นายปานเทพ กล่าวว่า หลักฐานที่ชัดที่สุดคือ ป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ระบุว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” บวกกับคำปราศรัยของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้สมัครเหล่านี้เป็นตัวแทนของพ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้น เรียกว่า นายห้างตราดูไบห่อ เพื่อเป็นการประทับตรานายห้างดูไบของตัวเอง ซึ่งเป็นคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณเอง

นอกจากนี้ ยังพูดอย่างชัดเจนในการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งเป็นรัฐบาล หนี้สินของประชาชนจะหมดในไม่ช้า หรือที่กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครก็เหมือนตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นคำสัมภาษณ์ในการกล่าวโฟนอิน วีดีโอ ลิงก์ ยังไม่นับอีกมากมาย ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยและผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ประกาศในทางสาธารณะว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ชี้นำ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แม้กระทั่งเป็นผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งเป็นที่ชัดเจน และเปิดเผยในทางสาธารณะ รวมทั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยังได้พูดบ่อยครั้งว่า เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ต้องนำพ.ต.ท.ทักษิณ ไปหาเสียง

เมื่อถามต่อว่า ก่อนหน้านี้ เคยมีคนยื่นคำร้องในลักษณะเช่นนี้ต่อกกต.และเคยวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวไม่มีความผิด นายปานเทพ กล่าวว่า ต้องถือเป็นคนละกรณี เพราะตอนนั้นยังไม่เข้าสู่ช่วงเวลาที่มีความชัดเจนมากขึ้น แต่หลักฐานที่เปลี่ยนไป และเวลาผ่านไป มันชัดเจนมากขึ้น และเราก็คิดว่าในช่วงหลังนี้ เป็นการเปิดตัวชัดเจน เราไม่เห็นว่าการเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งที่ถูกพิพากษาไปนั้น จะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของคำพิพากษาแต่ประการใด แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ที่ไม่สามารถเกี่ยวข้องทางการเมืองได้แล้ว กลับเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นผู้บงการได้โดยตรง เป็นผู้ประกาศโดยตรงว่า ผู้สมัครเหล่านั้นเป็นตัวแทนของตนเอง โดยที่ผู้สมัครก็ยินดีพร้อมใจกันหาเสียงในทำนองแบบนี้เช่นเดียวกัน มีทั้งฝ่ายเสนอ และฝ่ายสนอง ตอบรับกันทั้งสองฝั่ง ก็น่าจะเป็นหลักฐานที่เพิ่มเติมมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา

** คิวต่อไป พวก"สัญญาว่าจะให้"

ต่อข้อถามว่า จะมียื่นในส่วนของพรรคการเมืองอื่นด้วยหรือไม่ เพราะหลายพรรค ก็มีบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง นายปานเทพ กล่าวว่า จะมีการดำเนินการในลำดับถัดไป โดยได้คุยกับพรรคเพื่อฟ้าดิน และทางทีมทนายว่า ในอีกไม่นาน คงอาจจะต้องมีมาตรการในการยุบอีกหลายพรรคการเมือง ซึ่งทางพรรคเพื่อฟ้าดิน และพันธมิตรฯ จะยื่นคำร้องต่อกกต. เช่น การใช้นโยบายสัญญาว่าจะให้อย่างชัดเจน ที่วัดเป็นผลประโยชน์ได้ เป็นเม็ดเงินได้ มีหลายพรรคการเมืองเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่บางอย่างเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ก็ยังประกาศกัน ถือว่าเป็นการจูงใจ สัญญาว่าจะให้ หรือจะให้ ถ้าได้รับการเลือกตั้ง

สิ่งเหล่านี้ กกต.เมื่อปี 2544 ก็เคยมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันมาแล้ว ซึ่งเราเห็นว่าแท้ที่จริงแล้ว กกต.อาจจะไม่มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้ ก็ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นฝ่ายวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ทำให้นโยบายหาเสียงที่เรียกว่า ประชานิยม ใช้กับทุกพรรคการเมือง ใช้กับนโยบายพรรคการเมืองแบบบ้าระห่ำ ใช้เงินนับล้านๆ บาท ทั้งที่หลายกรณี และหลายนโยบายเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ก็ยังมีการใช้นโยบายเช่นนี้ดำเนินการต่อไป เราเห็นว่าขั้นตอนต่อไป จะมีมาตรการยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคการเมืองเหล่านี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นการซื้อเสียงโดยนโยบาย ซึ่งอาจจะมีอีกหลายพรรค ยกเว้นพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่ไม่มีนโยบายหาเสียงที่ใช้ประชานิยม หรือสัญญาว่าจะให้ ถ้าได้รับการเลือกตั้ง เรื่องนี้คงต้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่วินิจฉัยโดย กกต. ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้า จะยืนยุบพรรคเพิ่มเติมต่อไป

เมื่อถามว่าป้ายหาเสียง “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ถือว่าเข้าข่ายทางกฎหมายหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นกลยุทธ์ในการหาเสียง นายปานเทพ กล่าวว่า กลยุทธ์อย่างไร คำว่า ทักษิณก็เป็นที่รู้กันว่าหมายถึงใคร ประชาชนย่อมเข้าใจตรงกัน การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดบนเวที ใช้ทวิตเตอร์ โฟนอิน วีดีโอ ลิงก์ ผนวกกับพรรคเพื่อไทย นำความคิดเช่นนี้ไปประกาศทางสาธารณะ ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจมากในทางเปิดเผย จึงเห็นว่ากรณีแบบนี้ไม่ใช่เป็นการหลบซ่อน หรือเลี่ยงแล้ว แต่เป็นการเปิดเผยตัวเองอย่างชัดเจน ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยเอง เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอื่นที่ กกต.จะปล่อยผ่านไว้ โดยไม่มีการยุบพรรคการเมืองพรรคนี้

** กกต.ล้มเหลว ควรลาออกไป

เมื่อถามว่า เป็นเจตนาหรือไม่ ที่ยื่นฟ้องยุบพรรคการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง นายปานเทพ กล่าวว่า ถ้าทำเอกสารทัน เราก็ทำให้ทัน และเร็วที่สุด ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องทำ แม้กระทั่งวันนี้ สิ่งที่ภาคประชาชนยอมรับว่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ การเลือกตั้งไม่มีความสุจริตเที่ยงธรรม การทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิ์ขายเสียง เกิดระบาดมาก ตั้งแต่หัวละ 1,000-3,000 บาท มีการใช้อาวุธยิงหัวคะแนน จนต้องมีทั้งเสื้อเกราะ และตำรวจคุ้มกัน ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 400 คน มีการทุบรื้อทำลายป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองจำนวนมาก อันนี้ไม่ใช่วิถีทางการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นการเลือกตั้งแบบบ้านป่า เมืองเถื่อน ที่ใช้เงิน และอาวุธเป็นตัวนำ ใช้อิทธิพล และการข่มขู่อันธพาลเป็นตัวนำ ย่อมไม่ถือว่าเป็นครรลองของระบอบประชาธิปไตย กกต.ต้องรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ ก็คงต้องลาออก
เมื่อถามว่า นอกจากหนังสือที่ยื่นต่อ กกต.แล้วยังมีหลักฐานอื่นๆ หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า มีซีดี มีทั้งภาพข่าว วีดีโอลิงก์ โฟนอิน หลายหลักฐาน ซึ่งอันที่จริงเรารวบรวมมานานแล้ว แต่ก็รอจังหวะเวลาให้หลักฐานชัดกระทั่งมีป้ายคำว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ชัดเจนที่สุด

**กา"โหวตโน" เพื่อปฏิรูปการเมือง

นายปานเทพยังกล่าวถึงการรณรงค์ ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโหวตโนว่า พันธมิตรฯ ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้เสียงโหวตโน ให้ชนะผู้สมัครได้ใน 26 เขต แต่จากการที่นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ได้แสดงความเห็นไว้นั้น ทำให้เราต้องการให้แค่ประชาชนได้รับทราบว่า การโหวตโน มีผลทางกฎหมาย และมีความหมายว่า ถ้าประชาชนสามารถดำเนินการนำคะแนนโหวตโน ชนะเหนือทุกพรรคการเมืองในเขตนั้นๆ การเลือกตั้งเขตนั้น ก็จะเป็นโมฆะ

ทั้งนี้ ถ้าการเลือกตั้งแล้วคะแนนโหวตโน ชนะผู้สมัคร มีมากถึง 26 เขตขึ้นไป ก็จะทำให้รัฐสภาเปิดประชุมไม่ได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 วรรค 7 และมาตรา 127 ที่ต้องเปิดประชุมสภาภายใน 30 วัน ซึ่งจะทำให้อำนาจต่อรองกลับมาอยู่ที่ภาคประชาชนใน 26 เขตขึ้นไป ที่จะต่อรองในเรื่องของการปฏิรูปการเมือง หรือว่าการไม่ยอมรับการนิรโทษกรรม หรือให้รัฐบาลนั้นมีนโยบายชัดเจน เพื่อยุติความขัดแย้งทั้งปวง ไม่ว่าฝ่ายใดที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลต่อไปในอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีองค์กรสื่อ และภาคเอกชน ร่วมกันออกแถลงการณ์โดยมีข้อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้ง ให้ทุกพรรคแสดงเจตจำนงค์ ยุติความขัดแย้ง และให้องค์กรอิสระเป็นตัวกลางในการสร้างความปรองดองนั้น พันธมิตรฯ มีความเห็นอย่างไร นายปานเทพ กล่าวว่า สำหรับพันธมิตรฯ เราไม่เคยเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นทางออกเลย กลับเห็นว่าการเลือกตั้งจะนำไปสู่วิกฤตการณ์ที่ร้ายแรง รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต

"การเลือกตั้งที่ใช้เงิน และอิทธิพลเป็นหลัก ไม่ใช่เจตนารมณ์ของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ดังนั้น เราจึงไม่สามารถจะเห็นด้วยได้ และก็ไม่เห็นด้วยกับการที่รณรงค์ให้มีการยอมรับผลการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเหล่านี้ไม่มีใครเอาผิดได้ในการทุจริตการเลือกตั้งเลย เราเห็นว่าเป็นการเลือกตั้งที่ล้มเหลวที่สุด จะสร้างความแตกแยกร้าวฉานรุนแรงมากขึ้นไปกว่าเดิม" นายปานเทพ กล่าว

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า เราจึงเห็นว่าวิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติครั้งนี้ได้ ก็คือ การเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้มากที่สุด และมากกว่า 26 เขต และจะยุติความล้มเหลวทางการเมืองได้ ถ้าเกิดการประชุมสภาไม่ได้ นักการเมืองเหล่านั้นก็เริ่มเข้าสู่อำนาจไม่ได้ ก็หมายความว่าอำนาจต่อรองจะกลับมาสู่ประชาชน โดยที่ประชาชน จะสามารถเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก่อนที่จะตัดสินใจในครั้งต่อไป

ดังนั้น พันธมิตรฯ จึงไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ดังกล่าว และขอสงวนสิทธิ์ ที่จะไม่เห็นด้วยกับการใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เข้ามาฟอกย้อม และให้ความชอบธรรมกับนักการเมือง เพราะเราเห็นว่าเป็นการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลที่สุด ทุจริตมากที่สุด และ กกต.ก็ไม่สามารถเอาความผิดกับใครได้

** หนุนยุบพรรคที่สัญญาพล่อยพล่อย

นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า กรณีพรรคการเมืองที่หาเสียงโดยสัญญาว่าจะให้ ทุกพรรคเข้าข่ายกระทำความผิดพ.ร.บ. เลือกตั้งทั้งหมด ทั้งสัญญาว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้ จะเพิ่มค่าแรงให้ จะแจกโฉนดที่ดิน จะให้สินเชื่อโดยปลอดภาษีสำหรับการทำมาหากิน ทุกพรรคโดยเฉพาะพรรคใหญ่สองพรรค เข้าข่ายเป็นการให้ และสัญญาว่าจะให้ อันเป็นการหาเสียงโดยกระทำผิดพ.ร.บ. การเลือกตั้งทั้งนั้น

นอกจากจะต้องดำเนินการกับพรรคการเมืองเหล่านี้แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ก็อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกดำเนินการ ให้พิจารณาเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเข้าข่ายเป็นการผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง อันเข้าข่ายกำหนดให้ยุบพรรคเช่นกัน ซึ่งยืนยันว่า จุดยืนของพี่น้องพันธมิตรฯ เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง

**โวยยื่นยุบพท.หวังล้มเลือกตั้ง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ยื่นเรื่องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย ในข้อหาที่พรรคเพื่อไทยติดป้าย "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ประกอบกับการปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี คนถูกตัดสิทธิทางกฎหมายพรรคการเมืองได้ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรค ห้ามจัดตั้ง และจดพรรคการเมือง และห้ามใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่สิทธิความเป็นคนไทยที่มีความคิด เมื่อคิดแล้วก็มีสิทธิเสนอความคิดของตัวเอง แต่เรื่องนโยบายเป็นเรื่องของพรรค และกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน การที่ "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ก็เป็นความคิดของคนๆ หนึ่ง วันนี้เราอย่าไปตัดสิทธิคนที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง กฎหมายไม่ได้ห้าม

วันนี้นายสนธิ จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ก็ยื่นได้ แต่ถ้าไม่ยื่นยุบพรรค ทั้งประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นที่เขาไปพบกันที่บ้านพิษณุโลก หรือที่อื่นๆ หรือนายเนวิน ชิดชอบ กอดคอกับนายอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ พบกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กกต. เคยวินิจฉัยไว้แล้วว่า การกระทำของนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิในลักษณะที่ไม่ขึ้นเวทีปราศัย หรือทำตัวเป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นการยื่นเป็นสิทธิ แต่ไม่อยากให้นายสนธิ ใช้มาตรฐานเดียว แต่ควรยื่นพรรคการเมืองอื่นด้วยจะได้รู้ว่า กกต.จะชี้อย่างไร

"การยื่นครั้งนี้ มีคำถามว่า มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะกระบวนการที่ออกมาหลายอย่างในช่วงนี้ ไม่ว่าเรื่องของการแจกซีดี การปราศรัยที่ราชประสงค์ เป็นสัญญานที่จะไม่มีการเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเองก็ยังเชื่อว่า จะมีการเลือกตั้ง เพราะประชาชนถึงจุดแล้ว ใครจะมาขัดขวางคงไม่ได้" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากได้เป็นรัฐบาล จะมีการแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการยุบพรรคหรือไม่ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มาตรา 237 เรื่องยุบพรรคการเมือง เราก็จะเสนอต่อประชาชนว่าควรจะยกเลิกหรือไม่ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเองบางพรรคก็เห็นด้วย เพราะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ทำให้อำนาจนอกระบบมาแทรกแซง อะไรที่ทำให้บ้านเมืองอ่อนแอ เราก็ควรแก้ไข
กำลังโหลดความคิดเห็น