00 การประกาศกลับไทยของ “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร รอบล่าสุดกับสื่อต่างประเทศเดือนธ.ค. ถือว่าทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเขาอย่างเบ็ดเสร็จ เป็นการประกาศย้ำลงไปให้แน่ชัดอีกที หลังจากก่อนหน้านี้บอกว่าเป็นเดือนพ.ย. แม้ว่ากำหนดการดังกล่าวจะมีการอ้างแบบให้ดูสมเหตุสมผลในเรื่องมางานแต่งงานของลูกสาวก็ตาม แต่อีกด้านหนึ่งก็ย่อมมั่นใจเต็มร้อยแล้วว่า พรรคเพื่อไทยต้องเป็นรัฐบาล ยึดอำนาจรัฐได้แน่นอน เหมือนกับแต่งตัวรอไว้ล่วงหน้า
00 หากพิจารณาจากแบ็กกราวด์ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยขี้โม้ แบบคนขี้ขลาดอย่างเขา การประกาศชัดเจนแบบนี้ ก็ต้องมั่นใจเต็มร้อย ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็ย่อมเป็นการสร้างจิตวิทยาส่งสัญญาณเข้ามาถึงบรรดาข้าราชการ หรือกลุ่มอำนาจที่ยัง “แทงกั๊ก” อยู่ทั้งหลาย ว่าให้รีบเปลี่ยนใจโดยเร็ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปทำนองนั้น
00 ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ ทักษิณ กลับมา “กราบแผ่นดิน” ครั้งแรก หลังจากที่พรรคพลังประชาชน ของเขาชนะเลือกตั้ง จึงกล้าเข้ามาหลังจากหลบหนีคุกตะรางจากคดีทุจริตไปในช่วงแรก หลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ขณะเดียวกัน นี่คือสัญญาณของการกวาดล้าง จัดการกับฝ่ายตรงข้าม รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่คาดว่าเป็นอุปสรรคต่อ “คดีความผิด” ที่กำลังเป็นอยู่มากมาย หากคาดเดาไว้ล่วงหน้าจะต้องมีรายการ “กวาดล้าง” กันอย่างขนานใหญ่ตามมาแน่นอน เพราะเมื่อได้โอกาสก็ต้องเร่งลงมือด้วยความรวดเร็ว ซึ่งนี่คือลักษณะนิสัยจำเพาะของ “เสี่ยแม้ว” เขาละ
00 แต่ปริศนาที่ต้องขบคิดกันต่อไปก็คือ ทำไมต้องเป็นเดือนธ.ค. แม้ว่ามีเหตุผลเรื่องงานแต่งของลูกสาว ก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่ต้องคิดมากไปกว่านั้นก็คือ เดือน ธ.ค.เป็นเดือน “มหามงคล” และปีนี้ก็เป็น“วาระพิเศษ” ที่คนไทยปลื้มปิติ ทำให้มีการจับตากันว่า จะต้องมี “วาระซ่อนเร้น” เพราะเริ่มมีการระแคะระคายออกมาเหมือนกันว่า เขาจะเป็นคนนำ“จุดเทียนชัย” ในวันสำคัญ ส่วนจะเป้าหมายในเชิง “สัญลักษณ์” สื่อไปถึงบรรดาสาวกอย่างไรก็ให้ไปคิดกันเอาเอง แต่คนที่ถูกระบุว่า อยากเป็น “ประธานาธิบดี” ของ “รัฐไทยใหม่” ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน
00 กลายเป็นว่า การออกมาส่งเสียงเข้มของ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อสกัดกั้นขบวนการ “ล้มเจ้า” และผู้ก่อการร้ายไม่ให้ได้รับเลือกตั้งเข้าสภาไม่แรงดังคาด แม้ความหมายที่ต้องการสื่อออกมาก็คือ ขัดขวางพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ ขณะเดียวกันมีคนวิเคราะห์ตามมาอีกว่า นี่คือการผนึกกำลังกับปชป. “สุเทพ-อภิสิทธิ์-เนวิน” เพื่อรักษาอำนาจ รักษาความมั่นคงของตัวเองประกอบกันไปด้วย เพราะถ้าพิจารณากันตามความจริงก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หากเลือกได้ก็ต้องรักษาสถานะอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้คงไว้ต่อไป ดีกว่าจะต้องมาทนอึดอัดอยู่กับ พรรคเพื่อไทย ของ ทักษิณ ชินวัตร แน่นอน
00 ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามามากเท่าใด สารพัดวิชามารก็ถูกงัดขึ้นมาใช้ถล่มฝ่ายตรงกันข้าม แต่ที่น่าสนใจก็คือ ยิ่งนับวันก็ยิ่งมองเห็นแล้วว่ากระแส “โหวตโน” แรงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้ที่บรรดา “สัตว์นรก” นักเลือกตั้งทั้งหลายจะต้องเกิดอาการ “ดิ้นพล่าน” เพราะไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายทักษิณขั้วเพื่อไทย ก็ดิ้นรนออกมาเคลื่อนไหวให้ “โหวตเยส” เพื่อหวังให้ชาวบ้านไปโหวตเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับ ทักษิณ มากที่สุด เนื่องจากมั่นใจว่า ถึงอย่างไรพรรคเพื่อไทยต้องชนะ ขณะที่ฝ่ายปชป. ก็วิตกว่า โหวตโน กระทบตัวเองมากที่สุด และเชื่อว่าหากไม่มีการโหวตโน ก็จะไปโหวตให้ปชป.แน่นอน
00 วิชามารที่ออกมาเวลานี้ เท่าที่ออกมาก็คือ วาทะการข่มขู่ประเภท “ไม่เลือกเราเขา(ทักษิณ) มาแน่” รวมไปถึงความพยายามทำลายพันธมิตรฯ ซึ่งก็ต้องพุ่งไปที่ระดับแกนนำสำคัญอย่าง “สนธิ-จำลอง” เพราะเชื่อว่า ถ้าทำลายเครดิตของสองคนนี้ได้เมื่อไหร่ ขบวนการประชาชนก็จะไม่มีพลัง ส่งผลให้กระแสโหวตโน แผ่วลงทันที
00 คราวนี้เป้าหมายหลักมาตกที่ สนธิ ลิ้มทองกุล เช่นเคย ล่าสุดโหมกระพือปล่อยข่าวว่า “รับเงินแม้ว มาป่วนปชป.” หรือ “สนธิ-แม้ว” จูบปากกันแล้ว อะไรประมาณนั้น แต่ล่าสุดเจอการตอบโต้แบบรวดเร็วทันใจกลับไปกันแบบไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ และท้าพิสูจน์ให้เห็นแบบเข้าใจง่ายว่า หากหน้าไหนก็ตาม “นิรโทษกรรมล้างความผิดให้แม้ว” โดยมิชอบ เขานี่แหละ จะออกมาต่อต้านเป็นคนแรก และจนถึงที่สุด ชัดหรือยังละ “เทือก-มาร์ค” และพลพรรคปชป. ที่ดีแต่พูดทั้งหลาย !!
00 หากพิจารณาจากแบ็กกราวด์ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยขี้โม้ แบบคนขี้ขลาดอย่างเขา การประกาศชัดเจนแบบนี้ ก็ต้องมั่นใจเต็มร้อย ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็ย่อมเป็นการสร้างจิตวิทยาส่งสัญญาณเข้ามาถึงบรรดาข้าราชการ หรือกลุ่มอำนาจที่ยัง “แทงกั๊ก” อยู่ทั้งหลาย ว่าให้รีบเปลี่ยนใจโดยเร็ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปทำนองนั้น
00 ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ ทักษิณ กลับมา “กราบแผ่นดิน” ครั้งแรก หลังจากที่พรรคพลังประชาชน ของเขาชนะเลือกตั้ง จึงกล้าเข้ามาหลังจากหลบหนีคุกตะรางจากคดีทุจริตไปในช่วงแรก หลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ขณะเดียวกัน นี่คือสัญญาณของการกวาดล้าง จัดการกับฝ่ายตรงข้าม รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่คาดว่าเป็นอุปสรรคต่อ “คดีความผิด” ที่กำลังเป็นอยู่มากมาย หากคาดเดาไว้ล่วงหน้าจะต้องมีรายการ “กวาดล้าง” กันอย่างขนานใหญ่ตามมาแน่นอน เพราะเมื่อได้โอกาสก็ต้องเร่งลงมือด้วยความรวดเร็ว ซึ่งนี่คือลักษณะนิสัยจำเพาะของ “เสี่ยแม้ว” เขาละ
00 แต่ปริศนาที่ต้องขบคิดกันต่อไปก็คือ ทำไมต้องเป็นเดือนธ.ค. แม้ว่ามีเหตุผลเรื่องงานแต่งของลูกสาว ก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่ต้องคิดมากไปกว่านั้นก็คือ เดือน ธ.ค.เป็นเดือน “มหามงคล” และปีนี้ก็เป็น“วาระพิเศษ” ที่คนไทยปลื้มปิติ ทำให้มีการจับตากันว่า จะต้องมี “วาระซ่อนเร้น” เพราะเริ่มมีการระแคะระคายออกมาเหมือนกันว่า เขาจะเป็นคนนำ“จุดเทียนชัย” ในวันสำคัญ ส่วนจะเป้าหมายในเชิง “สัญลักษณ์” สื่อไปถึงบรรดาสาวกอย่างไรก็ให้ไปคิดกันเอาเอง แต่คนที่ถูกระบุว่า อยากเป็น “ประธานาธิบดี” ของ “รัฐไทยใหม่” ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน
00 กลายเป็นว่า การออกมาส่งเสียงเข้มของ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อสกัดกั้นขบวนการ “ล้มเจ้า” และผู้ก่อการร้ายไม่ให้ได้รับเลือกตั้งเข้าสภาไม่แรงดังคาด แม้ความหมายที่ต้องการสื่อออกมาก็คือ ขัดขวางพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ ขณะเดียวกันมีคนวิเคราะห์ตามมาอีกว่า นี่คือการผนึกกำลังกับปชป. “สุเทพ-อภิสิทธิ์-เนวิน” เพื่อรักษาอำนาจ รักษาความมั่นคงของตัวเองประกอบกันไปด้วย เพราะถ้าพิจารณากันตามความจริงก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หากเลือกได้ก็ต้องรักษาสถานะอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้คงไว้ต่อไป ดีกว่าจะต้องมาทนอึดอัดอยู่กับ พรรคเพื่อไทย ของ ทักษิณ ชินวัตร แน่นอน
00 ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามามากเท่าใด สารพัดวิชามารก็ถูกงัดขึ้นมาใช้ถล่มฝ่ายตรงกันข้าม แต่ที่น่าสนใจก็คือ ยิ่งนับวันก็ยิ่งมองเห็นแล้วว่ากระแส “โหวตโน” แรงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้ที่บรรดา “สัตว์นรก” นักเลือกตั้งทั้งหลายจะต้องเกิดอาการ “ดิ้นพล่าน” เพราะไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายทักษิณขั้วเพื่อไทย ก็ดิ้นรนออกมาเคลื่อนไหวให้ “โหวตเยส” เพื่อหวังให้ชาวบ้านไปโหวตเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับ ทักษิณ มากที่สุด เนื่องจากมั่นใจว่า ถึงอย่างไรพรรคเพื่อไทยต้องชนะ ขณะที่ฝ่ายปชป. ก็วิตกว่า โหวตโน กระทบตัวเองมากที่สุด และเชื่อว่าหากไม่มีการโหวตโน ก็จะไปโหวตให้ปชป.แน่นอน
00 วิชามารที่ออกมาเวลานี้ เท่าที่ออกมาก็คือ วาทะการข่มขู่ประเภท “ไม่เลือกเราเขา(ทักษิณ) มาแน่” รวมไปถึงความพยายามทำลายพันธมิตรฯ ซึ่งก็ต้องพุ่งไปที่ระดับแกนนำสำคัญอย่าง “สนธิ-จำลอง” เพราะเชื่อว่า ถ้าทำลายเครดิตของสองคนนี้ได้เมื่อไหร่ ขบวนการประชาชนก็จะไม่มีพลัง ส่งผลให้กระแสโหวตโน แผ่วลงทันที
00 คราวนี้เป้าหมายหลักมาตกที่ สนธิ ลิ้มทองกุล เช่นเคย ล่าสุดโหมกระพือปล่อยข่าวว่า “รับเงินแม้ว มาป่วนปชป.” หรือ “สนธิ-แม้ว” จูบปากกันแล้ว อะไรประมาณนั้น แต่ล่าสุดเจอการตอบโต้แบบรวดเร็วทันใจกลับไปกันแบบไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ และท้าพิสูจน์ให้เห็นแบบเข้าใจง่ายว่า หากหน้าไหนก็ตาม “นิรโทษกรรมล้างความผิดให้แม้ว” โดยมิชอบ เขานี่แหละ จะออกมาต่อต้านเป็นคนแรก และจนถึงที่สุด ชัดหรือยังละ “เทือก-มาร์ค” และพลพรรคปชป. ที่ดีแต่พูดทั้งหลาย !!