วานนี้(15 มิ.ย.)ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ให้สัมภาษณ์ถึงมติของที่ประชุมกกต.ที่ยังไม่ตัดสิทธิ์ (ใบแดง) ผู้สมัคร ส.ส.ใน จ.ศรีสะเกษ ว่า มติ 4 ต่อ 1 เห็นว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ พร้อมกับให้กลับไปสอบและหาหลักฐานเพิ่มเติมภายใน 7 วัน โดยเหตุผลที่ต้องสอบเพิ่มเติม นื่องจากต้องสอบพยานซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่าย ให้ครบถ้วนเสียก่อนจึงจะเข้าที่ประชุมอีกครั้ง
ส่วนที่ว่าหลักฐานไม่เพียงพอทำไมทางกกต.จังหวัดจึงส่งมา นายอภิชาตกล่าวว่า เรื่องที่ส่งเข้ามาเป็นการทำงานของศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้ง ส.ส. (ศอส.) ของจ.ศรีสะเกษ เมื่อมีหลักฐานก็ส่งเข้าเป็นเรื่องปกติ ของการทำงานที่ครั้งนี้ กกต.ประกาศชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องการทุจริตเลือกตั้ง หากมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่ากระทำผิด ก็ต้องส่งเรื่องมาให้กกต.พิจารณา
ทั้งนี้หากกกต.ให้ใบแดงก่อนวันเลือกตั้งจะเป็นข้อร้องเรียนว่าถูกกลั่นแกล้งได้หรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีกระทำผิดจริงก็สามารถให้ใบแดงได้ เพราะยังอยู่ในช่วงอำนาจของกกต.ที่กฎหมายกำหนด และอำนาจของกกต.นี้ก็จะยังคงมีอีก 30วันหลังการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามตอนนี้มีเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งมีเข้ามาที่กกต.อีก 1 เรื่อง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นผู้สมัครของพรรคการเมืองใด หรือเป็นจังหวัดใด บอกได้เพียงเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งมาเท่านั้น
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจกการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ความเห็นของตนนั้นขอสงวนไว้ก่อนยังไม่อยากพูดโดยไม่จำเป็น เพราะทุกอย่างต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนก่อน ซึ่งการพิจารณาก็ต้องดูตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ และนำมาดูในข้อกฎหมายมาประกอบการวินิจฉัย
“ กกต.จะพิจารณาโดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดจริง ส่วนตนเคารพการวินิจฉัยของกกต.ทุกคน เพราะมีประสบการณ์ฉะน้นจึงไม่ขอก้าวล่วงในการใช้ดุลยพินิจของผู้อื่นโดยเฉพาะเรื่องดังกล่าวนี้มีหลักฐานเยอะ จึงจำเป็นต้องดุลยพินิจพิจารณาทุกเรื่องด้วยตามข้อเท็จจริง” นายวิสุทธิ์ กล่าวและว่า ทั้งนี้หลักฐานมีแต่ยังไม่รู้ว่ามติออกมาเป็นอย่างไร การที่จะให้ใบแดงก็ต้องมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง
ส่วนที่ว่าการที่กกต.แจกใบแดงยังไม่ได้นั้นเป็นเพราะเรื่องเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ นายวิสุทธิ กล่าวว่า การให้ใบแดงกับผู้สมัครที่กระทำการทุจริตจะก่อนหรือหลักการเลือกตั้งกกต.พิจารณาไปตามหลักฐานที่ปรากฎไม่มีการนำประเด็นการเมืองมาเกี่ยวข้องและกกต.พิจารณาโดยไม่เข้าข้างพรรคการเมืองใด กกต.เป็นมิตรกับทุกคน ยืนยันว่าพิจารณาไปตามหลักฐานที่ปรากฎ ปฏิบัติงานไปตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อถามย้ำว่ากรณีดังกล่าวมีความพยายามที่จะให้กกต.ถ่วงเวลาถ้าจะแจกก็ขอให้ไปแจกหลังวันเลือกตั้ง เพราะจะทำให้คะแนนเสียงของพรรคเสียไปนายวิสุทธิ กล่าวว่า ตนไม่อาจทราบได้การทำหน้าที่ของกกต.ทำอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่ระดับพนักงานจึงถึงกกต. ทำกันอย่างเอาจริงเอาจัง 2 ปีทีผ่านมาตนก็ทำอย่างนี้มาโดยตลอด
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวมีเมื่อเจ้หน้าที่ดำเนินการสืบสวนแล้ว มีการเสนอเงินให้ ไม่เอาก็ถูกข่มขู่ ได้มีการพิจารณาด้วยหรือไม่ นายวิสุทธิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการนำเสนอในที่ประชุมกกต.ด้วยหรือไม่ หากมีการข่มขู่ก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ขอให้เจ้าหน้าที่อย่าอ่อนไหวควรทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมาเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากมีการกระทำเช่นนั้นเป็นคดีอาญาต้องดำเนินคดีจะมาใช้อิทธิพลข่มขู่ไม่ได้
“ การข่มขู่นอกจากจะเป็นคดีอาญาแล้วยังผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วย ใครทำอะไรไม่ถูกต้องต้องแจ้งความดำเนินคดี ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะขู่เข็นกันไม่ได้ ต้องตั้งมั่นในความตรงไปตรงมา ซึ่งผมก็ไม่รู้จริงๆว่าเมื่อวานได้มีการพูดเรื่องนี้ขึ้นมาหรือไม่ เพราะฟังไม่ทันเรื่องมันเยอะ ” นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามอีกว่า กกต.จะสามารถแจกใบแดงก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาที่เนื้อหา การให้ใบเหลือง ใบแดงไม่สามารถตัดสินล่วงหน้าได้ต้องพิจารณาว่ากรณีเหล่านั้นเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรคนำป้ายที่มีข้อเนื้อหาในเรื่องของรัฐบาลแห่งชาตินั้น ตนยังไม่เห็นเรื่องร้องเรียนเข้ามาหากมีคนร้องเราต้องมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง
ที่กกต. จังหวัดสุรินทร์ ได้ทำเรื่องฟ้องต่ออัยการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้ถอดถอนสิทธิ์การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้ง ที่ 5 จังหวัดสุรินทร์ ของ พรรคความหวังใหม่ เพราะกระทำผิดกฎหมายของ กกต.ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม เขต 3 จังหวัดสุรินทร์
ขณะที่ กกต.กลาง ได้จัดโครงการอบรมความรู้แก่สื่อบุคคลกลุ่มผู้ขับรถยนต์รับจ้างสาธารณะ หรือแท็กซี่ กว่า 300 คน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งแก่กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ที่สามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า แท็กซี่มีส่วนสำคัญ เพราะไปทุกหนทุกแห่ง และมีผู้โดยสารทุกชั้นวรรณะ จึงขอให้มาช่วยร่วมกันรณรงค์การเลือกตั้ง ส่วนคนขับแท็กซี่จะชอบใครหรือไม่ก็ขอให้อยู่ในและสำหรับผู้โดยสารจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
วันเดียวกัน นายอภิชาต เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถแท็กซี่ ในการรณรงค์การเลือกตั้ง จำนวนกว่า 300คัน ที่ กกต.ร่วมมือกับสวพ.91 จัดขึ้น
ส่วนที่ว่าหลักฐานไม่เพียงพอทำไมทางกกต.จังหวัดจึงส่งมา นายอภิชาตกล่าวว่า เรื่องที่ส่งเข้ามาเป็นการทำงานของศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้ง ส.ส. (ศอส.) ของจ.ศรีสะเกษ เมื่อมีหลักฐานก็ส่งเข้าเป็นเรื่องปกติ ของการทำงานที่ครั้งนี้ กกต.ประกาศชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องการทุจริตเลือกตั้ง หากมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่ากระทำผิด ก็ต้องส่งเรื่องมาให้กกต.พิจารณา
ทั้งนี้หากกกต.ให้ใบแดงก่อนวันเลือกตั้งจะเป็นข้อร้องเรียนว่าถูกกลั่นแกล้งได้หรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีกระทำผิดจริงก็สามารถให้ใบแดงได้ เพราะยังอยู่ในช่วงอำนาจของกกต.ที่กฎหมายกำหนด และอำนาจของกกต.นี้ก็จะยังคงมีอีก 30วันหลังการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามตอนนี้มีเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งมีเข้ามาที่กกต.อีก 1 เรื่อง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นผู้สมัครของพรรคการเมืองใด หรือเป็นจังหวัดใด บอกได้เพียงเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งมาเท่านั้น
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจกการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ความเห็นของตนนั้นขอสงวนไว้ก่อนยังไม่อยากพูดโดยไม่จำเป็น เพราะทุกอย่างต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนก่อน ซึ่งการพิจารณาก็ต้องดูตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ และนำมาดูในข้อกฎหมายมาประกอบการวินิจฉัย
“ กกต.จะพิจารณาโดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดจริง ส่วนตนเคารพการวินิจฉัยของกกต.ทุกคน เพราะมีประสบการณ์ฉะน้นจึงไม่ขอก้าวล่วงในการใช้ดุลยพินิจของผู้อื่นโดยเฉพาะเรื่องดังกล่าวนี้มีหลักฐานเยอะ จึงจำเป็นต้องดุลยพินิจพิจารณาทุกเรื่องด้วยตามข้อเท็จจริง” นายวิสุทธิ์ กล่าวและว่า ทั้งนี้หลักฐานมีแต่ยังไม่รู้ว่ามติออกมาเป็นอย่างไร การที่จะให้ใบแดงก็ต้องมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง
ส่วนที่ว่าการที่กกต.แจกใบแดงยังไม่ได้นั้นเป็นเพราะเรื่องเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ นายวิสุทธิ กล่าวว่า การให้ใบแดงกับผู้สมัครที่กระทำการทุจริตจะก่อนหรือหลักการเลือกตั้งกกต.พิจารณาไปตามหลักฐานที่ปรากฎไม่มีการนำประเด็นการเมืองมาเกี่ยวข้องและกกต.พิจารณาโดยไม่เข้าข้างพรรคการเมืองใด กกต.เป็นมิตรกับทุกคน ยืนยันว่าพิจารณาไปตามหลักฐานที่ปรากฎ ปฏิบัติงานไปตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อถามย้ำว่ากรณีดังกล่าวมีความพยายามที่จะให้กกต.ถ่วงเวลาถ้าจะแจกก็ขอให้ไปแจกหลังวันเลือกตั้ง เพราะจะทำให้คะแนนเสียงของพรรคเสียไปนายวิสุทธิ กล่าวว่า ตนไม่อาจทราบได้การทำหน้าที่ของกกต.ทำอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่ระดับพนักงานจึงถึงกกต. ทำกันอย่างเอาจริงเอาจัง 2 ปีทีผ่านมาตนก็ทำอย่างนี้มาโดยตลอด
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวมีเมื่อเจ้หน้าที่ดำเนินการสืบสวนแล้ว มีการเสนอเงินให้ ไม่เอาก็ถูกข่มขู่ ได้มีการพิจารณาด้วยหรือไม่ นายวิสุทธิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการนำเสนอในที่ประชุมกกต.ด้วยหรือไม่ หากมีการข่มขู่ก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ขอให้เจ้าหน้าที่อย่าอ่อนไหวควรทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมาเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากมีการกระทำเช่นนั้นเป็นคดีอาญาต้องดำเนินคดีจะมาใช้อิทธิพลข่มขู่ไม่ได้
“ การข่มขู่นอกจากจะเป็นคดีอาญาแล้วยังผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วย ใครทำอะไรไม่ถูกต้องต้องแจ้งความดำเนินคดี ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะขู่เข็นกันไม่ได้ ต้องตั้งมั่นในความตรงไปตรงมา ซึ่งผมก็ไม่รู้จริงๆว่าเมื่อวานได้มีการพูดเรื่องนี้ขึ้นมาหรือไม่ เพราะฟังไม่ทันเรื่องมันเยอะ ” นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามอีกว่า กกต.จะสามารถแจกใบแดงก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาที่เนื้อหา การให้ใบเหลือง ใบแดงไม่สามารถตัดสินล่วงหน้าได้ต้องพิจารณาว่ากรณีเหล่านั้นเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรคนำป้ายที่มีข้อเนื้อหาในเรื่องของรัฐบาลแห่งชาตินั้น ตนยังไม่เห็นเรื่องร้องเรียนเข้ามาหากมีคนร้องเราต้องมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง
ที่กกต. จังหวัดสุรินทร์ ได้ทำเรื่องฟ้องต่ออัยการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้ถอดถอนสิทธิ์การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้ง ที่ 5 จังหวัดสุรินทร์ ของ พรรคความหวังใหม่ เพราะกระทำผิดกฎหมายของ กกต.ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม เขต 3 จังหวัดสุรินทร์
ขณะที่ กกต.กลาง ได้จัดโครงการอบรมความรู้แก่สื่อบุคคลกลุ่มผู้ขับรถยนต์รับจ้างสาธารณะ หรือแท็กซี่ กว่า 300 คน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งแก่กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ที่สามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า แท็กซี่มีส่วนสำคัญ เพราะไปทุกหนทุกแห่ง และมีผู้โดยสารทุกชั้นวรรณะ จึงขอให้มาช่วยร่วมกันรณรงค์การเลือกตั้ง ส่วนคนขับแท็กซี่จะชอบใครหรือไม่ก็ขอให้อยู่ในและสำหรับผู้โดยสารจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
วันเดียวกัน นายอภิชาต เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถแท็กซี่ ในการรณรงค์การเลือกตั้ง จำนวนกว่า 300คัน ที่ กกต.ร่วมมือกับสวพ.91 จัดขึ้น
