“วิสุทธิ์” อ้างไม่รู้ผลลงมติใบแดงผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ บอกเป็นการลงคะแนนลับ จะรู้ผลโหวตวันนี้ ปัดแสดงความเห็น ยันการพิจารณาต้องดูหลักฐานและข้อเท็จจริง อ้างมีเรื่องเสนอเยอะประชุมจนมึนไม่รู้มีรายงานเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนถูกขู่หรือไม่ แต่หากมีจริงก็ต้องแจ้งความดำเนินคดี ด้าน “สุรพงษ์” โวยรถถูกกรีด เขียนข้อความ “ควาย” เชื่อเป็นพวกไม่ชอบเพื่อไทย
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจกการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงการพิจารณาใบแดงของผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ ว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) กกต.ได้ประชุมกันทั้งวันจนค่ำตนจึงยังไม่ทราบว่ามติเป็นอย่างไร เพราะเป็นการลงคะแนโดยลับ และจะทราบมติก็ต่อเมื่อมีการขานคะแนนซึ่งจะมีการขานกันในที่ประชุมวันนี้ ส่วนความเห็นของตนขอสงวนไว้ก่อนยังไม่อยากพูดโดยไม่จำเป็น เพราะทุกอย่างต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนก่อน ซึ่งการพิจารณาก็ต้องดูตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ และนำมาดูในข้อกฎหมายมาประกอบการวินิจฉัย
“กกต.จะพิจารณาโดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดจริง ส่วนผมเคารพการวินิจฉัยของ กกต.ทุกคน เพราะมีประสบการณ์ฉะนั้นจึงไม่ขอก้าวล่วงในการใช้ดุลยพินิจของผู้อื่น และในการประชุมวานนี้ก็มีเรื่องให้พิจารณาจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องดังกล่าวนี้มีหลักฐานเยอะ จึงจำเป็นต้องดุลพินิจพิจารณาทุกเรื่องด้วยตามข้อเท็จจริง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเสนอให้ใบแดงผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอจึงต้องให้สอบเพิ่มในส่วนใด นายวิสุทธิ์กล่าวว่า หลักฐานมีแต่ยังไม่รู้ว่ามติออกมาเป็นอย่างไร และกกต.ก็ไมีการพิจารณากัน 5 คน การที่จะให้ใบแดงก็ต้องมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง ส่วนการทำงานร่วมกับ กกต.ที่เป็นผู้พิพากษานั้นจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนกว่ามาตรฐาน กกต.หรือไม่นั้น เท่าที่ทำงานร่วมกับ กกต.คนอื่นมาเป็นระยะเวลา 2 ปีไม่เคยมีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจาก กกต.ทุกคนเคารพความคิดเห็นของกันและกัน รวมทั้งเมื่อมีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรก็นำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
ส่วนที่ กกต.แจกใบแดงยังไม่ได้เป็นเพราะเรื่องเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า การให้ใบแดงต่อผู้สมัครที่กระทำการทุจริต จะก่อนหรือหลักการเลือกตั้ง กกต.พิจารณาไปตามหลักฐานที่ปรากฏ ไม่มีการนำประเด็นการเมืองมาเกี่ยวข้อง และ กกต.พิจารณาโดยไม่เข้าข้างพรรคการเมืองใด กกต.เป็นมิตรกับทุกคน ยืนยันว่าพิจารณาไปตามหลักฐานที่ปรากฏ ปฏิบัติงานไปตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความพยายามที่จะให้ กกต.ถ่วงเวลาให้แจกใบแดงหลังวันเลือกตั้งเพราะจะทำให้คะแนนเสียงของพรรคเสียไปหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตนไม่อาจทราบได้ การทำหน้าที่ของ กกต.ทำอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่ระดับพนักงานจนถึง กกต. ทำกันอย่างเอาจริงเอาจัง 2 ปีทีผ่านมาก็ทำอย่างนี้มาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีดังกล่าวเมื่อเจ้่าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนแล้ว มีการเสนอเงินให้ ไม่เอาก็ถูกข่มขู่ ได้มีการพิจารณาด้วยหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการนำเสนอในที่ประชุม กกต.ด้วยหรือไม่ หากมีการข่มขู่ก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ขอให้เจ้าหน้าที่อย่าอ่อนไหว ควรทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมาเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากมีการกระทำเช่นนั้นเป็นคดีอาญาต้องดำเนินคดี จะมาใช้อิทธิพลข่มขู่ไม่ได้
“การข่มขู่ นอกจากจะเป็นคดีอาญาแล้วยังผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วย ใครทำอะไรไม่ถูกต้องต้องแจ้งความดำเนินคดี ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะขู่เข็ญกันไม่ได้ ต้องตั้งมั่นในความตรงไปตรงมา ซึ่งผมก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อวานได้มีการพูดเรื่องนี้ขึ้นมาหรือไม่ เพราะฟังไม่ทันเรื่องมันเยอะ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.จะสามารถแจกใบแดงก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ต้องพิจารณาที่เนื้อหา การให้ใบเหลือง ใบแดงไม่สามารถตัดสินล่วงหน้าได้ต้องพิจารณาว่ากรณีเหล่านั้นเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรคนำป้่ายที่มีเนื้อหาในเรื่องของรัฐบาลแห่งชาตินั้น ตนยังไม่เห็นเรื่องร้องเรียนเข้ามาหากมีคนร้องเราต้องมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ศ 3325 กรุงเทพมหานคร ถูกกรีดเขียนคำว่า “ควาย” ไว้ข้างรถ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการใช้กุญแจกรีด เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่บริเวณลานจอดรถวิลล่ามาร์เก็ต หลังจากการลงพื้นที่หาเสียงที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ทั้งนี้ ตนได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวถูกลักขโมยไป 2 วันก่อนหน้าวันเกิดเหตุ ทำให้ไม่สามารถตรวจดูภาพคนร้ายได้ ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มคนที่ไม่ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายสุรพงษ์สวมเสื้อแจ็กเกตที่มีสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยลงไปรับประทานอาหาร
