วานนี้ (15 มิ.ย.)นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระงับคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่จะย้ายนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ หลังจากได้รับตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองกลับมา ตามมติของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ว่า กมธ.เห็นว่า การจะย้ายนายวงศ์ศักดิ์ไปเป็นผู้ว่าฯลำพูนอีกทอดหนึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง ข้าราชการใหม่ๆ หรือประชาชนทั่วไปก็วินิจฉัยความเหมาะสมได้ ทั้งนี้ การจะย้ายให้ไปเป็นผู้ว่าฯ ที่ต้องทำงานต่อเนื่อง ทั้งที่นายวงศ์ศักดิ์ เหลืออายุราชการอีกเพียง 3 เดือน ไม่รู้ว่าผู้บังคับบัญชาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายราชการหรือฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เอาสมองส่วนไหนคิด และเขาก็ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งเดิม เพราะเห็นว่า ตนเองไม่สมควรที่จะถูกย้าย ซึ่ง ก.พ.ค. ก็ให้ความเป็นธรรมแล้ว
ถือเป็นการยื้อชัดเจน หากผู้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายราชการหรือฝ่ายการเมืองยังเดินหน้าจะทำให้ได้ถือว่าไม่มีคุณธรรม ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่ง ถ้าไปยื้อเขาอีก เขาก็ร้อง ก.พ.ค.อีก อีก 3 เดือนจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองก็จะเกษียณ ก็คงไม่สามารถให้คุณให้โทษอะไรได้ ดังนั้น ต้องให้ศักดิ์ศรีความเป็นคนและข้าราชการกับเขา ไม่ใช่มีอำนาจแล้วทำตามอำเภอใจ ดังนั้น วันที่ 21 มิถุนายน กมธ.จะเชิญปลัด มท.มาชี้แจง
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ถือว่าเป็นกรณีแรกที่กกต.พิจารณา เนื่องจากในการเลือกตั้งปี 50 ไม่มีเรื่องการโยกย้ายในลักษณะดังกล่าว โดยทั้งนี้จะต้องยึดตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 50 ในมาตรา 181 (1) ในช่วงที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง หากครม.มีมติโยกย้ายข้าราชการก็จะต้องขอความเห็นชอบจากกกต.ก่อน โดยความเห็นชอบของกกต.ไม่ได้เป็นเพียงตรายางที่ประทับเพื่อเป็นพิธีเท่านั้น แต่จะต้องดูว่าเหมาะสมถูกต้องหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวทราบว่ามีบุคคล 2 คนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกกต.จะพิจารณาให้รวดเร็วที่สุด แต่หากครม.หรือมหาดไทยไม่ส่งเรื่องเข้ามา ก็ต้องเป็นเรื่องของผู้ที่ได้รับผลกระทบที่จะไปร้องต่อศาลปกครอง และผู้ถูกร้องจะมีแค่ครม.และกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น ไม่สามารถร้องกกต.ได้ เพราะว่าเป็นเพียงผู้พิจารณาเห็นชอบเท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า ขณะนี้ข้าราชมหาดไทยกำลังจับตาอยู่ว่าพรรคการเมืองไหนจะได้เข้ามาบริหารกระทรวงมหาดไทย ภายหลังพรรคภูมิใจไทยโดยเฉพาะข้าราชการสายสิงห์แดง รัฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ สถาบันเดียวกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรมว.มหาดไทย ซึ่งต้องการให้ฝ่ายการเมืองพรรคภูมิใจไทยกลับมาคุมกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง เพราะหากมีการเปลี่ยนขั้วเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทยบรรดาข้าราชเหล่านี้จะโดนโยกย้ายแน่นอน โดยเฉพาะขณะนี้ก็ถูก เพ่งเล็งถึงการวางตัว ข้าราชการทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแล้ว.
ถือเป็นการยื้อชัดเจน หากผู้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายราชการหรือฝ่ายการเมืองยังเดินหน้าจะทำให้ได้ถือว่าไม่มีคุณธรรม ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่ง ถ้าไปยื้อเขาอีก เขาก็ร้อง ก.พ.ค.อีก อีก 3 เดือนจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองก็จะเกษียณ ก็คงไม่สามารถให้คุณให้โทษอะไรได้ ดังนั้น ต้องให้ศักดิ์ศรีความเป็นคนและข้าราชการกับเขา ไม่ใช่มีอำนาจแล้วทำตามอำเภอใจ ดังนั้น วันที่ 21 มิถุนายน กมธ.จะเชิญปลัด มท.มาชี้แจง
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ถือว่าเป็นกรณีแรกที่กกต.พิจารณา เนื่องจากในการเลือกตั้งปี 50 ไม่มีเรื่องการโยกย้ายในลักษณะดังกล่าว โดยทั้งนี้จะต้องยึดตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 50 ในมาตรา 181 (1) ในช่วงที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง หากครม.มีมติโยกย้ายข้าราชการก็จะต้องขอความเห็นชอบจากกกต.ก่อน โดยความเห็นชอบของกกต.ไม่ได้เป็นเพียงตรายางที่ประทับเพื่อเป็นพิธีเท่านั้น แต่จะต้องดูว่าเหมาะสมถูกต้องหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวทราบว่ามีบุคคล 2 คนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกกต.จะพิจารณาให้รวดเร็วที่สุด แต่หากครม.หรือมหาดไทยไม่ส่งเรื่องเข้ามา ก็ต้องเป็นเรื่องของผู้ที่ได้รับผลกระทบที่จะไปร้องต่อศาลปกครอง และผู้ถูกร้องจะมีแค่ครม.และกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น ไม่สามารถร้องกกต.ได้ เพราะว่าเป็นเพียงผู้พิจารณาเห็นชอบเท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า ขณะนี้ข้าราชมหาดไทยกำลังจับตาอยู่ว่าพรรคการเมืองไหนจะได้เข้ามาบริหารกระทรวงมหาดไทย ภายหลังพรรคภูมิใจไทยโดยเฉพาะข้าราชการสายสิงห์แดง รัฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ สถาบันเดียวกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรมว.มหาดไทย ซึ่งต้องการให้ฝ่ายการเมืองพรรคภูมิใจไทยกลับมาคุมกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง เพราะหากมีการเปลี่ยนขั้วเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทยบรรดาข้าราชเหล่านี้จะโดนโยกย้ายแน่นอน โดยเฉพาะขณะนี้ก็ถูก เพ่งเล็งถึงการวางตัว ข้าราชการทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแล้ว.