คืนเก้าอี้อธิบดีปกครอง “ปู่จิ้น” จะยอมหรือยื้อต่อไป?

ต้องดูกันในอีก 2 วันต่อจากนี้ คือวันที่ 9 และ 10 มิถุนายน 2554 ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะเอาอย่างไรกับเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครองของวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พานิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 7 มิถุนายน โดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้ย้ำให้กระทรวงมหาดไทยคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์ภายในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ เหตุที่ต้องเป็นวันที่ 10 มิ.ย.ก็เพราะครบ 90 วันหลังจากคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) มีความเห็นให้กระทรวงมหาดไทยคืนเก้าอี้ให้วงศ์ศักดิ์

ก่อนหน้านี้ วิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ส่งเรื่องการคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์มาได้อาทิตย์กว่าแล้วแต่ชวรัตน์ก็ไม่ได้นำเรื่องนี้ชงเข้าที่ประชุมครม.ทั้งเมื่อ 31 พ.ค.และ 7 มิ.ย.54 ที่ชวรัตน์ไม่ได้เข้าประชุมครม.

ส่วนความเป็นไปได้ในการที่ชวรัตน์จะเซ็นคืนตำแหน่งให้เลยโดยไม่จำเป็นต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.นั้น ประเมินแล้วชวรัตน์คงขอปรึกษาฝ่ายกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองให้รอบคอบก่อนว่าทำได้หรือไม่ เพราะแม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ผลพวงมันจะเกิดเป็นลูกโซ่ตามติดกันไปเรื่อยๆ เหตุเพราะหากคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์เลยภายใน 10 มิ.ย.นี้ หรือแม้แต่ชงเรื่องเข้าที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้าซึ่งกรอบและเงื่อนไขกฎหมายก็ยังทำได้ เพราะแม้เลย 90 วันแล้วแต่หากมาคืนตำแหน่งให้ภายหลังแล้วเจ้าตัวคือวงศ์ศักดิ์ไม่ติดใจเอาความ ไม่ได้ยื่นฟ้องอะไร การคืนตำแหน่งให้ล่าช้าแม้จะเลย 90 วันไปเป็น 10 มิ.ย.ไปแล้วก็ไม่มีผลใดๆ

แต่ปัญหาสำคัญ หากคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์ แล้วจะเอา มงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครองคนปัจจุบันไปอยู่ที่ไหน

จะให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยแทนวงศ์ศักดิ์ หรือจะไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย คำตอบก็ยังไม่ชัด

ดูแล้ว มงคล แม้จะเป็นสายตรงภูมิใจไทย-ค่ายเนวิน ชิดชอบ แต่เรื่องแบบนี้คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เจ้าตัวต้องสู้แน่และวิธีการก็คงไม่พ้นการฟ้องแก้เกี้ยวกับศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองคำสั่งดังกล่าวชั่วคราว เพื่อจะทำให้การเข้าสู่ตำแหน่งของวงศ์ศักดิ์ล่าช้าออกไปอีก

ขณะเดียวกัน หากชวรัตน์ใช้วิธีดื้อแพ่ง-ยื้อต่อไป โดยไม่ยอมทำการใดๆ ในการคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์ภายในวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย.นี้ โดยอาจอ้างได้หลายแบบ

เช่นตอนนี้วงศ์ศักดิ์ก็มีการฟ้องร้องตนเองอยู่ที่ศาลหลายแห่งทั้งศาลปกครอง-ศาลอาญารวมถึง ป.ป.ช. ก็อยากให้คดีดำเนินไปก่อน จึงไม่สนใจคำสั่งของอภิสิทธิ์ที่ให้คืนตำแหน่งให้ภายใน 10 มิ.ย.นี้

หากชวรัตน์เลือกทำแบบนี้ เท่ากับว่าการที่ ครม.ยืนกรานให้กระทรวงมหาดไทยต้องคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์ไม่มีความหมายๆ ใด

และย่อมไม่เป็นผลดีต่อตัวรัฐบาลอภิสิทธิ์ และตัวนายชวรัตน์เองด้วย เพราะเท่ากับนายกรัฐมนตรี-รมว.มหาดไทย ไม่เคารพความเห็นของ ครม.ที่ถือเป็นข้อปฏิบัติของฝ่ายบริหาร

ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก กับการเอาตำแหน่งของวงศ์ศักดิ์มาทำให้ตัว รมว.มหาดไทย กลายเป็นบุคคลที่ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมและท่าทีและคำยืนยันของ ครม.ที่ให้มหาดไทยเคลียร์เรื่องนี้

อันจะยิ่งทำให้การฟ้องร้อง รมว.มหาดไทยของวงศ์ศักดิ์มีความชอบธรรมมากขึ้น

แต่หากชวรัตน์ยอมด้วยการประกาศจะคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์ เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด ก็มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน เพราะประเมินแล้วว่า หากจะยื้อต่อไปคงไม่ได้แล้ว

ขืนถ่วงเรื่องต่อไป ตัวชวรัตน์และพรรคภูมิใจไทยเสียแน่ อภิสิทธิ์ก็เสียด้วย เพราะหากภายใน 10 มิ.ย.นี้ไม่ได้ข้อยุติ อภิสิทธิ์ก็จะเสียหน้า เป็นคนไม่มีราคาที่บังคับใช้กฎหมายไม่ได้กับแค่เรื่องปัญหาตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่อภิสิทธิ์และ ครม.หารือเรื่องนี้ในที่ประชุมครม.ในวันที่ทั้ง ชวรัตน์ และบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยลาประชุม ครม.เพื่อติดภารกิจการหาเสียงเลือกตั้งและภารกิจส่วนตัว จนครม.เห็นด้วยกับการที่จะให้มหาดไทยคืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์

ทุกอย่างน่าจะมีการคุยกันมาหมดแล้ว ระหว่างอภิสิทธิ์กับ เนวิน ชิดชอบและชวรัตน์ว่าจะให้ทุกอย่างออกมาแบบนี้

ด้วยประเมินแล้วว่า หากยื้อต่อไปอาจไม่เป็นผลดี อีกทั้งวงศ์ศักดิ์ก็ประกาศก่อนหน้านี้ว่า หากได้รับตำแหน่งคืนก็จะยุติเรื่องที่มีการฟ้องร้องกันไว้ทั้งที่ศาลปกครอง-ศาลอาญารวมถึง ป.ป.ช.

เรื่องนี้จะจบอย่างไร จบแบบไหน สองวันนี้ได้รู้กัน