ASTVผู้จัดการรายวัน- เบอร์ลี่ยุคเกอร์ลุยตลาดอินโดจีนเต็มสูบ เตรียมรองรับAECในอนาคต ล่าสุดจับมือ บอล คอร์เปอร์เรชั่น เท 1,800 ล้านบาท ผุดโรงงานผลิตกระป๋องในเวียดนาม แย้มปลายปีเทอีก 100 ล้านบาท ผุดโรงงานทิชชู พร้อมขยายตลาดต่อเนื่อง วางเป็นโมเดลหลักสู่เขมรและลาวในลำดับต่อไป มั่นใจสิ้นปีรายได้รวมทะลุ 28,000 ล้านบาท เติบโต 15%
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (BJC) และกรรมการบริหาร บริษัท ไทย เบเวอร์เรจ แคน จำกัด (TBC) เปิดเผยว่า ในช่วง2-3ปีนี้ ทางบีเจซีจะมุ่งเน้นสร้างตลาดในอินโดจีนเป็นหลัก พร้อมรองรับAEC ที่จะกำลังจะเกิดขึ้น ภายใต้โมเดลธุกิจ ในรูปแบบของการเข้าไปเปิดตลาดก่อน หากไปได้ดีจะมีการลงทุนตั้งฐานการผลิต
และพร้ออมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าต่อไป เริ่มจากเวียดนามเป็นอันดับแรก และจะเข้าไปบุกตลาดในเขมร พี่มาข่าวเดียว และลาว เป็นลำดับต่อไป
สำหรับเวียดนามถือเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมในการลงทุนมากที่สุด สังเกตจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนืิ่อง ล่าสุดในนาม TBC ในเครือบีเจซี ได้จับมือกับทาง บริษัท บอล คอร์เปอร์เรชั่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในชื่อ บริษัท ทีบีซี บอล เบเวอร์เรจ เวียดนาม จำกัด ทุนจดทะเบียน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งโรงงานผลิตกระป๋องที่จังหวัด บินดง
ประเทศเวียดนามขึ้นมา พื้นที่กว่า 80,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงไตรมาสสองปีหน้าเป็นต้นไป
โดยกำลังการผลิตในเฟสแรกหรือในช่วง 4ปีแรกจะอยู่ที่ 850 ล้านกระป๋องต่อปี ซึ่งในปีแรกนี้ เชื่อว่าจะสามารถผลิตได้ 400 ล้านกระป๋อง เน้นตลาดในเวียดนามเป็นหลัก ป้อนให้กับลูกค้าหลักของทางบริษัทที่เข้าไปทำตลาดและมีฐานการผลิตที่เวียดนาม และในเฟสสองจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับตลาดAECต่อไป โดยวางสัดส่วนกำลังการผลิตไว้ที่ 80% รองรับตลาดฝนประเทศ และ20% ส่งออก
ทั้งนี้ตลาดผลิตกระป๋องในเวียดนาม ปัจจุบันมีความต้องการต่อปีที่ 4,000 ล้านกระป๋องต่อปี โดยผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งทางการตลาดราว 50% ซึ่งการที่เราเข้าไปทำตลาดครั้งนี้ มั่นใจว่าภายใน 3ปี จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับท็อป3ได้ ขณะที่ไทยมีความต้องการราว 2,000 ล้านกระป๋อง ทีบีซี เป็นผู้นำตลาด ด้วยยอดขายต่อปีไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านกระป๋อง เป็นส่งออก 300 ล้านกระป๋อง
และที่เหลือจำหน่ายในประเทศ
นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ลงทุนอีกประมาณ 100 ล้านบาท ในการจัดตั้งโรงงานผลิตกระดาษทิชชู ที่เวียดนาม อีก 1แห่งด้วย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงปลายปีนี้ ขณะเดียวกันยังพร้อมเดินหน้าต่อเนื่องในการนำผลิตภัณฑ์ต่างๆเข้าไปทำตลาด จากปัจจุบันทำตลาดให้แก่ มาม่า นมตราหมี และนมคาร์เนชั่น เป็นต้น
นายอัศวิน กล่าวต่อว่า รายได้ของทีบีซี คิดเป็น 10% ของรายได้รวมบีเจซีเท่านั้น ขณะที่รายได้รวมของบีเจซีสิ้นปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตขึ้นอีก 15% หรือกว่า 28,000 ล้านบาท
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (BJC) และกรรมการบริหาร บริษัท ไทย เบเวอร์เรจ แคน จำกัด (TBC) เปิดเผยว่า ในช่วง2-3ปีนี้ ทางบีเจซีจะมุ่งเน้นสร้างตลาดในอินโดจีนเป็นหลัก พร้อมรองรับAEC ที่จะกำลังจะเกิดขึ้น ภายใต้โมเดลธุกิจ ในรูปแบบของการเข้าไปเปิดตลาดก่อน หากไปได้ดีจะมีการลงทุนตั้งฐานการผลิต
และพร้ออมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าต่อไป เริ่มจากเวียดนามเป็นอันดับแรก และจะเข้าไปบุกตลาดในเขมร พี่มาข่าวเดียว และลาว เป็นลำดับต่อไป
สำหรับเวียดนามถือเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมในการลงทุนมากที่สุด สังเกตจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนืิ่อง ล่าสุดในนาม TBC ในเครือบีเจซี ได้จับมือกับทาง บริษัท บอล คอร์เปอร์เรชั่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในชื่อ บริษัท ทีบีซี บอล เบเวอร์เรจ เวียดนาม จำกัด ทุนจดทะเบียน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งโรงงานผลิตกระป๋องที่จังหวัด บินดง
ประเทศเวียดนามขึ้นมา พื้นที่กว่า 80,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงไตรมาสสองปีหน้าเป็นต้นไป
โดยกำลังการผลิตในเฟสแรกหรือในช่วง 4ปีแรกจะอยู่ที่ 850 ล้านกระป๋องต่อปี ซึ่งในปีแรกนี้ เชื่อว่าจะสามารถผลิตได้ 400 ล้านกระป๋อง เน้นตลาดในเวียดนามเป็นหลัก ป้อนให้กับลูกค้าหลักของทางบริษัทที่เข้าไปทำตลาดและมีฐานการผลิตที่เวียดนาม และในเฟสสองจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับตลาดAECต่อไป โดยวางสัดส่วนกำลังการผลิตไว้ที่ 80% รองรับตลาดฝนประเทศ และ20% ส่งออก
ทั้งนี้ตลาดผลิตกระป๋องในเวียดนาม ปัจจุบันมีความต้องการต่อปีที่ 4,000 ล้านกระป๋องต่อปี โดยผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งทางการตลาดราว 50% ซึ่งการที่เราเข้าไปทำตลาดครั้งนี้ มั่นใจว่าภายใน 3ปี จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับท็อป3ได้ ขณะที่ไทยมีความต้องการราว 2,000 ล้านกระป๋อง ทีบีซี เป็นผู้นำตลาด ด้วยยอดขายต่อปีไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านกระป๋อง เป็นส่งออก 300 ล้านกระป๋อง
และที่เหลือจำหน่ายในประเทศ
นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ลงทุนอีกประมาณ 100 ล้านบาท ในการจัดตั้งโรงงานผลิตกระดาษทิชชู ที่เวียดนาม อีก 1แห่งด้วย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงปลายปีนี้ ขณะเดียวกันยังพร้อมเดินหน้าต่อเนื่องในการนำผลิตภัณฑ์ต่างๆเข้าไปทำตลาด จากปัจจุบันทำตลาดให้แก่ มาม่า นมตราหมี และนมคาร์เนชั่น เป็นต้น
นายอัศวิน กล่าวต่อว่า รายได้ของทีบีซี คิดเป็น 10% ของรายได้รวมบีเจซีเท่านั้น ขณะที่รายได้รวมของบีเจซีสิ้นปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตขึ้นอีก 15% หรือกว่า 28,000 ล้านบาท
