ASTVผู้จัดการรายวัน – เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ อัดงบ 3,000ล้านบาท ลงทุนปรับปรุงเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปั้นแบรนด์สินค้าใหม่-แตกโปรดักส์ไลน์บุกตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคไทย ประกาศก้าวจ่อซื้อกิจการอินโดจีนต่อเนื่อง ปูพรมธุรกิจลอจิสติกส์เวียดนาม กัมพูชา ก่อนสยายปีกผุดธุรกิจค้าปลีก สิ้นปีโต 15% จากรายได้ปีที่ผ่านมา 2.6หมื่นล้านบาท
รับกังวลความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจไทย ผกผันตามสถานการณ์การเมืองไทย
นายอัศวิน เตชะเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกหุ้น 2,000ล้านบาท เพื่อเป็นการระดมเงินทุนชำระเงินคืนเงินกู้เดิม และเป็นการปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านกำลังการผลิต รวมทั้งรองรับกับการลงทุนขยายกิจการสินค้าอุปโภคบริโภค
ส่วนงบการตลาดปีนี้ใช้กว่า 1,000ล้านบาท ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทยังได้วางแผนซื้อกิจการในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย พม่า กัมพูชา และลาว จากปีที่ผ่านมาใช้งบ 3,000ล้านบาท ซื้อกิจการ
ทั้งนี้การลงทุนในตลาดต่างประเทศ ในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นด้านการเป็นผู้กระจายสินค้าเป็นหลักก่อน โดยจากก่อนหน้านี้ได้ทุ่มงบ 300ล้านบาท ร่วมทุนบริษัทไทยคอร์ป ในเวียดนามตอนเหนือซึ่งใกล้กับจีนตอนใต้ เพื่อก้าวสู่ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแก่ผู้ประกอบการไทย ซึ่งมีการลงทุนการกระจายสินค้าและคลังสินค้า
ล่าสุดบริษัทได้รับเป็นผู้จัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า นมคาร์เนชั่น กระทิงแดง ปลากระป๋องสามแม่ครัว ขณะที่ประเทศกัมพูชา ได้จัดตั้งสำนักงาน เพื่อเป็นตัวแทนกระจายสินค้า ส่วนพม่าได้ตั้งสำนักงาน ขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนโรงงานที่ผลิตกระป๋อง แก้ว ในเวียดนามตอนใต้ ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 1,800ล้านบาท โดยเป็นการร่วมทุนสัดส่วน 50:50 ทั้งนี้การลงทุนกลุ่มธุรกิจการกระจายสินค้า เป็นการวางรากฐานก่อนจะเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีก สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทจะเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ และขยายโปรดักส์ไลน์มากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์สำหรับผู้ชาย
ภายใต้แบรนด์”พรอมมิส” ในหมวดสินค้าครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้า และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และสบู่เพื่อสุขภาพผิวภายใต้แบรนด์”แพรอท แนเชอรัลการ์ด”
“ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นเท่าตัว ก่อนหน้านี้ได้ยื่นต่อกรมการค้าภายในเพื่อขอปรับราคาสินค้าขึ้น แต่ภาครัฐขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าไว้ ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกบริษัทก็บริหารจัดการต้นทุนได้ดี”
นายอัศวิน กล่าวต่อถึง ผลประกอบการไตรมาสแรก เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเป้า ซึ่งภาพรวมทั้งปีคาดว่าเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาเติบโตไม่ถึง 10% หรือมีรายได้ 26,000ล้านบาท กำไร 905ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่ารายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 15% จากปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนไม่ถึง 10% ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งเงินสะพัดในหลายอุตสาหกรรม
และมีผลทำให้ธุรกิจค้าปลีกรวมทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับอานิสงส์ไปด้วย แต่บริษัทก็ยังมีกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ไม่มีความแน่นอน ซึ่งต้องรอดูผลจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
ด้านนายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้ให้กับบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี โดยหุ้นกู้มีอายุ 3 ปี และ 5 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน มูลค่าเสนอขายจำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท
ให้กับนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาท โดยเปิดจองวันที่ 23-30 พฤษภาคม นี้
รับกังวลความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจไทย ผกผันตามสถานการณ์การเมืองไทย
นายอัศวิน เตชะเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกหุ้น 2,000ล้านบาท เพื่อเป็นการระดมเงินทุนชำระเงินคืนเงินกู้เดิม และเป็นการปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านกำลังการผลิต รวมทั้งรองรับกับการลงทุนขยายกิจการสินค้าอุปโภคบริโภค
ส่วนงบการตลาดปีนี้ใช้กว่า 1,000ล้านบาท ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทยังได้วางแผนซื้อกิจการในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย พม่า กัมพูชา และลาว จากปีที่ผ่านมาใช้งบ 3,000ล้านบาท ซื้อกิจการ
ทั้งนี้การลงทุนในตลาดต่างประเทศ ในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นด้านการเป็นผู้กระจายสินค้าเป็นหลักก่อน โดยจากก่อนหน้านี้ได้ทุ่มงบ 300ล้านบาท ร่วมทุนบริษัทไทยคอร์ป ในเวียดนามตอนเหนือซึ่งใกล้กับจีนตอนใต้ เพื่อก้าวสู่ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแก่ผู้ประกอบการไทย ซึ่งมีการลงทุนการกระจายสินค้าและคลังสินค้า
ล่าสุดบริษัทได้รับเป็นผู้จัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า นมคาร์เนชั่น กระทิงแดง ปลากระป๋องสามแม่ครัว ขณะที่ประเทศกัมพูชา ได้จัดตั้งสำนักงาน เพื่อเป็นตัวแทนกระจายสินค้า ส่วนพม่าได้ตั้งสำนักงาน ขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนโรงงานที่ผลิตกระป๋อง แก้ว ในเวียดนามตอนใต้ ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 1,800ล้านบาท โดยเป็นการร่วมทุนสัดส่วน 50:50 ทั้งนี้การลงทุนกลุ่มธุรกิจการกระจายสินค้า เป็นการวางรากฐานก่อนจะเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีก สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทจะเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ และขยายโปรดักส์ไลน์มากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์สำหรับผู้ชาย
ภายใต้แบรนด์”พรอมมิส” ในหมวดสินค้าครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้า และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และสบู่เพื่อสุขภาพผิวภายใต้แบรนด์”แพรอท แนเชอรัลการ์ด”
“ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นเท่าตัว ก่อนหน้านี้ได้ยื่นต่อกรมการค้าภายในเพื่อขอปรับราคาสินค้าขึ้น แต่ภาครัฐขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าไว้ ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกบริษัทก็บริหารจัดการต้นทุนได้ดี”
นายอัศวิน กล่าวต่อถึง ผลประกอบการไตรมาสแรก เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเป้า ซึ่งภาพรวมทั้งปีคาดว่าเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาเติบโตไม่ถึง 10% หรือมีรายได้ 26,000ล้านบาท กำไร 905ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่ารายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 15% จากปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนไม่ถึง 10% ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งเงินสะพัดในหลายอุตสาหกรรม
และมีผลทำให้ธุรกิจค้าปลีกรวมทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับอานิสงส์ไปด้วย แต่บริษัทก็ยังมีกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ไม่มีความแน่นอน ซึ่งต้องรอดูผลจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
ด้านนายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้ให้กับบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี โดยหุ้นกู้มีอายุ 3 ปี และ 5 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน มูลค่าเสนอขายจำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท
ให้กับนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาท โดยเปิดจองวันที่ 23-30 พฤษภาคม นี้