xs
xsm
sm
md
lg

"แจนสปอร์ต"รีเทิร์นตลาดไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – กระเป๋าเป้ “แจนสปอร์ต” หวนทำตลาดในไทยอีกครั้ง เปลี่ยนมือดิสทริบิวเตอร์ วางใจเลือก “สตาร์ 360 ประเทศไทย” ช่วยกู้ยอดกลับคืน มั่นใจหลังเปิดชอปเพิ่มยอดขายกระเตื้องขึ้นเท่าตัว พร้อมบุกหนักในเอเชีย เชื่อศักยภาพการเติบโตสูง

นายสคิป โยว์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ แจนสปอร์ต (JanSport) เปิดเผยว่า แจนสปอร์ต ถือเป็นแบรนด์กระเป๋าเป้ต้นแบบของสินค้าประเภทเอาท์ดอร์ ซึ่งมีอายุกว่า44 ปี ปัจจุบันมีวางจำหน่ายใน 55 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศหลัก คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิด ส่วนในประเทศไทยนั้น แจนสปอร์ตเคยเข้ามาทำตลาดหลายปีมาแล้ว ผ่านทางดิสทริบิวเตอร์รายหนึ่ง แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาได้ชะลอการทำตลาดลง และในปีนี้ได้วางใจมอบหมายให้ทางบริษัท สตาร์ 360 ประเทศไทย จำกัด เข้ามาเป็นดิสทริบิวเตอร์ในการทำตลาดและจัดจำหน่ายให้อีกครั้ง

สำหรับแผนการตลาด เบื้องต้นเน้นใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารไปยังลูกค้าที่กลุ่มแฟนคลับ รวมถึงออกบูต เดินสายโรดโชว์เสนอเรื่องราวความเป็นมาของแจนสปอร์ต เนื่องจากแจนสปอร์ต จะขายความเป็นตำนาน ขายแบรนด์เป็นหลัก ขณะที่ต่อปีจะมีคอลเล็กชั่นสินค้าใหม่ราว 2-3 คอนเล็กชั่นเท่านั้น ล่าสุดได้นำ 2 คอลเล็กชั่นใหม่ในปี 2012 มาเปิดตัวที่ประเทศไทย พร้อมจัดบูตนำเสนอเรื่องราวของแจนสปอร์ต ส่วนราคาสินค้าที่วางจำหน่ายนั้นจะมีตั้งแต่ 1,200-5,800 บาท เป็นการนำเข้าทั้งหมด

นายสคิป กล่าวต่อว่า ทางบริษัทมีความสนใจประเทศในแทบเอเชียมาก เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยรายได้ในปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 21% ผ่านประเทศหลักๆ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี และไทย ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์บ้างก็ตาม แต่เชื่อว่าตลาดยังไปได้ดี

อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัท สตาร์ 360 ประเทศไทย จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ปัจจุบันเป็นดิสทริบิวเตอร์ให้กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์หลายแบรนด์ เช่น asics, Onitsuka Tiger ซึ่งทั้งสองแบรนด์สร้างรายได้ให้บริษัทราว 60% และแบรนด์อื่นๆอีก 40% ที่เหลือ คือ MERRELL, MBT, CAT, SEBAGO และ JANSPORT โดยแจนสปอร์ต ปัจจุบันทำรายได้ให้บริษัทไม่ถึง 10%

แต่หลังจากที่จะมีการขยายชอปของบริษัทอีก 2-3 สาขา ทั้งใน เทอร์มินอล21, เมกกะ บางนา เป็นต้น เชื่อว่าแจนสปอร์ตจะมียอดขายเติบโตขึ้นเท่าตัว จากปัจจุบันขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด ในเดอะมอลล์ เป็นหลัก จับกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มนักเรียน วัยรุ่น ส่วนสินค้าระดับพรีเมี่ยม ปีนี้จะปรับราคาลงราว 10% เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น