ห้างแดนโรตีขึ้นเชียงใหม่เล็งซื้อสินค้าเพิ่ม

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตัวแทนห้างดังอินเดียเยือนเชียงใหม่ ทำ Business Matching เน้นกลุ่มของตกแต่งบ้าน-สินค้าไลฟ์สไตล์ เผยสินค้าไทยช่องทางสดใส เหตุคุณภาพดี-มีความหลากหลาย อนาคตเล็งกลุ่มอาหาร-ผลไม้เพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 13-14 ม.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ส่งเสริมการส่งออกภาคเหนือ (เชียงใหม่) ได้มีการจัด Business Matching ระหว่างผู้บริหารห้างสรรพสินค้า The Bombay Store จากประเทศอินเดีย กับผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าในจ.เชียงใหม่ โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมนำเสนอสินค้ารวมทั้งสิ้น 21 ราย จากกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องประดับตกแต่งบ้าน เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องประดับแฟชั่น สินค้าเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์สปา ซึ่งเป็นสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าจากอินเดียให้ความสนใจ

สำหรับห้างสรรพสินค้า The Bombay Store ถือเป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ของประเทศอินเดีย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1905 มีสาขากระจายอยู่ในเมืองสำคัญๆ ของอินเดียรวม 87สาขา มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมุมไบ และมีชื่อเสียงในด้านการจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพและมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยในปัจจุบันมีการจำหน่ายสินค้าจากประเทศไทยอยู่หลายประเภท

Mr.Asim Dalal Managing Director ของ The Bombay Store กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าซื้อสินค้าจากประเทศไทยมาเป็นระยะเวลา 4-5 ปีแล้ว ซึ่งการนำสินค้าจากไทยไปจำหน่ายถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ทั้งจากการมีสินค้าที่มีคุณภาพ การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในอินเดีย และการติดต่อทำธุรกิจกับผู้ประกอบการชาวไทยที่เป็นไปด้วยดีเช่นกัน

Mr.Asim กล่าวว่า สินค้าไทยมีความหลากหลายมากกว่าและมีคุณภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าจากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ สำหรับในปี 2553 ห้างได้สั่งซื้อสินค้าจากไทยเป็นจำนวนเงินประมาณ 500,000 เหรียญสหรัฐ แต่ตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 20% ในปีนี้ โดยห้างมีแผนการที่จะเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากไทยเพื่อกระจายให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ นอกเหนือจากห้างเอง อีกทั้งตั้งเป้าจะขยายการนำเข้าสินค้าไทยในกลุ่มอาหารและผลไม้ด้วย หลังจากพบว่าคนอินเดียให้ความสนใจอาหารและผลไม้จากไทยมาก

น.ต.หญิง จุฑารัตน์ นาคธน ร.น.ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการส่งออกภาคเหนือ กล่าวว่า การพบกันระหว่างตัวแทนจาก The Bombay Store กับผู้ประกอบการในจ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ตัวแทนของห้างเดินทางมาเจรจาการค้า โดยสินค้าที่อินเดียสนใจจะมีการนำไปทดลองจำหน่ายก่อน หากได้รับการตอบรับที่ดีก็จะมีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องต่อไป

สำหรับการเติบโตของสินค้าไทย ถือว่ามีโอกาสที่ดีในตลาด ซึ่งถ้าสามารถนำสินค้าเข้าไปขายได้มากก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของเชียงใหม่ เพราะอินเดียเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรมากถึง 1,020 ล้านคน ขณะที่มุมไบก็เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ อีกทั้งคนอินเดียยังมีไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกับคนไทย รวมทั้งไทยและอินเดียยังมีการทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกันอยู่แล้วด้วย

อย่างไรก็ตาม ควรจะมีการทำวิจัยตลาด หรือการส่งผู้แทนการค้าเข้าไปศึกษาลู่ทางการทำการค้าและการส่งสินค้าไปจำหน่ายอย่างจริงจังในอนาคต เพื่อที่จะได้เข้าใจความนิยมและความต้องการสินค้าของตลาดอินเดียได้มากยิ่งขึ้น