กรมส่งออก จับมือสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย พัฒนาทักษะเชิงสร้างสรรค์และศักยภาพทางธุรกิจแก่เอสเอ็มอีกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ รับมือการแข่งขันเดือด เผยรายได้ส่งออกสินค้าไลฟไตล์ปี 2553 โตร้อยละ 16.55 มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้ ทะลุแสนล้านบาท
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ นับเป็นอีกกลุ่มที่มีอัตราเติบโตสูงมาก ได้รับความสนใจจากห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากจุดเด่นความประณีตและสวยงามโดยในปี 2553 ที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 95,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง ร้อยละ 16.55 ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมัน ฝรั่งเศส เวียดนาม อินเดีย ฯลฯ และตั้งเป้ายอดขายในปี 2554 ประมาณ 100,000 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก บวกกับการร่วมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ และการเปิดเสรีการค้า ก่อให้เกิดการแข่งขันในรูปแบบใหม่ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องปรับตัว เ ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ของไทย ส่วนใหญ่จะเป็นเอสเอ็มอี ที่ยังขาดทักษะในด้านกลยุทธ์การตลาด รวมถึงการสร้างแบรนด์ ดังนั้น กรมส่งเสริมการส่งออก จึงได้ร่วมกับสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย จัดโครงการพัฒนาทักษะเชิงสร้างสรรค์และเพิ่มศักยภาพในทางธุรกิจในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ขึ้น
กิจกรรมในโครงการ ได้แก่ ศึกษาวิเคราะห์ตลาดเชิงลึก และนำมาต่อยอดการจัดกิจกรรมอบรม และปฏิบัติการเพื่อสร้างนักการตลาดเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงการสร้างแบรนด์ ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะได้พบเจรจาการค้ากับตัวแทนผู้ซื้อจากห้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น Harrods,Debenham,Crate and Barrel เป็นต้น
สำหรับการอบรมจะใช้ระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่มกราคมถึงกันยายน 2554 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย กลุ่มนักออกแบบ นักธุรกิจ คู่ค้า ผู้ผลิตที่มีความต้องการในการทำสื่อการตลาดรูปแบบใหม่ นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ซึ่งครอบคลุมสินค้าในกลุ่มของขวัญ ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ของใช้บนโต๊ะอาหาร สิ่งทอ ของเล่น เครื่องเขียน และเครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น จากความร่วมมือดังกล่าว เชื่อจะผลักดันให้ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ถึงเป้าหมาย 100,000 ล้านบาท
