ASTVผู้จัดการรายวัน-ลดราคาขายปลีกเจอทางตัน “เทพ” ใช้มุขนัดประชุมเร็วขึ้น ทำแผนทบทวนราคาเสร็จไม่ทัน คนไทยต้องกินปาล์มแพงต่อไป “พาณิชย์”ดิ้นชงเลิกแทรกแซงปาล์ม หลังสถานการณ์ปกติ เพื่อลดภาระงบประมาณรัฐ พร้อมเสนอคุมสต๊อกห้ามเหลือต่ำกว่า 1.5 แสนตัน หวั่นปัญหาซ้ำรอยเหมือนปีก่อน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้ (14 มิ.ย.) คาดว่าจะยังไม่มีการพิจารณายกเลิกมติการคงราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ลิตรละ 47 บาท 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมิ.ย.2554 เนื่องจากมติกนป.ครั้งก่อน ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์กลับมาทำรายละเอียดต้นทุนและให้เสนอกลับมาให้กนป.พิจารณา แต่ล่าสุดกรมการค้าภายในยังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด และยังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ เดิมกรมการค้าภายในมีกำหนดที่จะเรียกผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจปาล์มทั้งระบบมาประชุม ตั้งแต่ชาวสวน โรงสกัด ผู้ผลิตปาล์มขวด ร้านค้า และผู้ใช้ปาล์ม เพื่อรับทราบสถานการณ์เกี่ยวกับปาล์มทั้งระบบ รวมไปถึงสถานการณ์ด้านราคา ก่อนที่จะจัดทำข้อสรุปเสนอให้กนป. พิจารณา โดยคาดว่าจะทำเสร็จก่อนการประชุมที่กำหนดไว้เดิม คือ วันที่ 23 มิ.ย.2554 แต่ล่าสุดกับมีการนัดประชุมกนป.เร็วขึ้นเป็นวันนี้ ทำให้จัดทำข้อมูลไม่ทัน ซึ่งเท่ากับกนป. จะใช้เป็นข้ออ้างให้คงราคาขายปลีกที่ 47 บาทได้ต่อไป ทั้งๆ ที่ต้นทุนได้ปรับลดลงมาอย่างมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้พิจารณายกเลิกมาตรการแทรกแซงราคาปาล์ม ด้วยการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันปาล์มดิบให้โรงสกัด ลิตรละ 1.79 บาท ต่อการรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกร กก.ละ 6 บาท เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ราคาผลปาล์มได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงควรปล่อยให้ราคาซื้อขายเป็นไปตามกลไกตลาด และช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐบาล แต่หากต่อไปราคาผลปาล์มตกต่ำจนเกษตรกรเดือดร้อน หรือขายได้ต่ำกว่าทุน จะเสนอให้รัฐบาลใช้มาตรการกำหนดเพดานราคารับซื้อขั้นต่ำ โดยบังคับให้โรงสกัดเข้าไปรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคาที่มีกำไรเหมาะสม ซึ่งราคาขั้นต่ำจะคำนวณจากต้นทุนการเพาะปลูกผลปาล์ม บวกกำไร 30-40% รวมถึงดูแนวโน้มราคาปาล์มในตลาดโลก โดยเฉพาะมาเลเซียเป็นส่วนประกอบ โดยเชื่อว่าราคาผลปาล์มขณะนี้ น่าจะเป็นที่พอใจของเกษตรกร เพราะราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดมาเลเซียตกกก.ละ 34 บาท หากทอนเป็นราคาผลปาล์มจะไม่ต่ำกว่า 5 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่
นอกจากนี้ จะเสนอให้หามาตรการดูแลสต๊อกปาล์มฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลน โดยจะกำหนดสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบขั้นต่ำทั้งประเทศไว้ที่ 150,000 ตัน หากสต๊อกเกิดลดต่ำกว่านั้น ให้สามารถพิจารณานำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเข้ามาได้ใน 7 วัน หรือพิจารณามาตรการอื่นๆ ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหาขาดแคลนเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันจะเพิ่มความเข้มงวดการตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ ปริมาณการบริโภค การส่งออก และการนำไปใช้ผลิตพลังงาน เพื่อให้ปริมาณการผลิต สต๊อก และความต้องการใช้มีเพียงพอสอดคล้องกัน
***จี้รัฐลดราคาน้ำมันปาล์มขวด
ที่รัฐสภา นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ส.ว.ขอนแก่น ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา แถลงถึงกรณีน้ำมันปาล์มราคาสูง ว่า ขณะนี้ผลปาล์มได้ออกมาเป็นจำนวนมากโดยคาดว่าปี 54 จะมีผลผลิตรวม 9 ล้านตัน โดยช่วงเม.ย.-พ.ค. 54 มีผลผลิตออกมากที่สุดเดือนละ 1 ล้านตัน ทำให้สต็อกปาล์มเดือนพ.ค.สูงถึง 2 แสนตัน และเดือนมิ.ย.จะเพิ่มเป็น 3 แสนตัน และคาดว่าสต็อกจะสูงถึง 4 แสนตันในสิ้นปี
ขณะที่ราคาผลปาล์มจากเดิมขายได้กิโลกรัมละ 8-9 บาท แต่ปัจจุบันขายได้ กิโลกรัมละ 4-5 บาท ต่ำกว่าที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) กำหนดไว้ที่ 5 บาท ดังนั้นตอนนี้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มลดลงแล้วจึงควรลดราคาขายน้ำมันปาล์มขวดจาก 47 บาท ลงให้เหลือต่ำกว่า 42 บาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกนป. ก็ยังไม่ประกาศปรับลดราคา จึงขอให้รัฐบาลปรับราคาลงโดยด่วน อย่าให้ใครมองว่า มีคนในรัฐบาลได้ผลประโยชน์ ซึ่งจะทำให้เสียคะแนนในการเลือกตั้งไปด้วย
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้ (14 มิ.ย.) คาดว่าจะยังไม่มีการพิจารณายกเลิกมติการคงราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ลิตรละ 47 บาท 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมิ.ย.2554 เนื่องจากมติกนป.ครั้งก่อน ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์กลับมาทำรายละเอียดต้นทุนและให้เสนอกลับมาให้กนป.พิจารณา แต่ล่าสุดกรมการค้าภายในยังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด และยังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ เดิมกรมการค้าภายในมีกำหนดที่จะเรียกผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจปาล์มทั้งระบบมาประชุม ตั้งแต่ชาวสวน โรงสกัด ผู้ผลิตปาล์มขวด ร้านค้า และผู้ใช้ปาล์ม เพื่อรับทราบสถานการณ์เกี่ยวกับปาล์มทั้งระบบ รวมไปถึงสถานการณ์ด้านราคา ก่อนที่จะจัดทำข้อสรุปเสนอให้กนป. พิจารณา โดยคาดว่าจะทำเสร็จก่อนการประชุมที่กำหนดไว้เดิม คือ วันที่ 23 มิ.ย.2554 แต่ล่าสุดกับมีการนัดประชุมกนป.เร็วขึ้นเป็นวันนี้ ทำให้จัดทำข้อมูลไม่ทัน ซึ่งเท่ากับกนป. จะใช้เป็นข้ออ้างให้คงราคาขายปลีกที่ 47 บาทได้ต่อไป ทั้งๆ ที่ต้นทุนได้ปรับลดลงมาอย่างมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้พิจารณายกเลิกมาตรการแทรกแซงราคาปาล์ม ด้วยการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันปาล์มดิบให้โรงสกัด ลิตรละ 1.79 บาท ต่อการรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกร กก.ละ 6 บาท เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ราคาผลปาล์มได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงควรปล่อยให้ราคาซื้อขายเป็นไปตามกลไกตลาด และช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐบาล แต่หากต่อไปราคาผลปาล์มตกต่ำจนเกษตรกรเดือดร้อน หรือขายได้ต่ำกว่าทุน จะเสนอให้รัฐบาลใช้มาตรการกำหนดเพดานราคารับซื้อขั้นต่ำ โดยบังคับให้โรงสกัดเข้าไปรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคาที่มีกำไรเหมาะสม ซึ่งราคาขั้นต่ำจะคำนวณจากต้นทุนการเพาะปลูกผลปาล์ม บวกกำไร 30-40% รวมถึงดูแนวโน้มราคาปาล์มในตลาดโลก โดยเฉพาะมาเลเซียเป็นส่วนประกอบ โดยเชื่อว่าราคาผลปาล์มขณะนี้ น่าจะเป็นที่พอใจของเกษตรกร เพราะราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดมาเลเซียตกกก.ละ 34 บาท หากทอนเป็นราคาผลปาล์มจะไม่ต่ำกว่า 5 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่
นอกจากนี้ จะเสนอให้หามาตรการดูแลสต๊อกปาล์มฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลน โดยจะกำหนดสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบขั้นต่ำทั้งประเทศไว้ที่ 150,000 ตัน หากสต๊อกเกิดลดต่ำกว่านั้น ให้สามารถพิจารณานำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเข้ามาได้ใน 7 วัน หรือพิจารณามาตรการอื่นๆ ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหาขาดแคลนเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันจะเพิ่มความเข้มงวดการตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ ปริมาณการบริโภค การส่งออก และการนำไปใช้ผลิตพลังงาน เพื่อให้ปริมาณการผลิต สต๊อก และความต้องการใช้มีเพียงพอสอดคล้องกัน
***จี้รัฐลดราคาน้ำมันปาล์มขวด
ที่รัฐสภา นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ส.ว.ขอนแก่น ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา แถลงถึงกรณีน้ำมันปาล์มราคาสูง ว่า ขณะนี้ผลปาล์มได้ออกมาเป็นจำนวนมากโดยคาดว่าปี 54 จะมีผลผลิตรวม 9 ล้านตัน โดยช่วงเม.ย.-พ.ค. 54 มีผลผลิตออกมากที่สุดเดือนละ 1 ล้านตัน ทำให้สต็อกปาล์มเดือนพ.ค.สูงถึง 2 แสนตัน และเดือนมิ.ย.จะเพิ่มเป็น 3 แสนตัน และคาดว่าสต็อกจะสูงถึง 4 แสนตันในสิ้นปี
ขณะที่ราคาผลปาล์มจากเดิมขายได้กิโลกรัมละ 8-9 บาท แต่ปัจจุบันขายได้ กิโลกรัมละ 4-5 บาท ต่ำกว่าที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) กำหนดไว้ที่ 5 บาท ดังนั้นตอนนี้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มลดลงแล้วจึงควรลดราคาขายน้ำมันปาล์มขวดจาก 47 บาท ลงให้เหลือต่ำกว่า 42 บาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกนป. ก็ยังไม่ประกาศปรับลดราคา จึงขอให้รัฐบาลปรับราคาลงโดยด่วน อย่าให้ใครมองว่า มีคนในรัฐบาลได้ผลประโยชน์ ซึ่งจะทำให้เสียคะแนนในการเลือกตั้งไปด้วย
