“เทพเทือก” อุ้มโรงงาน สั่งตรึงราคาน้ำมันปาล์มขวด 47 บาทต่ออีก 3 เดือน สวนทางต้นทุนลด พร้อมสั่งโรงงานสกัดซื้อปาล์มดิบจากเกษตรกร กก.ละ 6 บาท “พาณิชย์” สุดมึนต้นทุนลดกว่า 2 เท่า แต่ราคายังเท่าเดิม ชี้ควรจะอยู่แค่ 40 บาทด้วยซ้ำ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขนาด 1 ลิตร เอาไว้ที่ราคา 47 บาท ต่อเนื่องไปอีก 3 เดือน นับจากปัจจุบันจนถึงเดือน มิ.ย.2554 โดยให้โรงงานสกัดรับซื้อผลปาล์มดิบสัดส่วนน้ำมัน 17% จากเกษตรกร ในราคากิโลกรัมละ 6 บาทหากสัดส่วนน้ำมันสูงกว่า 17% ให้ปรับราคาขึ้นตามสัดส่วน โดยต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 36.28 บาท
ส่วนการชดเชยให้โรงกลั่นน้ำมัน ที่ได้รับซื้อผลปาล์มดิบในประเทศมาสกัดเป็นน้ำมันบรรจุขวดจำนวน 4 หมื่นตันนั้น ที่ประชุมมีมติให้จ่ายชดเชยในอัตราลิตรละ 1.79 บาท จากเดิม 2.50 บาท และมอบให้กระทรวงพลังงานกำหนดสูตรทำไบโอดีเซลให้เป็นไปตามสถานการณ์ผลผลิตปาล์มและปริมาณสำรองในประเทศ
“ที่รัฐบาลยังต้องจ่ายชดเชย เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาราคาผันผวน ทั้งในส่วนของราคาน้ำมันปาล์มบริโภคที่อาจขายแพงกว่า 47 บาท และราคาผลปาล์มดิบที่อาจถูกกดราคา ซึ่งหลังจากพ้นกำหนด 3 เดือนแล้ว หากจะมีแนวทางเป็นอย่างไร ก็ให้เป็นหารตัดสินใจของ กนป.ชุดใหม่ แต่ในช่วง 3 เดือนนี้ เป็นการให้โอกาสทุกฝ่ายได้ปรับตัว” นายสุเทพ กล่าว
นอกจากนี้ ในด้านการดูแลเรื่องปริมาณสำรองในประเทศที่อาจเกิดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในปื้นที่ภาคใต้นั้น กนป.ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เช็คสต็อกทุก 15 วัน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า มติ กนป.ที่ให้คงราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 47 บาทจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.ส่งผลให้นโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่จะพิจารณาลดราคาน้ำมันปาล์มต้องหยุดชะงัก เพราะต้องยึดมติของ กนป.เป็นหลัก ทั้งที่ราคาผลปาล์มปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลปาล์มและมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก
สำหรับราคาซื้อขาย ณ วันที่ 28 มี.ค.2554 ราคาผลปาล์มดิบตก กก.ละ 4.40-5.00 บาท ผลปาล์มร่วง กก.ละ 4.90-8.00 บาท และน้ำมันปาล์มเกรดเอกก.ละ 31-33 บาท ซึ่งลดลงจากช่วงที่เกิดปัญหาปาล์มขาดตลาดเดือน ม.ค.-ก.พ.กว่า 2 เท่าตัว โดยขณะนั้นราคาผลปาล์มดิบเคยไปปรับขึ้นสูงสุดถึงกก.ละ 10-12 บาท ปาล์มร่วง 11-16 บาท และน้ำมันปาล์มเกรดเอ กก.ละ 50-65 บาท จนทำให้ช่วงนั้นรัฐบาลต้องประกาศขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มจากขวดละ 38 บาท เป็น 47 บาท พร้อมทั้งประกาศนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ และชดเชยการซื้อผลผลิตในประเทศ
ทั้งนี้ การคำนวณราคาต้นทุน ณ ปัจจุบัน หากคิดจากราคาผลปาล์มดิบ กก.ละ 4.50-5.00 บาท น้ำมันปาล์มเกรด เอ กก.ละ 31-33 บาท ราคาขายปลีกน่าจะอยู่ขวดละไม่เกิน 40 บาท อีกทั้งยังอยู่ในช่ววงผลปาล์มกำลังออกสู่ตลาด จึงไม่น่าเกิดปัญหาขาดแคลน และราคาผันผวน ที่สำคัญ ยังทำให้เกิดปัญหาพ่อค้าคนกลาง และโรงสกัดน้ำมันกดราคารับซื้อจากเกษตรกรเพิ่มเติมด้วย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขนาด 1 ลิตร เอาไว้ที่ราคา 47 บาท ต่อเนื่องไปอีก 3 เดือน นับจากปัจจุบันจนถึงเดือน มิ.ย.2554 โดยให้โรงงานสกัดรับซื้อผลปาล์มดิบสัดส่วนน้ำมัน 17% จากเกษตรกร ในราคากิโลกรัมละ 6 บาทหากสัดส่วนน้ำมันสูงกว่า 17% ให้ปรับราคาขึ้นตามสัดส่วน โดยต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 36.28 บาท
ส่วนการชดเชยให้โรงกลั่นน้ำมัน ที่ได้รับซื้อผลปาล์มดิบในประเทศมาสกัดเป็นน้ำมันบรรจุขวดจำนวน 4 หมื่นตันนั้น ที่ประชุมมีมติให้จ่ายชดเชยในอัตราลิตรละ 1.79 บาท จากเดิม 2.50 บาท และมอบให้กระทรวงพลังงานกำหนดสูตรทำไบโอดีเซลให้เป็นไปตามสถานการณ์ผลผลิตปาล์มและปริมาณสำรองในประเทศ
“ที่รัฐบาลยังต้องจ่ายชดเชย เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาราคาผันผวน ทั้งในส่วนของราคาน้ำมันปาล์มบริโภคที่อาจขายแพงกว่า 47 บาท และราคาผลปาล์มดิบที่อาจถูกกดราคา ซึ่งหลังจากพ้นกำหนด 3 เดือนแล้ว หากจะมีแนวทางเป็นอย่างไร ก็ให้เป็นหารตัดสินใจของ กนป.ชุดใหม่ แต่ในช่วง 3 เดือนนี้ เป็นการให้โอกาสทุกฝ่ายได้ปรับตัว” นายสุเทพ กล่าว
นอกจากนี้ ในด้านการดูแลเรื่องปริมาณสำรองในประเทศที่อาจเกิดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในปื้นที่ภาคใต้นั้น กนป.ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เช็คสต็อกทุก 15 วัน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า มติ กนป.ที่ให้คงราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 47 บาทจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.ส่งผลให้นโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่จะพิจารณาลดราคาน้ำมันปาล์มต้องหยุดชะงัก เพราะต้องยึดมติของ กนป.เป็นหลัก ทั้งที่ราคาผลปาล์มปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลปาล์มและมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก
สำหรับราคาซื้อขาย ณ วันที่ 28 มี.ค.2554 ราคาผลปาล์มดิบตก กก.ละ 4.40-5.00 บาท ผลปาล์มร่วง กก.ละ 4.90-8.00 บาท และน้ำมันปาล์มเกรดเอกก.ละ 31-33 บาท ซึ่งลดลงจากช่วงที่เกิดปัญหาปาล์มขาดตลาดเดือน ม.ค.-ก.พ.กว่า 2 เท่าตัว โดยขณะนั้นราคาผลปาล์มดิบเคยไปปรับขึ้นสูงสุดถึงกก.ละ 10-12 บาท ปาล์มร่วง 11-16 บาท และน้ำมันปาล์มเกรดเอ กก.ละ 50-65 บาท จนทำให้ช่วงนั้นรัฐบาลต้องประกาศขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มจากขวดละ 38 บาท เป็น 47 บาท พร้อมทั้งประกาศนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ และชดเชยการซื้อผลผลิตในประเทศ
ทั้งนี้ การคำนวณราคาต้นทุน ณ ปัจจุบัน หากคิดจากราคาผลปาล์มดิบ กก.ละ 4.50-5.00 บาท น้ำมันปาล์มเกรด เอ กก.ละ 31-33 บาท ราคาขายปลีกน่าจะอยู่ขวดละไม่เกิน 40 บาท อีกทั้งยังอยู่ในช่ววงผลปาล์มกำลังออกสู่ตลาด จึงไม่น่าเกิดปัญหาขาดแคลน และราคาผันผวน ที่สำคัญ ยังทำให้เกิดปัญหาพ่อค้าคนกลาง และโรงสกัดน้ำมันกดราคารับซื้อจากเกษตรกรเพิ่มเติมด้วย
