ASTVผู้จัดการรายวัน-“สุเทพ”แอ๊บแบ๊ว ทำมึน! ประชุมบอร์ดปาล์มไปทำไม โยน “พาณิชย์”จัดการเรื่องลดราคาปาล์มขวดเอง เหตุมีอำนาจอยู่แล้ว “เจ๊วา”โต้กลับ ต้องปลดล็อคมติตรึงราคา 47 บาท 3 เดือนก่อน ถึงจะพิจารณาลดราคาได้ ด้านสศก. บอกต้องเลิกแทรกแซงก่อน ถึงดูเรื่องลดราคา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า แปลกใจกับท่าทีของกระทรวงพาณิชย์ ที่เรียกร้องให้มีการประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อปรับลดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดต่ำกว่า 47 บาท เพราะกระทรวงพาณิชย์มีอำนาจในการปรับลดราคาอยู่แล้ว ยกเว้นกรณีจะขึ้นราคา ซึ่งตนเองจะรอความชัดเจนจากหนังสือที่ส่งมาอีกครั้ง
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องขอให้กรมการค้าภายในทำหนังสือไปยังกนป. เพื่อเรียกประชุมนั้น เพราะกระทรวงพาณิชย์ต้องการให้กนป. ยกเลิกมติเดิมที่ให้ตรึงราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในราคา 47 บาท นานถึง 3 เดือน หรือสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ก่อน หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำน้ำมันพืชถึงจะเรียกประชุมเพื่อทบทวนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้
“กรณีที่นายสุเทพระบุว่า กระทรวงพาณิชย์สามารถปรับลดราคาน้ำมันปาล์มได้เลยนั้น เป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน แม้กระทรวงฯ จะมีอำนาจตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ทบทวนราคาได้ทันที แต่เมื่อมติกนป. ให้คงราคาน้ำมันปาล์มไว้ 3 เดือน ก็ต้องให้ยกเลิกมตินี้ก่อน เพราะคงฝ่าฝืนมติของกนป.ไม่ได้ เมื่อยกเลิกแล้ว ถึงจะมาทบทวนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอีกครั้ง ซึ่งจะลดลงเท่าไรขึ้นอยู่กับการพิจารณา”นางพรทิวากล่าว
ทั้งนี้ หนังสือที่จะทำถึงกนป. จะให้กรมการค้าภายในสรุปสถานการณ์ราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มที่จำหน่ายในท้องตลาด เพื่อให้กนป.พิจารณา เพราะจากการสอบถามไปยังสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย พบว่าราคาน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่ปรับลดลงมามาก เนื่องจากผลผลิตล้นตลาด ขณะที่ราคาจำหน่ายปลีกในท้องตลาดและห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก ราคาส่วนใหญ่ได้ปรับลดลง ขายต่ำกว่าราคาควบคุมที่ 47 บาท โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 44 บาท
นางพรทิวากล่าวว่า ส่วนการจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำมันปาล์มให้กับผู้สกัดและโรงกลั่น ที่ผ่านมา มีคณะกรรมการตรวจสอบการจ่ายเงินอย่างตรงไปตรงมา หากโรงสกัดและโรงกลั่นดำเนินการอย่างถูกต้อง คือรับซื้อผลปาล์มสดกับเกษตรกรตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดให้ คือ 6 บาท/กก. กรรมการฯ ก็จะจ่ายเงิน แต่หากไม่ถูกต้อง ก็ต้องระงับ เพราะเป็นงบประมาณแผ่นดิน ถือเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
ก่อนหน้านี้ นางพรทิวาได้ออกมาระบุว่าจะเสนอให้กนป. ทบทวนมติยืนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไว้ที่ 47 บาท โดยต้องการให้ปรับลดลงมา 5 บาท เหลือ 42 บาท หลังจากราคาผลปาล์มดิบในตลาดปรับลดลงเหลือเพียงกก.ละ 4-5 บาทเท่านั้น ประกอบกับขณะนี้มีผลผลิตออกมาเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแล้ว
รายงานข่าวทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า กรมการค้าภายในได้นำเรื่องน้ำมันปาล์มเสนอถึงสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะเลขาธิการกนป. แล้ว และสศก.ได้ทำหนังสือถึงนายสุเทพแล้วเช่นเดียวกัน แต่จะเรียกประชุมเมื่อไรขึ้นอยู่กับนายสุเทพกำหนด โดยวาระการพิจารณาจะรายงานผลการแทรกแซงราคาปาล์มช่วงที่ผ่านมาให้รับทราบ รวมถึงประเมินสถานการณ์ปาล์มปัจจุบันว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือยัง
ทั้งนี้ หากที่ประชุมเห็นว่าสถานการณ์เป็นปกติ ก็จะให้ทบทวนมาตรการแทรกแซง ด้วยการยกเลิกจ่ายเงินชดเชยให้โรงสกัดกก.ละ 1.79 บาท เพื่อให้ไปรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคากก. 6 บาท เพื่อปล่อยให้ราคาปาล์มเป็นไปตามกลไกตลาด โดยขณะนี้ถือว่าราคาปาล์มอยู่ในภาวะปกติ ไม่เกิดปัญหาขาดแคลนและแพงเหมือนที่ผ่านมา
ส่วนการปรับพิจารณาลดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดลงจาก 47 บาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ อาจต้องพิจารณาครั้งถัดไป เพราะต้องรอให้มีการยกเลิกการแทรกแซงและให้ราคาเป็นไปตามกลไกปกติเสียก่อน และจากนั้นถึงจะประเมินราคาผลปาล์ม ต้นทุน ก่อนที่จะพิจารณาปรับลดราคา แต่ขณะนี้ราคาผลปาล์มเฉลี่ย 4-5 บาท และน้ำมันปาล์มยังเฉลี่ย กก.ละ 34-36 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาขายที่กำหนดไว้ขวดลิตรละ 47 บาท
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า แปลกใจกับท่าทีของกระทรวงพาณิชย์ ที่เรียกร้องให้มีการประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อปรับลดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดต่ำกว่า 47 บาท เพราะกระทรวงพาณิชย์มีอำนาจในการปรับลดราคาอยู่แล้ว ยกเว้นกรณีจะขึ้นราคา ซึ่งตนเองจะรอความชัดเจนจากหนังสือที่ส่งมาอีกครั้ง
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องขอให้กรมการค้าภายในทำหนังสือไปยังกนป. เพื่อเรียกประชุมนั้น เพราะกระทรวงพาณิชย์ต้องการให้กนป. ยกเลิกมติเดิมที่ให้ตรึงราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในราคา 47 บาท นานถึง 3 เดือน หรือสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ก่อน หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำน้ำมันพืชถึงจะเรียกประชุมเพื่อทบทวนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้
“กรณีที่นายสุเทพระบุว่า กระทรวงพาณิชย์สามารถปรับลดราคาน้ำมันปาล์มได้เลยนั้น เป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน แม้กระทรวงฯ จะมีอำนาจตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ทบทวนราคาได้ทันที แต่เมื่อมติกนป. ให้คงราคาน้ำมันปาล์มไว้ 3 เดือน ก็ต้องให้ยกเลิกมตินี้ก่อน เพราะคงฝ่าฝืนมติของกนป.ไม่ได้ เมื่อยกเลิกแล้ว ถึงจะมาทบทวนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอีกครั้ง ซึ่งจะลดลงเท่าไรขึ้นอยู่กับการพิจารณา”นางพรทิวากล่าว
ทั้งนี้ หนังสือที่จะทำถึงกนป. จะให้กรมการค้าภายในสรุปสถานการณ์ราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มที่จำหน่ายในท้องตลาด เพื่อให้กนป.พิจารณา เพราะจากการสอบถามไปยังสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย พบว่าราคาน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่ปรับลดลงมามาก เนื่องจากผลผลิตล้นตลาด ขณะที่ราคาจำหน่ายปลีกในท้องตลาดและห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก ราคาส่วนใหญ่ได้ปรับลดลง ขายต่ำกว่าราคาควบคุมที่ 47 บาท โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 44 บาท
นางพรทิวากล่าวว่า ส่วนการจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำมันปาล์มให้กับผู้สกัดและโรงกลั่น ที่ผ่านมา มีคณะกรรมการตรวจสอบการจ่ายเงินอย่างตรงไปตรงมา หากโรงสกัดและโรงกลั่นดำเนินการอย่างถูกต้อง คือรับซื้อผลปาล์มสดกับเกษตรกรตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดให้ คือ 6 บาท/กก. กรรมการฯ ก็จะจ่ายเงิน แต่หากไม่ถูกต้อง ก็ต้องระงับ เพราะเป็นงบประมาณแผ่นดิน ถือเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
ก่อนหน้านี้ นางพรทิวาได้ออกมาระบุว่าจะเสนอให้กนป. ทบทวนมติยืนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไว้ที่ 47 บาท โดยต้องการให้ปรับลดลงมา 5 บาท เหลือ 42 บาท หลังจากราคาผลปาล์มดิบในตลาดปรับลดลงเหลือเพียงกก.ละ 4-5 บาทเท่านั้น ประกอบกับขณะนี้มีผลผลิตออกมาเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแล้ว
รายงานข่าวทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า กรมการค้าภายในได้นำเรื่องน้ำมันปาล์มเสนอถึงสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะเลขาธิการกนป. แล้ว และสศก.ได้ทำหนังสือถึงนายสุเทพแล้วเช่นเดียวกัน แต่จะเรียกประชุมเมื่อไรขึ้นอยู่กับนายสุเทพกำหนด โดยวาระการพิจารณาจะรายงานผลการแทรกแซงราคาปาล์มช่วงที่ผ่านมาให้รับทราบ รวมถึงประเมินสถานการณ์ปาล์มปัจจุบันว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือยัง
ทั้งนี้ หากที่ประชุมเห็นว่าสถานการณ์เป็นปกติ ก็จะให้ทบทวนมาตรการแทรกแซง ด้วยการยกเลิกจ่ายเงินชดเชยให้โรงสกัดกก.ละ 1.79 บาท เพื่อให้ไปรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคากก. 6 บาท เพื่อปล่อยให้ราคาปาล์มเป็นไปตามกลไกตลาด โดยขณะนี้ถือว่าราคาปาล์มอยู่ในภาวะปกติ ไม่เกิดปัญหาขาดแคลนและแพงเหมือนที่ผ่านมา
ส่วนการปรับพิจารณาลดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดลงจาก 47 บาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ อาจต้องพิจารณาครั้งถัดไป เพราะต้องรอให้มีการยกเลิกการแทรกแซงและให้ราคาเป็นไปตามกลไกปกติเสียก่อน และจากนั้นถึงจะประเมินราคาผลปาล์ม ต้นทุน ก่อนที่จะพิจารณาปรับลดราคา แต่ขณะนี้ราคาผลปาล์มเฉลี่ย 4-5 บาท และน้ำมันปาล์มยังเฉลี่ย กก.ละ 34-36 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาขายที่กำหนดไว้ขวดลิตรละ 47 บาท