ภูมิใจห้อยสะกิดขอร่วมพท. หน้าแหก"ปู"ตะเพิด! เทือกปัดตั้งรบ.ในค่ายทหาร

ASTVผู้จัดการรายวัน - “น้องปู” ดับฝัน ”พี่ห้อย” ย้ำขอยึดแถลงการณ์เพื่อไทยไม่ร่วมงานภูมิใจไทย หลัง “ปู่จิ้น” อ้อนการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร พร้อมอ้าง ตปท.ห่วงเพื่อแม้วชนะวุ่นซ้ำรอย "สมัคร-สมชาย" ด้าน “เสธ.หนั่น” อ้างคนไทยมีเมตตา ย้ำนิรโทษต้องดูจังหวะ “มาร์ค” สวนนิรโทษไม่ใช่ “เรื่องให้อภัย” "เทือก" เฉไฉไม่มีตั้งรัฐบาลในค่ายทหารมีแต่ในสภา

เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้ (12 มิ.ย.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างหาเสียงช่วยผู้สมัครเขต กทม.ถึงการจับมือทำงานระหว่าเพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย มีโอกาสหรือไม่ ว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้และไม่มีศัตรูถาวร” คำพูดอันนี้ยังใช้ได้อยู่ต้องดูความจำเป็น อะไรที่ทำให้บ้านเมืองสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง เราคิดว่าเป็นเป้าหมายที่เราจะเดินไปหา ทั้งนี้ เงื่อนไขการปรองดองเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการพิจารณาร่วมรัฐบาล ถ้าขาดความปรองดองมีความขัดแย้งตลอดเวลาก็ไม่ดี

เมื่อถามย้ำว่า ที่ระบุว่าไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรทางการเมือง แต่เพื่อไทยประกาศจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทย นายชวรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคที่พูด คนที่หาเสียงอาจถือเป็นจุดขายของเขาก็ได้ เราไม่ถือเป็นสาระสำคัญ เมือใดหัวหน้าพรรคมานั่งคุยกัน สิ่งนั้นคือสาระ

นายชวรัตน์ยังกล่าวถึงกรณีทูตหลายประเทศรวมตัวกันตั้งวอร์รูม เพื่อติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทย โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า "เฟรนด์ ออฟ ไทยแลนด์" (เอฟโอที) และใช้บ้านพักของเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยเป็นสถานที่ และมีความกังวลหากพรรคเพื่อไทย(พท.)สถานการณ์จะเหมือนรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช กับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นแนวคิดของทูตที่เป็นบุคคลที่ 3 ดังนั้น ภท.ไม่อยากวิจารณ์เรื่องนั้น อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ถือเป็นบวก เพราะเป็นการวิจารณ์จากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องการเมืองของประเทศไทย เมื่อเขาสังเกตดูสถานการณ์ เราก็ควรรับฟังไว้ ส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์เรื่องอำนาจนอกระบบหลังการเลือกตั้งนั้น เรื่องนี้คงไม่มีอะไร

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษก ภท. กล่าวว่า กลุ่มทูต ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า "เฟรนด์ ออฟ ไทยแลนด์" ได้เชิญกลุ่มนักการเมืองเขาไปพูดคุยทุกพรรค ทราบว่านายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท.ก็ไป แต่ที่ทูตนอร์เวย์ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องที่ประชาชน และนักการเมืองควรพึงสังวร ไว้ นั้นคือการสะท้อนมาจากข้างนอก เขามองเราอย่างนั้น ดังนั้นเราเองต้องร่วมกันทำอย่างไรที่ลดภาพความขัดแย้ง หากจะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปเพื่อให้ต่างชาติยอมรับ

"วันนี้ใครก็ทำนายได้ ในที่สุดแล้วอย่างท่านสมัคร เป็นนอมินี บ้านเมืองก็ไปไม่รอด ท่านสมชาย ที่เป็นครอบครัวก็ไม่รอด ยิ่งคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเองที่บอกว่าเป็นโคลนนิ่ง เหมือนท่านทักษิณ ดังนั้นวิธีการหาเสียงก็ให้เบาลงหน่อย จะทำให้บรรยากาศดีขึ้นได้ แต่ว่าอนาคตเรื่องใครจะมานำพาประเทศนี้ต่อไป ผมว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสิน อำนาจนอกระบบคงไม่สำคัญหรอก แต่สิ่งที่สำคัญตัดสินใจแล้วทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ เป็นสิ่งที่นักการเมืองทุกคนต้องการ" นายศุภชัย ระบุ

** “ปู”ดับฝันยึดแถลงการณ์เพื่อไทย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชวรัตน์ ชระบุว่าการจัดตั้งรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคจะคุยกัน ว่า วันนี้ยังพรรคเพื่อไทยยังขอยึดจุดยืนเดิมของพรรค ที่มีแถลงการณ์ตามที่หัวหน้าพรรคได้ลงนามไปแล้ว ว่าอุดมการณ์และแนวทางของพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่ตรงกัน ส่วนกรณีที่นายชวรัตน์ ระบุว่า มติของพรรคภูมิใจไทย ที่จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้นั้น ไม่ใช่มติของหัวหน้าพรรค ถือว่าเป็นการแสดงการที่เข้าร่วมรัฐบาล เหมือนกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ พรรคเพื่อไทยคงจะต้องขอยึดจุดยืน คือตามที่มีแถลงการณ์ ที่ลงนามโดยหัวหน้าพรรคก่อน

**ดักคอพรรคที่แพ้ต้องเคารพเสียงปชช.

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงการที่ทูตหลายประเทศ สอบถามสมาชิกพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล และหลังการตั้งรัฐบาลอาจมีปัญหาเกิดขึ้น คล้ายกรณีรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้น ต้องขอบคุณท่านทูตต่างๆ ที่ซักถาม ตนขอเรียนว่า พรรคเพื่อไทยอยากเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม และความสนใจของทูตและสื่อต่างประเทศ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้ การเลือกตั้งเที่ยงธรรม และ เมื่อประชาชนตัดสินแล้ว ทุกฝ่ายต้องเคารพการตัดสินชี้ขาดของประชาชน

ส่วนประเด็นปัญหาที่อาจเกิด หรือไม่เกิด หลังจากการตั้งรัฐบาลนั้น ล้วนเป็นการคาดการณ์ทั้งสิ้น พรรคเพื่อไทยเชื่อว่า ถ้าเราเคารพกติกาประชาธิปไตย และเคารพการตัดสินใจของประชาชน ปัญหาคงจะไม่เกิด รัฐบาลควรมีความมั่นคงและทำงานให้ประชาชนได้ เพราะถ้าเราไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง และป่วนไม่เลิก ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ก็ทำงานไม่ได้ทั้งนั้น ดังนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ แต่ประเด็นอยู่ที่ทุกฝ่ายเคารพผลเลือกตั้ง ที่ประชาชนชี้ขาดแล้วหรือไม่มากกว่า

“ต้องยอมรับว่าทูตหลายประเทศมาจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตย และการยอมรับผลของการเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติธรรมดา ประเทศไทยกำลังเดินสู่จุดนั้น ถึงเวลาแล้วที่คนไทยบางกลุ่มต้องเรียนรู้ที่จะเคารพเสียงของประชาชน แล้วบ้านเมืองก็จะเดินไปได้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม” นายนพดล กล่าว

**“มาร์ค”เล็งหารือ“ปรองดอง”เป็นการภายใน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ที่จ.สมุทรสาคร ถึงกล่าวกรณีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ให้มาคุยเรื่องปรองดองหลังการเลือกตั้งว่า ตนยังไม่ค่อยแน่ใจว่าพล.ต.สนั่นหมายถึงอะไรอย่างไร แต่คิดว่าถ้าอยากจะคุยจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรอหลังการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าจะส่งเทียบเชิญไปยังทุกพรรคการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะลองหารือกันเป็นการภายในกับหลายๆฝ่ายก่อน ว่าพร้อมกันแค่ไหน ส่วนที่พล.ต.สนั่นบอกว่าคนไทยจะให้อภัยเรื่องนิรโทษกรรมเพราะคิดว่าคนไทยให้อภัยได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องการให้อภัยเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของคนไทย แต่คิดว่าการให้อภัยจะเกิดขึ้นจากคนที่สำนึกผิด ถ้ายอมรับผิดและสำนึกผิดก็จะเป็นเรื่องของการให้อภัย ตนว่าอันนั้นเป็นเรื่องปกติในสังคม

**นิรโทษกรรมไม่ใช่ “เรื่องให้อภัย”

เมื่อถามว่าถ้าเขายังไม่มาถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่มีการนิรโทษกรรมแล้วขอการให้อภัยจากประชาชนแบบประชามติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การนิรโทษกรรมมันคงไม่ใช่เรื่องอภัย เพราะเรื่องอภัยต้องอภัยโทษ

“หลักของการให้อภัยก็คือถ้าเป็นกรณีอย่างนี้ต้องเป็นเรื่องของการอภัยโทษ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับผิดหรือว่าได้รับการลงโทษ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

**ยันไม่มีมือพิเศษช่วยตั้งรัฐบาล.

เมื่อถามย้ำว่าเขาคงจะใช้แนวทางขอประชามติจากประชาชนเพื่อให้เกิดการนิรโทษกรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าวันที่ 3 ก.ค. ประชาชนจะต้องตัดสินใจว่าจะให้ประเทศชาติเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ที่จะกลายเป็นประเด็นใหญ่ ต้องมีการประชามติทั้งประเทศเพื่อดูว่าจะสามารถล้างความผิดให้กับคน ในขณะที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ปัญหาอื่นๆที่อยู่ในใจของเขามากกว่า เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่าทักษิณบอกว่าจะเข้าประเทศในเดือนพ.ย.เพื่อให้กระบวนการล้างความผิดเสร็จสิ้นก่อนหรือไม่ ถึงวางแผนไว้แบบนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะเป็นแบบนั้น เพราะปกติสามารถกลับมาได้อยู่แล้ว ถ้าพร้อมกลับมารับโทษ

เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่ามีเรื่องของมือพิเศษ หรือมือที่มองไม่เห็นมาช่วยในการตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เห็นมี เห็นเมื่อเช้าก็ไม่มีใครติดใจอะไร มีการพูดคุยกันในส่วนของสองพรรคที่มีการติดต่อกัน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่มีมือพิเศษ มีแต่มือของประชาชนที่ต้องเลือกในวันที่ 3 ก.ค.เลือกว่าจะเดินหน้าประเทศไทยเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาของประชาชน หรือเลือกพรรคการเมืองที่สนใจเรื่องของปัญหานักการเมืองอย่างคุณทักษิณมากกว่า

เมื่อถามว่าพล.ต.สนั่นระบุว่าจะไม่ยอมให้ตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีกแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก รัฐบาลต้องตั้งในสภาอยู่แล้ว เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีรัฐบาลไปตั้งในค่ายทหารตามที่พล.ต.สนั่นระบุหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มี

“ผมเองผมก็จำได้ว่าก่อนที่จะมีเลือกนายกฯครั้งที่แล้ว ท่านก็คุยกับผมดี ไม่เห็นมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามถึงโพลล์ยังระบุว่าพรรคเพื่อไทยนำพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงโค้งสุดท้าย ยังเหลืออีกตั้ง 20 กว่าวัน ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่ากรุงเทพโพลล์ระบุว่าปชป.ยังตามหลังเพื่อไทยในสนามกทม. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “กรุงเทพโพลล์รู้สึกว่าโนโหวตนำนี่ครับ”

ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัครสส.เขต2 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนยังไม่ทราบโพลล์ล่าสุดที่ระบุว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนความนิยมนำพรรคเพื่อไทย และไม่ทราบว่ามีปัจจัยใดที่ทำให้ผลโพลล์เปลี่ยน แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะขณะนี้ประชาชนเริ่มเข้าใจและเข้าถึงข้อมูล ข้อเท็จจริงมากขึ้นจากการลงพื้นที่ของบรรดาผู้สมัครพรรค ขณะเดียวกันตนไม่รู้สึกหวั่นไหวที่นิด้าออกมาระบุว่าประชาชนพร้อมเปิดรับ นายกรัฐมนตรีหญิง เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ ไม่ว่าหญิงหรือชายก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่เป็นปัญหาแต่สิ่งสำคัญจะต้องทำงานเป็นบริหารประเทศได้

** ปัดไม่เคยจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร

นายสุเทพ ยังกล่าวปฎิเสธว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ไม่เคยจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และมองว่าพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่จำเป็นต้องออกมาประกาศ เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งคือการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยสมาชิกส.ส.ผู้โหวตเลือกจากนั้นจึงเป็นการรวมตัวจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล

นายสุเทพ ยังกล่าวตำหนิการกระทำของพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงขึ้น ซึ่งไม่ได้กระทบอะไรกับฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ หรือการหาเสียงเลือกตั้ง แต่จะทำให้เกิดความแตกแยกและความขัดแย้งกันมากขึ้น ซึ่งขัดต่อคำพูดของเพื่อไทยเองที่ต้องการสร้างความปองดอง แต่ทั้งนี้ก็เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวประชาชนจะเห็นธาตุแท้ของเพื่อไทยเอง

**ปชป.ชี้ พท.ทำ ปชช.เข้าใจผิด

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคเพื่อไทยสร้างความสับสนให้กับการปองดอง โดยเฉพาะการที่นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมหากได้เป็นรัฐบาล ยิ่งตอกย้ำว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับอานิสงค์นี้ ถือเป็นการฉวยโอกาสประชาชน ที่ต้องการความปองดอง

ในทางกลับกัน หากคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่รับโทษจากการกระทำผิด บ้านเมืองจะสงบได้อย่างไร โดยเฉพาะบทสัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ในสื่อต่างชาติ ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาคมโลก หากเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล อาจเกิดความวุ่นวายซ้ำรอยอย่างที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชายก็ได้

"ตอนที่นางยิ่งลักษณ์ ลงพื้นที่ช่วยนายชัยสิทธิ์ ชินวัตร หาเสียง และได้กล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรม ต้องให้ประชาชนตัดสิน ยิ่งตอกย้ำว่า ผูกวาระของครอบครัวชินวัตรให้เข้ากับวาระของประเทศ " นพ.บุรณัชย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ หากพรรคใดจะร่วมแสดงความเห็น ทางประชาธิปัตย์ก็ยินดี เนื่องจากประชาชน มีสิทธิ์ได้รับรายละเอียดในเรื่องราว

** “สนั่น” ชี้นิรโทษดูจังหวะอ้างคนไทยมีเมตตา

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การนิรโทษกรรมยังไม่มีการพูดถึง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เพราะเป็นช่วงการเลือกตั้ง เรื่องการนิรโทษกรรมมีคนทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ส่วนหากพรรคเพื่อไทยขอให้พรรคชาติไทยพัฒนาเข้าร่วม โดยมีข้อแม้เรื่องนิรโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า จะต้องคุยกัน พรรคชาติไทยพัฒนาจะต้องมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ดูเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ใครชวนก็ไปเลย มันจะทำให้รัฐบาลไม่มีความมั่นคง

ส่วนจะเป็นไปได้หรือที่จะมีการนิรโทษกรรมทักษิณ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนไม่อยากตอบคนเดียว รอให้ถึงเวลานั้นก่อน ว่ามติพรรคชาติไทยพัฒนาออกมาเป็นอย่างไร นิรโทษกรรมก็คงลำบาก เพราะมีฝ่ายที่ต้านเยอะ อยากจะให้ประเทศเราเป็นนิติรัฐบาล

"จะนิรโทษกรรมให้กับทักษิณ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ต้องดูจังหวะเวลา คนไทยมีนิสัยให้อภัย มีเมตตาธรรม ก็เป็นไปได้ นานๆ เชื่อว่าจะให้อภัย"พล.ต.สนั่น กล่าว

**ยิ่งลักษณ์เล็งปรับกลยุทธ์หาเสียงอีสาน

อีกด้านในการลงพื้นที่หาเสียงให้กับผู้สมัครของ 2 พรรคใหญ่นั้น เวลา 11.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย เดินทางไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.เชียงราย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวก่อนออกเดินทางไปหาเสียงที่ จ.เชียงราย ถึงโพลล่าสุด ที่ระบุว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้นในแถบภาคอีสาน ถือเป็นโพลเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการสำรวจเบื้องต้น ทั้งนี้ ยังเหลือเวลาลงพื้นที่อีก 3 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง โดยต้องมีการปรับกลยุทธ์บ้างในการช่วยเหลือผู้สมัคร ซึ่งจะเจาะแต่ละเขตตามจังหวัดต่างๆ ต้องใช้เวลาพอสมควร

ทั้งนี้ยอมรับว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้ส่งผลกระทบกับพรรคเพื่อไทย เพียงแต่ต้องการขอให้เจ้าหน้าที่มีความเป็นกลาง เพื่อความเสมอภาคของแต่ละพรรคการเมือง

อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารนั้น เป็นการส่งสัญญาณใดให้กับพรรคเพื่อไทย เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังพอมีเวลา ขอให้ผลการเลือกตั้งออกมาก่อน

**จี้ผบ.ชี้แจงเหตุโยกย้าย"ผกก.สภ.แม่ริม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีการโยกย้าย ผกก.สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ตนไม่ขอก้าวก่าย แต่ขอแค่อยากเห็นความยุติธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง เพราะตนอยากให้ข้าราชการมีกำลังใจ ส่วนจะเป็นผลมาจากการเมืองในพื้นที่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงต้องดูว่ามีเหตุผลอะไรในการโยกย้าย อย่างไรก็ตาม เห็นว่าผู้บังคับบัญชาควรที่จะชี้แจงกรณีดังกล่าวให้สังคมได้รับรู้ด้วย

**เพื่อไทยชูสร้างสะพานเชื่อมไทย-ลาว

ที่โรงเรียนบ้านป่ามื่น ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย น.ส.ยิ่งลักษณฯ ได้ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครส.ส.เชียงราย เขต 4 พรรคเพื่อไทย โดยมีแกนนำเสื้อแดง และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร่วมปราศรัยด้วย จากนั้นเวลา 14.00 น. ได้ไปปราศรัยที่โรงเรียนบุญเรืองวิทยาคม อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อช่วยหาเสียงให้ ผู้สมัครส.ส.เชียงราย เขต 5 พรรคเพื่อไทย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ปราศรัยระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงที่ โรงเรียน บุญเรืองวิทยาคม อ.เชียงของ จ.เชียงรายว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาลจะเร่งสร้างสะพานเชื่อม เชียงของกับประเทศลาว เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวสบายในการซื้อขายสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งโครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เสร็จ นอกจานกี้โครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะสร้างจาก กทม. มายังเชียงใหม่ หากพรรคได้เป็นรัฐบาล ก็จะเชื่อมต่อมาที่ จ.เขียงรายด้วย

สำหรับการปราศรัยครั้งนี้ แตกต่างไปจากเดิม โดยมีลีลาการพูดที่ค่อนข้างดุดัน และเน้นการปราศรัยเป็นภาษาพื้นบ้านมากกว่า ภาษากลางเหมือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังสวมสายรัดข้อมือซีแบนด์ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง ตลอดการเดินทางโดยระบุว่า สามารถช่วยลดอาการเมารถได้ เพราะมีลักษณะคล้ายกับการสะกดจุด นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเปิดตัวเสื้อหาเสียงที่มีรูปการ์ตูนของนางสาวยิ่งลักษณ์แบบใหม่ด้วย โดยเป็นรูปการ์ตูน ของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ชูเบอร์1ยืน ข้างหมายเลข 1 ขนาดใหญ่ที่หลังเสื้อ และปักอักษรข้อความสีแดง ที่หน้าอกซ้ายว่า "ยิ่งลักษณ์"

นอกจากหาเสียงตั้งแต่ ที่โรงเรียนบ้านป่ามื่น ตำบลปล้อง อำเภอเทิง ที่ตลาดอำเภอเชียง โรงเรียนบุญเรืองวิทยาคม อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ที่โรงเรียนบ้านแม่ฮ่าง ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แล้ว เมื่อปราศรัยในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เสร็จสิ้น ก็จะลงพื้นที่หาเสียงในภาคอีสานตอนใต้ต่อทันที

**มาร์ค เจอแดง “สมุทรสาคร”ถล่มยับ

อีกด้านนายอภิสิทธิ์ และคณะได้ลงพื้นที่ บริเวณตลาดสดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อหาเสียงช่วย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สมุทรสาคร โดยมีผู้สนบสนุนให้การต้อนรับอย่างดี

อย่างไรก็ตามขณะนั้นกลับมีการปะทะคารมกันระหว่างกลุ่มเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มที่เชียร์พรรคเพื่อไทย โดยฝ่ายเพือ่ไทย มีการชูป้าย “นายกฯ ดีแต่พูด” ,” นายกฯดีแต่กู้” พร้อมตะโกนว่า “เบอร์ 1ๆๆ” บรรดาแม่ค้าที่เชียร์ปชป. ก็ตะโกนกลับไปว่า “เบอร์10 ๆๆๆๆ ” จนกลุ่มสนับสนุนพรรคเพื่อไทยล่าถอยออกไป เนื่องจากคนน้อยกว่า

** แขวะ!เสื้อแดงชูป้ายไม่มีลูกเรียนฟรี

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยว่า พี่ผู้ชายที่มายกป้าย ดีแต่พูด เข้าใจว่าคงไม่มีลูก เลยไม่ได้เรียนฟรี และไม่ทราบว่ามีคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย หรือเปล่า เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ ให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุครบถ้วนทุกคนแล้ว และพี่เขาคงไม่มีญาติอยู่ต่างจังหวัด เลยไม่ทราบว่า เกษตรกรทั่วประเทศมีโอกาสได้เงินส่วนต่างจากรัฐบาลในโครงการประกันรายได้เกษตรกรเป็นครั้งแรก จนปลดหนี้ไปได้จำนวนมากแล้ว พี่เขาคงไม่รู้จักคนที่เป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งมาขึ้นทะเบียนปรับโครงสร้างหนี้จนกระทั่งปลดหนี้ไปได้อีก 4 แสนคนทั่วประเทศแล้ว อยากจะบอกว่า สิ่งที่เราได้เคยพูดไว้ เราได้ทำแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยอยู่ ชายที่ชูป้าย ดีแต่พูด ได้ตะโกนสวนไปว่า เรียนฟรียังไงยังเสียตังอยู่เลย ขี้โม้ จากนนั้นก็เอาป้ายลงแล้วบอกว่า เรายอมรับ เราจะไม่ต่อต้าน

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังหมูบ้านสิวารัตน์ 3 โดยขึ้นรถหาเสียง เข้าไปในหมู่บ้าน มีผู้สนีบสนุนให้กำลังใจตลอดทาง

ทั้งนี้ระหว่างทาง ได้มีชายวัยกลางคนสวมเสื้อสีแดง ขี่มอเตอร์ไซค์ ติดธงแดงที่มีข้อความว่า “ทักษิณ ชินวัตร นายกฯของเรา” , “ใช่ กูรักเสธ.แดง” พร้อมกับติดสติกเกอร์ข้างรถว่า “ใครเอ่ย ดีแต่พูด โหวต Yes ” ส่วนด้านหน้ารถติดข้อความว่า “ไพร่” โดยขับโฉบด้านหน้าของขบวนรถนายอภิสิทธิ์

ทั้งนี้คณะปชป.ได้หาเสียง ต่อเนื่องตั้งแต่ที่ตลาดกระทุ่มแบน เทศบาลเมืองจังหวัดสมุทรสาคร เทศบาลอ้อมน้อย ตลาดเก้าแสน ตลาดสินสมบูรณ์ และตลาดสมบูรณ์ ริมคลองชักพระ จากท่าน้ำวัดช่างเหล็ก ถึงตลาดน้ำตลิ่งชัน ชูนโยบายสร้างงาน สร้างอาชีพ ฝั่งธน ตลาดน้ำไทย สู่ตลาดน้ำโลก.