xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” เมินผลสำรวจ เหน็บ “กรุงเทพโพลล์” ทำเมื่อไหร่ก็แพ้ตลอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
“มาร์ค” ไม่สนเพื่อแม้วยื่น กกต.เล่นงาน “เทพเทือก” ยันพูดควรมจริงไม่ใส่ร้ายใคร โว ปชป.ไม่อีแอบ เอาผู้บริหารพรรคตัวจริงมาเป็นกรรมการบริหารพรรค แขวะเพื่อไทยให้ผู้มีบทบาทแอบอยู่เบื้องหลัง หวังใช้แง่กฎหมายเล่นงานคู่ต่อสู้ ไม่เชื่อโพล ปชป.แพ้เลือกตั้ง เหน็บ กรุงเทพโพลล์ ทำสำรวจทีไร “อภิสิทธิ์” ตกตลอด ย้ำ หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะเอาคณะกรรมการชุด “อานันท์-คณิต” กลับมาทำงานต่อ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงใกล้กับการเลือกตั้ง ว่า ให้ทางเจ้าหน้าที่เป็นผู้ชี้แจง ซึ่งเราก็ได้กำชับไปตลอดทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็คงต้องช่วยดูแล เพราะเราต้องการให้การเลือกตั้งมันเรียบร้อย ต้องยอมรับว่ามักจะมีการเคลื่อนไหวแบบนี้และบางทีเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเมืองบ้างและไม่เกี่ยวบ้าง ก็อาจจะนำมาโยงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการกำชับลูกพรรคให้มีความระมัดระวังอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนก็ระมัดระวังอยู่แล้ว ในส่วนของตำรวจตนได้สั่งกำชับให้ดูแลทุกด้าน เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีได้มีการปรับทีมรักษาความปลอดภัยใหม่ทั้งชุด มีความมั่นใจแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางตำรวจได้แสดงความพร้อมมาตลอดในเรื่องการดูแลผู้สมัครทุกพรรคการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงเรื่องการพูดจาใส่ร้ายป้ายสี หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยได้มีการไปยื่นเรื่องกับทาง กกต. ให้พิจารณาในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็น ตนคิดว่าสิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หรือท่านใดที่พูดไป ก็พูดไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏแต่ก็เป็นความพยายามของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตนเรียนว่า พรรคประชาธิปัตย์เราโปร่งใส เพราะเราก็เอาผู้บริหารตัวจริง เป็นกรรมการบริหารพรรค เปิดเผยทุกอย่าง ตรงไปตรงมา แต่พรรคเพื่อไทยเอง คนที่มีบทบาททั้งหลายก็ไม่มาเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็พยายามที่จะเอาเงื่อนไข กฎหมายต่างๆ มาเล่นกัน ตนคิดว่าไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไหร่

ส่วนถึงขั้นมีการไปขู่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ในการออกหมายเรียกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากจะย้ำว่า พรรคการเมืองน่าจะมาสนใจเรื่องปัญหาของประชาชน แต่ขณะนี้พยายามที่จะใช้วิธีการในการก้าวล่วงการทำหน้าที่ของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าขณะที่พรรคเพื่อไทยเคยโวยวายว่าจะมีการกระทำที่เอารัดเอาเปรียบกัน ซึ่งความจริงไม่มี รัฐบาลมีมติชัดเจน มีการออกข้อปฏิบัติที่ชัดเจน แต่กลายเป็นว่าการคุกคามเกิดขึ้นจากอีกทางหนึ่งมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า การคุกคามข้าราชการโดยฝ่ายพรรคการเมือง ผิดกฎหมายเลือกตั้ง หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องให้ทาง กกต.เป็นผู้วินิจฉัย อย่าให้ตนวินิจฉัยเลย ตนขอย้ำอีกครั้งว่าทาง กกต.ได้ย้ำกับตน เวลาที่ไปประชุมว่าอยากให้การเลือกตั้งเป็นลักษณะสร้างสรรค์ สมานฉันท์ มีการให้ตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ลงนามในพันธสัญญาต่างๆ ตนคิดว่าท่านก็คงพยายามทำให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ตรงนั้น

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตนเองจะปรองดอง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ขู่ว่าจะล้มคดีที่นายธาริตทำ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนต้องมองเห็นว่าสุดท้ายตรงนี้เป็นเรื่องปรองดองหรือเรื่องอะไรกันแน่ เมื่อถามว่าคิดว่าการเมืองในบ้านเราจะหยุดกล่าวร้าย โจมตี เช่น พรรคเพื่อไทยกล่าวร้ายพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวร้ายพรรคเพื่อไทยกันไปมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวถามกลับว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ไปกล่าวร้ายเรื่องอะไร ก็ไม่มีหรอก ไม่มีอะไร เราได้เอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน การที่มีการโต้แย้งกันบ้างในทางการเมืองก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าทำนอกรูปแบบ อย่าใช้วิธีการที่ให้เกิดความไม่มีเสรีภาพในการทำงานของแต่ละฝ่าย

ต่อข้อถามว่า เรื่องการเมืองเราสู่จุดที่ทำให้เกิดความสร้างสรรค์ได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนพยายามหาเสียงในเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบาย แต่ว่าพรรคเพื่อไทยจุดประเด็นเหล่านี้มาโดยตลอด เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ถ้ามีการเปลี่ยนอำนาจ ความจริงของเหตุการณ์ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงไม่มีทางเปลี่ยน และตนอยากจะบอกว่าคนที่อยากจะเปลี่ยนความจริงก็เปลี่ยนไม่ได้ และสุดท้ายสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ที่จะนำไปสู่การปรองดองถ้าจะค้นหากันเรื่องของความจริง ก็ต้องให้คนที่มีความเป็นกลางมาเป็นผู้ทำหน้าที่ ถ้าหากแต่ละฝ่ายพยายามที่จะมาเจาะจงว่าความจริงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง มันไม่มีวันจบ จึงเป็นการยืนยันสิ่งที่ตนพูดว่าดีที่สุดขณะนี้พรรคการเมืองควรให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหายาเสพติด ปัญหานโยบาย ส่วนเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง กลไกต่างๆ นั้นมีอยู่ ให้กลไกเหล่านั้นเดินดีที่สุด เพราะเขาไม่มีส่วนได้เสีย

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทย เคยระบุว่าจะยกเลิกคณะกรรมการชุดของนายคณิต ณ นคร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อะไรที่ไม่ถูกใจ เขาก็จะเล่นงานตลอด ตนก็ยังไม่เข้าใจว่า นี่เป็นการปรองดองสูตรไหน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการทำผลสำรวจความคิดเห็นของกรุงเทพโพลล์ ว่า ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะคนเกือบครึ่งหนึ่งยังไม่ได้ตัดสินใจ เมื่อถามว่า กระแสของโพลล์จะมีส่วนโน้มน้าวเรื่องการเลือกตั้งของประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่หรอก ตนไม่คิดว่าประชาชนจะไปเลือกตามโพลล์ โพลล์ต้องเป็นตัววัด สิ่งที่เป็นความคิดเห็นของประชาชน เพราะแต่ละคนก็มีดุลพินิจ และในช่วงสุดท้ายตามกฎหมายก็ไม่ให้ต้องเผยแพร่อยู่แล้ว

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ถ้าหากได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งจะให้คณะกรรมการชุดของ นายอานันท์ ปันยารชุน กลับเข้ามาทำงานอีกครั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายอานันท์ บอกว่า ท่านทราบดีว่างานตามระเบียบสำนักนายกฯ เป็นงานที่ต่อเนื่อง และท่านก็บอกว่าท่านกับคณะทำงาน ต้องการเปิดโอกาสให้กับคนที่มาเป็นรัฐบาลได้มีโอกาสในการตัดสินใจว่าจะให้ใครมาทำงานตรงนี้ ตนได้บอกว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เราชัดเจนว่า ถ้ากลับมาจะให้คณะกรรมการชุดนี้ทำต่อ เพราะว่าได้เริ่มต้นงานมาแล้ว และข้อเสนอหลายอย่างก็เป็นข้อเสนอที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง ถ้าไปเปลี่ยนชุดตนก็เห็นว่ามันก็อาจจะทำให้งานหลายอย่างสะดุดได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลใหม่ไม่ว่าจะเป็นใคร ควรจะให้คณะกรรมการชุดนายคณิต ทำงานต่อด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ครับ ตนเห็นว่าทุกชุด และนี่คือ แนวทางปรองดองที่ตนคิดว่ามันเป็นจริงได้มากที่สุดก็คือความต่อเนื่องของคนที่จะพิสูจน์ตนเองว่าเขาไม่มีส่วนได้เสียอะไร และจะมีข้อเสนอที่สร้างสรรค์ สำหรับเรื่องของการปรองดอง

ต่อข้อถามว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี บอกข้อแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างตนเองกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีเวลาอีก 10 วัน เมื่อถามว่า จุดอะไรที่ทำให้ผลสำรวจความเห็นที่ออกมาทุกครั้ง พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ตลอดอย่างไร เอแบคโพลล์ก็บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์นำ ตนคิดว่าไม่หรอกครับ สลับไปสลับมา

“ผมขอเรียนว่า เรื่องโพลสลับกันไปมา เพียงแต่ว่าคนสรุปโพล ผมก็ยังงงอยู่ อย่างวันที่พลาดหัวกันก็บอกว่า คุณยิ่งลักษณ์ มีคะแนนพุ่งแรง เขาก็ชนะผมอยู่ตัวเดียวเหมือนเดิม ก็คือ รวยกว่าผม นอกนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันจากรอบแรกเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าเขาเพิ่มขึ้น ก็เปิดตัวก็เท่านั้นเอง ซึ่งก็มีทั้งที่นำแล้วตาม”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีจุดอะไรที่ทำให้ตามกันตลอด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันตลอดอย่างไรในเมื่อนำมีอยู่หลายโพลล์ กับ ดุสิตโพล และ เอแบคโพลล์ ซึ่งเวลาก็ใกล้เคียงกัน และเวลานำกันก็เพียงแค่ 4-5% ก็มีปัญหาในเรื่องของนัยยะสถิติ ซึ่งได้พูดแล้ว แล้วก็ตรงกับข้อมูลที่ตนเห็นมาจากทุกสำนัก ก็มีเพียงแต่โพลล์ของพรรคเพื่อไทยมีบอกว่าได้เกินครึ่ง และถามว่า มีโพลอื่นๆ ไหมที่ยืนยันว่าเขาได้เกินครึ่ง

“อย่าง กรุงเทพโพลล์ ให้ไปดูตัวเลขว่ามันยังบอกอะไรไม่ได้เลย เพราะคะแนนคนหนึ่งได้ 20 กว่า คนหนึ่งได้ 10 กว่า มันยังไม่ได้บอกอะไรเลย ยังมีคนที่บอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ 40-50% และจริงๆ กรุงเทพโพลล์ ผมก็สอบตกมาตลอด 2 ปี” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนที่ พรรคเพื่อไทย ทำโพลได้ ส.ส.270 คน แล้วทางพรรคประชาธิปัตย์จะทำบ้างหรือไม่ว่าทางพรรคจะได้ที่นั่งเท่าไหร่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อ เพราะไม่มีโพลไหน ที่ไปยืนยันตัวเลข บอกว่า ชนะแล้วมาเรียกร้องเรื่องการลงสัตยาบัน เรียกร้องเรื่องพรรคร่วมทำไม ถ้าได้ 270 ก็ไม่ต้องคิดแล้ว เมื่อถามว่าแล้วความรวย มันจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์แพ้ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ความรวยไม่ทำอะไร แต่ความจนมันจะทำให้แพ้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทย โหมกระแสนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก นายกรัฐมนตรีจะแก้ทางอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำเขาคาดหวังจะเป็นอย่างไร วันนี้ปัญหาไม่ใช่เรื่องผู้หญิงหรือผู้ชาย ปัญหาคือใครจะเข้ามาทำอะไร มีความพร้อมแค่ไหน ซึ่งจะมีเวลาอีกหลาย 10 วันให้ประชาชนตัดสินใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น