กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ก่อนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายพบว่าเพื่อไทยมีคะแนนทิ้งห่างประชาธิปัตย์ และได้รับชัยชนะถึง 21 เขตในพื้นที่ กทม. ขณะที่พลังเงียบเกือบร้อยละ 50 ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด กระแส “ยิ่งลักษณ์” ร้อนแรง คนกรุงเชียร์เต็งนายกฯ แซง “มาร์ค” หนึ่งช่วงตัว
วันนี้ (12 มิ.ย.) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,323 คน โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 2-9 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส ระบบบัญชีรายชื่อ คนกรุงเทพฯ ระบุว่า จะเลือกพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 33.6 (เพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจครั้งก่อนเมื่อวันที่ 20-22 พ.ค. ร้อยละ 7.8) จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 17.1 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4) และจะเลือกพรรครักประเทศไทย ร้อยละ 3.2 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2) อย่างไรก็ตาม มีถึงร้อยละ 44.1 ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคใด
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบแบ่งเขต พบว่า คนกรุงเทพฯ ระบุว่าจะเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 33.8 (เพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจครั้งก่อน เมื่อวันที่ 20-22 พ.ค. ร้อยละ 7.5) จะเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 17.6 (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.4) และจะเลือกผู้สมัครของพรรครักษ์สันติ ร้อยละ 1.3 (เท่ากับผลสำรวจครั้งก่อน) อย่างไรก็ตาม มีถึงร้อยละ 46.4 ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกผู้สมัครของพรรคใด โดยเกณฑ์ที่คนกรุงเทพฯ ใช้ในการเลือก ส.ส.ระบบแบ่งเขต คือ เลือกจากคุณสมบัติและผลงานในอดีตของผู้สมัคร (ร้อยละ 49.4) รองลงมาคือ เลือกจากนโยบายที่ใช้หาเสียง (ร้อยละ 31.6) และเลือกจากพรรคการเมืองที่สังกัด (ร้อยละ 19.0)
ทั้งนี้ เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายเขต พบว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่ 21 เขต ได้แก่ เขต 3, 4, 5, 7, 8, 10, 11, 12, 13, 14, 16, 17, 18, 20, 23, 24, 26, 27, 29, 32 และเขต 33 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนำใน 6 เขต ได้แก่ เขต 1, 2, 15, 19, 22 และเขต 30 ส่วนอีก 6 เขตทั้ง 2 พรรคมีคะแนนสูสีกันได้แก่ เขต 6, 9, 21, 25, 28 และเขต 31
เมื่อสอบถามว่าอยากได้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด พบว่า อยากได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 42.6 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7) รองลงมาคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 23.6 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2) ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ร้อยละ 3.9 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0) และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร้อยละ 2.4 (ลดลงร้อยละ 1.2) ขณะที่อีกร้อยละ 27.5 ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใครดี
สำหรับสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ไม่อยากเห็นมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า อันดับแรก ได้แก่ การซื้อสิทธิขายเสียง (ร้อยละ 23.2) รองลงมาคือ การก่อกวน ข่มขู่ ทำร้ายผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม (ร้อยละ 20.5) และการหาเสียงด้วยวิธีใส่ร้ายป้ายสี (ร้อยละ 20.1)
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ และบริสุทธิ์ยุติธรรม พบว่า ร้อยละ 66.9 ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย (เพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจเมื่อวันที่ 20-22 พ.ค. ร้อยละ 0.8) ขณะที่ร้อยละ 33.1 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงเชื่อมั่นมาก