xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ลุยสมุทรสาคร เจอแดงอ้อมน้อย ขับรถติดภาพ เสธ.แดง ป่วน อ้อนสาว รง.เลือก ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” หาเสียงสมุทรสาคร เจอ “แดง อ้อมน้อย” ขับรถติดภาพ เสธ.แดง ป่วน ปราศรัยทวงบุญคุณเสื้อแดงเคยช่วยประกันตัว แนะ ตู่-เต้น สร้างบรรยากาศปรองดอง โบ้ยสื่อเล่นข่าวให้บ้านเมืองขัดแย้ง บุกโรงงานขนสารพัดนโยบายอ้อนให้เลือก ปชป.ขอเสียงเติมให้เต็ม 10 ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์แล้วนับ 1

วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.45 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ มาหาเสียงกับพนักงานโรงงานของบริษัท สุวรรณอุตสาหกรรมปั่นทอ จำกัด ย่านอ้อมน้อย ถ.เพชรเกษม โดยทันทีที่ นายอภิสิทธิ์ มาถึงก็ถูกสาวโรงงานรุมล้อม นำดอกกุหลาบ พวงมาลัยดอกดาวเรือง ไปมอบให้ และขอถ่ายรูปและจับมือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เปิดให้ตัวแทนพนักงานโรงงานตั้งคำถามเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ตอบ

โดยตอนหนึ่งนายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำนโยบายรัฐบาลและสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำต่อไป อาทิ นโยบายเรียนฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ย อสม.การตรึงราคาดีเซล-ก๊าซหุงต้ม โครงการประกันรายได้เกษตรกร การแก้ปัญหายาเสพติด แก้ปัญหาหนี้สิน หนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิต ปฏิรูปประกันสังคม การจัดสวัสดิการต่างๆ การเพิ่มเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาฯ เพิ่มค่าแรง 25% ภายใน 2 ปี แก้ปัญหาของแพง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ยอมรับว่า เป็นนักการเมืองเกือบ 20 ปี ต้องบอกว่า การเมืองที่หนักหนาสาหัส คือ 5-6 ปีที่ผ่านมา ตนเห็นข่าวแล้วเกรงใจประชาชน เพราะทำไมการเมืองถึงวุ่นวายขัดแย้งรุนแรง ในขณะที่เราต้องเจอสารพัดปัญหาที่กระทบความเป็นอยู่อยู่แล้ว ทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กระทบประเทศไทย ภัยพิบัติ แต่การเมืองเรายังวุ่นวายไม่จบ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า การชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว มีการยกระดับแรงขึ้น แต่ตนยืนยันว่าไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งหลายคนคงจำได้ตอนที่มาชุมนุมเยอะๆ ตนเลยบอกว่าจะเจรจา ซึ่งตนไม่เคยเห็นนายกฯคนไหนเจอม็อบขับไล่เอาเลือดไปเทที่บ้าน แต่ก็พร้อมคุยตกลงกันอยางนี้ แล้วตนก็ทำคุยแล้วเขาก็ไม่ยอมตกลง และตนยังเสนอใหม่อีกว่า วาระตนอยู่ถึงสิ้นปี ตนตัดลงเป็นปียอมเลือกตั้งตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว เขาก็ไม่เอา และคนที่ไม่เอาที่จริงๆ ตนก็ไม่ทราบว่าคนที่มาชุมนุมเขาเคยมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่

“แต่คนที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมแกนนำทั้งหลายเขาไม่ยอม เขาไม่ยอม เพราะว่ายังไม่ได้บางสิ่งบางอย่างที่อยากจะได้ ที่ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องความสงบสุขปรองดองสองมาตรฐานที่พูดกันเลย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาช่วยเยียวยาฟื้นฟูปรองดอง โดยนำคนกลางนักวิชาการ อาทิ นายคณิต ณ นคร นายอานันท์ ปันยารชุน นายแพทย์ ประเวศ วะสี ที่ตนจะขอให้ทำต่อ อะไรที่ช่วยทำให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ เราก็เดินตนก็พยายามทำ เขาเสนออะไรโดยไม่มีส่วนได้เสียโดยที่ไม่มีวาระแอบแฝงมาทำ สิ่งแรกคือคนที่ถูกจับกุมจากเหตุชุมนุมหลายคนไม่มีใครไปดูแลเรื่องทนายและข้อกฎหมาย ตนก็สั่งกระทรวงยุติธรรมให้ไปดูแลจนได้รับการประกันตัวออกมาหลายสิบคน

“คนเหล่านี้ไม่มีทางชอบผม แต่เมื่อมีการเสนอว่าควรได้รับการช่วยเหลือ ผมก็ไม่ลังเล เพราะผมมาเป็นนายกฯจะชอบหรือไม่ชอบ จะเลือกหรือไม่เลือก จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ผมต้องทำงานให้คนไทยทุกคน ถ้าเราทำงานบนหลักการตรงนี้เราปรองดองได้ ดังนั้น อะไรที่เป็นทางลัดสู่ความปรองดองที่เรียกร้องผมยอม แต่ว่าใครไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลแล้วบอกให้ล้างกันใหม่ เราอาจจะแก้ปัญหาวันนี้ได้ แต่วันข้างหหน้าสภาพบ้านเมืองจะเหมือนไม่มีขื่อมีแป มีการเอากำลังกดดันเข้ามาขู่ก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ บ้านเมืองก็จะยิ่งไม่มีวันสงบ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เวลานี้พรรคเพื่อไทยจะปรองดอง แต่สิ่งแรกที่ทำ คือ ออกกฎหมายล้างความผิด ตนอยากจะบอกว่าตั้งแต่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา การเมืองก็ตึงเครียด เพราะมีคนเห็นว่าไม่ควรทำ ทำไมนักการเมือง พรรคการเมืองไม่แก้ปัญหาของประชาชน ทำไมไปหยิบปัญหาร้อนๆ ให้มาทะเลาะกัน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ บอกให้ก้าวพ้นแล้วไปแก้ปัญหาของประชาชน ส่วนถูกผิดเป็นเรื่องของศาล และแนวทางเยียวยาฟื้นฟูก็ทำกันไป

“พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า วันแรกทำทันที แต่พรรคพื่อไทยหลายเรื่องต้องเข้ามารื้อ อาทิ ประกันรายได้ ที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศแล้วว่าจะยกเลิก ดังนั้น ประชาชนต้องเลือกว่าจะเลือกการเริ่มศูนย์แล้วนับหนึ่ง หรือเติมให้เต็มสิบ เพราะพรรคประชาธิปัตย์บอกว่าเติมให้เต็มสิบไม่ต้องเริ่มจากศูนย์แล้วนับหนึ่ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การออกกฎหมายล้างความผิด จะทำให้กลับไปเหมือนปี 2551 เมื่อพูดเรื่องนี้ทันทีบ้านเมืองก็วุ่นต่อเนื่องทันที วันนี้ตนจึงมาเชิญให้เดินหน้าประเทศไทยกันต่อไป โดยนโยบายเพื่อประขาชาชน เพื่อก้าวให้พ้นปัญหา ซึ่งปัญหาบ้านเมืองและการเมืองเหมือนกันทุกแห่ง จะบอกว่า หยุดนิ่งเราก็ต้องเผชิญอย่างมีมติ มีสมาธิ และรู้ว่าเป้าหมายของการทำงานการเมือง คือ แก้ปัญหาให้ประชาชน โดยส่งเสริมค่านิยมให้ยอมรับความแตกต่างกัน ส่วนที่มีคนถามว่าจะทำอย่างไรให้สื่อช่วยสร้างความปรองดอง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามสื่อว่าจะทำกันอย่างไร เสรีภาพของสื่อก็มี สื่อบางครั้งก็รายงานในประเด็นที่มีความน่าสนใจ อะไรที่ขัดแย้งคนก็สนใจมากกว่าบ้านเมืองเรียบร้อย

“เคยมีหรือที่ นสพ.พาดหัว ว่า บ้านเมืองสงบ เราเห็นเราก็ไม่อ่าน พอมีเรื่องก็เป็นขาว แต่เราก็ขอร้องว่าสื่อสารมวลชนควรหลีกเลี่ยงการเติมการกระทบกระทั่งกัน ถ้าความเห็นแตกต่างก็อิงกับข้อเท็จจริง หลีกเลี่ยงการทำให้เกิดความรุนแรงโดยไม่จำเป็น ทั้งการใช้ถ้อยคำรุนแรงที่นำไปสู่การเผชิญหน้าขัดแย้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำว่า พรรคเพื่อไทย บอกว่า จะปรองดอง แต่ตนก็กลัวทีมปรองดองของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่มีทั้ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และถ้าคนหล่านี้จะช่วยลดบรรยากาศของบ้านเมืองที่ตึงเครียดก็จะเป็นสัญญาณที่ดี ทั้งนี้ ตนไม่สามารถและไม่เชื่อว่าจะมีใครทำให้คนรักกัน แต่ถึงเราไม่รักกันไม่ชอบกัน แต่เราก็ต้องเคารพคนอื่น และเราต้องห้ามไม่ให้ความไม่ชอบกันความแตกต่างกันลุกลามบานปลายเป็นความรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สิน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนไม่กล้าพูดว่าบ้านเมืองจะไม่ขัดแย้งกัน แต่ถ้าได้เป็นนายกฯจะบริหารบ้านเมืองด้วยความอดทนอดกลั้น แล้วจะไม่เป้น็คนจุดประเด็นความขัดแย้ง มีคนเคยถามตนว่าทำไมยิ้มได้ทั้งที่ปัญหาเยอะ ตนก็บอกว่า อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ตนทำได้ คือ ยิ้ม และตนก็ดีใจที่ไปเจอประชาชนที่มีความเครียด เดือดร้อน แต่เขาบอกว่า นายกฯยังยิ้ม ยังอดทน ตนคิดว่าทุกคนต้องทำกันอย่างนี้ และการเป็นผู้บริหารต้องเริ่มต้นจากตรงนี้ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่คณะของนายอภิสิทธิ์ จะเดินทางถึงโรงงานของบริษัท สุวรรณอุตสาหกรรมปั่นทอ จำกัด ได้มีรถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์ทอง พร้อมสัญลักษณ์ธงสีแดง ได้ขับผ่านหน้าโรงงานดังกล่าวไปอย่างช้าๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องถึงกับโบกให้รถผ่านไปเร็วๆ และต่อมาภายหลังจากกล่าวปราศรัยกับพนักงานโรงงานสุวรรณอุตสาหกรรมปั่นทอ เสร็จเรียบร้อยคณะของนายอภิสิทธิ์ และ สื่อมวลชน ได้เดินทางเพื่อมุ่งหน้ากลับกรุงเทพมหานคร เมื่อขบวนรถได้ขับมาถึงช่วง อ.กระทุ่มแบน ได้มีรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทอง คันเดิม ขับเข้ามาใกล้กับขบวนรถของนายอภิสิทธ์ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ ทั้งนี้ บริเวณด้านข้างของกระบะทั้งสองข้างติดรูป พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล (เสธ.แดง) ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ขนาดครึ่งตัวช่วงบน ที่ถูกยิงเสียชีวิตในช่วงเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดือนพฤษภาคม ปี 2553 พร้อมกับมีข้อความ “ กูรักทักษิณ หนักหัวพ่อมึงหรอ” “กูมาทุกครั้ง กูอยากโดนลูกปืน แดง อ้อมน้อย” และ “ผลงานที่พรรคประชาธิปัตย์ทำได้ เช่น ฆ่าประชาชน 91 ศพ” จากนั้นรถสื่อมวลชน ก็ได้กันให้รถกระบะวีโก้ พ้นจากขบวน
กำลังโหลดความคิดเห็น