หน.ปชป.หวังโกยคะแนนเสียงถิ่นฉันทนา ย่านสมุทรปราการ แม่ยก-ลูกยก กรี๊ดรุมหอมแก้ม เอาใจเปิดให้ตั้งคำถาม 10 คำถาม ย้ำ สารพัดนโยบายที่จะสานต่อ อวดอ้างเป็นนายกฯตัวอย่าง ที่พร้อมให้ตรวจสอบ ไม่เคยขี้เกียจ-ไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย
วันนี้ (24 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาหาเสียงและแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในจังหวัดสมุทรปราการ 7 คน ที่โรงงานเดลต้าอิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยทันทีที่ นายอภิสิทธิ์ ก้าวลงจากรถก็ได้รับเสียงกรี๊ดและตะโกนต้อนรับว่า “เบอร์ 10 เบอร์ 10” และบรรดาสาวโรงงานเข้ามารุมกอด หอมแก้ม และคล้องมาลัยดาวเรือง
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เปิดให้พนักงานโรงงานตั้งคำถาม 10 คำถาม โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องปากท้อง เรื่องนโยบายการศึกษา การดูแลปัญหาสังคม ฯลฯ นายอภิสิทธิ์ จึงตอบทีละคำถาม โดย นายอภิสิทธิ์ ได้ตอบย้ำสารพัดนโยบายของรัฐบาลซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะสานงานต่อหากกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อาทิ โครงการสวัสดิการ ประกันสังคม เรียฟรี การเพิ่มเงินเข้ากองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เบี้ยยังชีพ โครงการที่ส่งเสริมให้มีอาชีพและมีรายได้ โครงการประกันรายได้เกษตรกร โครงการรถไฟความเร็วสูงจาก กทม.ไปในหลายจังหวัด โครงการด้านพัฒนาแหล่งน้ำ รวมทั้งเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 25% ภายในสองปี
“นโยบายของเรายึดคนเป็นศูนย์กลาง และผมไม่ชอบหาเสียงแล้วทำไม่ได้ แต่เราต้องคำนวณและคำนึงถึงภาระงบประมาณ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เวลาเข้าไปบริหารบ้านเมืองเราต้องเจอปัญหาเฉพาะหน้า ไม่คาดคิด สองปีที่แล้วเราเข้ามาเจอวิกฤตเศรษฐกิจโลก การเมืองในประเทศ ภัยพิบัติ ฝนแล้ง น้ำท่วม แผ่นดินไหว และปัญหาชายแดน แต่สิ่งสำคัญที่อยากจะย้ำ คือ ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็แก้ไขกันแต่ไม่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ของเราเสียสมาธิ เพราะเรารู้ว่าเป้าหมายสุดท้ายของการบริหารประเทศคืออะไร
“สังคมประเทศชาติมีความสำคัญ แต่เรื่องที่สุดคือชีวิตของผู้คน สิ่งที่ผมใฝ่ฝันนอกจากบ้านเมืองสงบ และเศรษฐกิจเจริญเติบโตก้าวหน้าแล้วแต่ผมต้องการเห็นคณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน ให้มีความมั่นคง มีความสุข อยู่ในสังคมที่น่าอยู่มีความรักใครกัน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองมีความขัดแย้งมาก มีทั้งคนชอบและไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ แต่สิ่งที่แสดงออกไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบตน ตนก็ต้องทำงานให้คนไทยทุกคนให้มีความเสมอภาคเป็นธรรม ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ถึงแม้มาชุมนุมต่อต้านตนก็เคารพเสรีภาพและยังเปิดโอกาสเจรจาหลายกลุ่ม แต่ตนก็จำเป็นต้องรักษากฎหมาย
“ผมพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ ผมไม่เคยหนีสภา ผมเปิดโอกาสให้อภิปราย และเป็นนายกที่ตั้งวงสนทนาแบบนี้เกือบกับทุกกลุ่ม หลายเรื่องทำแล้วไม่เป็นที่พอใจ บางเรื่องพี่น้องผิดหวังและหลายเรื่องผมยังไม่พใจ อย่างเรื่องยาเสพติด การคอร์รัปชัน ของแพงที่ต้องแก้ไขต่อไป ผมยืนยันว่าผมไม่มีผลประโยน์ส่วนตัว ผมทำงานมีแต่ประโยชน์ส่วนรวม และผมไม่มีขี้เกียจ ผมทุ่มเททำงานตลอดเวลา ไม่เคยเหนื่อยและไม่ป่วยเลย มาป่วยตอนยุบสภา ผมก็เดินหน้าทำอย่างนี้ต่อไปและพร้อมตอบคำถามต่างๆ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า อยากให้ประชาชนเข้าเลือกคนที่อยากให้เข้ามาทำงาน และหากพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับไปก็จะไม่เริ่มจากศูนย์ ไม่นับหนึ่งใหม่แต่เราจะเติมให้เต็มสิบ และความแตกต่างเริ่มชัดเจนว่าพรรคคู่แข่งจะยกเลิกเรื่องการเรียนฟรีแล้วเขาจะแจกคอมพิวเตอร์ และจะนิรโทษกรรม ดังนั้น วันนี้เราควรจะทำให้เป็นเรื่องของประชาชน ส่วนใครผิดใครถูกก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมให้คนที่ไม่มีส่วนได้เสียมาทำ