ASTVผู้จัดการรายวัน-กกต.แจงป้ายโหวตโนแค่ผิดขนาด หากแก้ไขก็ติดใหม่ได้ “สดศรี”เสียงข้างน้อย ชี้ ไม่ใช่ป้ายหาเสียงการเลือกตั้ง รูปน่ารักดีช่วยกระตุ้นให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง พรรคเพื่อฟ้าดินยืนยันไม่ยอมให้ปลดป้ายลง จนกว่าจะได้รับคำตอบและเหตุผลที่ชัดเจน ด้าน พธม.ดักคอห้ามแตะป้ายทั้ง 2 แบบ ก่อนมีความชัดเจน ชี้กทม.เลือกปฏิบัติ เมื่อครั้งเสื้อแดงเคยขึ้นป้ายรณรงค์ยุบสภา ไม่เห็นกล้าไปทำอะไร ส่วน “โหวตโน”ต่างจังหวัดไม่สนกกต.ขึ้นป้ายในบ้าน
วานนี้ (9 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะฯ น.ส.ขวัญดิน สิงห์คำ หัวหน้าพรรคเพื่อฟ้าดิน พร้อม เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ เลขาธิการพรรคเพื่อฟ้าดิน และกรรมการบริหารพรรคบางส่วน สวมชุดหม้อห้อมเดินเท้าเปล่า เข้าพบ กกต.เพื่อขอความเป็นธรรมต่อ กกต. กรณีที่ประชุม กกต. มีมติเสียงข้างมาก ให้ปลดป้ายโหวตโน ของพรรคเพื่อฟ้าดิน โดยต้องการคำชี้แจงจาก กกต.ถึงเหตุผลที่ชัดเจนในมติดังกล่าว ซึ่งมองว่าพรรคได้ทำตามขั้นตอนกติกาทุกอย่าง อาทิเช่น ขนาดป้าย ชื่อผู้ผลิตป้าย อีกทั้งป้ายดังกล่าวก็เป็นป้ายหาเสียง ซึ่งมองว่าก็ไม่จำเป็นต้องเอาหน้าผู้สมัครไปติดที่ป้าย เพราะมีพรรคการเมืองบางพรรค ยังนำภาพนักกีฬา ไปติดได้ทั้งที่ไม่ใช่ตัวผู้สมัคร
ทั้งนี้ การใช้ภาพสัตว์เพื่อรณรงค์โหวตโน เป็นเทคนิคและศิลปะ ที่โดนใจประชาชน ในการหาเสียงของพรรค ซึ่งไม่ต้องการให้เลือก ส.ส.ของพรรคใดแต่ต้องการให้โหวตโน เพราะไม่ต้องการให้คนไม่ดีเข้าไปในสภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้เลือก ผู้สมัครของพรรคเพื่อฟ้าดินด้วย เพราะถึงแม้ได้รับเลือกเข้าไปก็เป็นเสียงส่วนน้อย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พรรคจะไม่ยอมให้มีการปลดป้ายลง จนกว่าจะได้รับคำตอบและเหตุผลที่ชัดเจน ซึ่งหากคำชี้แจงมีเหตุผลที่ยอมรับได้ พรรคก็จะปลดป้ายลง แต่หากคำชี้แจงของ กกต.ไม่เป็นธรรมต่อพรรค ก็จะดำเนินการยื่นเรื่องให้ศาลเพื่อพิจารณาคุ้มครองชั่วคราวต่อคำสั่งดังกล่าวต่อไป
**พธม.ดักคอห้ามแตะป้าย 2 แบบก่อนชัดเจน
ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติ 4 ต่อ 1 เสียงให้พรรคเพื่อฟ้าดินปลดป้ายรณรงค์โหวตโนชุดอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ว่า จากข่าวที่ปรากฎว่า กกต.มีการวินิจฉัยประกาศ กกต.ที่ว่าด้วยระเบียบและข้อความปฏิบัติในการติดตั้งป้ายหาเสียง ข้อ 9 ซึ่งระบุว่า หากป้ายหาเสียงไม่ถูกต้องตามที่กำหนด ต้องแจ้งให้พรรคการเมืองดำเนินการแก้ไขตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งบัดนี้ก็ยังไม่มีหนังสือหรือความชัดเจนของ กกต.มายังพรรคเพื่อฟ้าดิน จึงทำให้ไม่ทราบว่ากระทำผิดด้วยเหตุผลใด หรือต้องทำการแก้ไขภายในกี่วัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่อำนาจที่จะมาปลดป้ายในตอนนี้
ในเบื้องต้นพรรคเพื่อฟ้าดินก็ได้เตรียมการยื่นค้านต่อทั้งศาลแพ่งและศาลปกครองอย่างแน่นนอน อีกทั้งการวินิจฉัยก็กล่าวถึงเพียงป้ายรณรงค์ชุดแรกที่ระบุข้อความ อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ดังนั้นจึงไม่ครอบคลุมป้ายรณรงค์ชุดที่ 2 ซึ่งมี 4 แบบ และไม่ได้มีข้อความอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา แต่ได้ระบุตราสัญลีกษณ์และหมายเลขพรรคเพื่อฟ้าดินแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐจะฉวยโอกาสมาปลดป้ายทั้งหมดไม่ได้
**เย้ย กทม.ป้ายยุบสภาเสื้อแดงไม่ยักแตะ
นายปานเทพ กล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่าป้ายรณรงค์ทั้งหมดไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของพันธมิตรฯ แต่เป็นป้ายหาเสียงที่จัดทำขึ้นในนามพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่ได้ส่งผู้สมัครลงทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่ออย่างถูกต้อง หากจะมาอ้างว่ามีการให้ร้ายบุคคลหรือนักการเมือง ก็ต้องชี้แจงว่าป้ายทั้งหมดมีเพียงรูปภาพของสัตว์ ไม่มีภาพของมนุษย์คนไหน ดังนั้นนักการเมืองไม่สามารถมาสมอ้างว่าเป็นตัวเองได้ ที่กทม.อ้างว่าป้ายดังกล่าวไม่ใช่ป้ายหาเสียงนั้น ก็ขอถามว่าเมื่อครั้งที่กลุ่มคนเสื้อแดงติดป้ายเรียกร้องให้ยุบสภาในคณะที่มีการชุมนุมนั้น ไม่เห็น กทม.ออกมาทำหน้าที่เหมือนเช่นตอนนี้เลย จึงเห็นว่า กทม.พยายามเลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ พันธมิตรในฐานะภาคประชาชนที่เป็นแนวร่วม จึงไม่มีทางเลือกและจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีในการเดินรณรงค์โหวตโนให้มากยิ่งขึ้น
“ขณะนี้ได้มีคน 2 กลุ่มที่พยายามต่อต้านกระแสโหวตโน กลุ่มหนึ่งเป็นพรรคการเมืองที่หวังชิงคะแนนโหวตโนให้ตัวเอง โดยคิดเพียงสั้นๆที่ต้องการคะแนนเสียงให้มากที่สุด แต่สุดท้ายก็ต้องไปพ่ายแพ้เสียงในสภาอยู่ดี ขณะที่อีกฝ่ายเป็นพรรคการเมืองที่มั่นใจว่าชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงเกินครึ่งอย่างแน่นอน จึงพยายามลดทอนคะแนนโหวตโน เพราะเกรงว่าหากมีมากจะกลายเป็นอำนาจต่อรองนอกสภาของประชาชน ทำให้พรรคการเมืองดังกล่าวทำอะไรได้ไม่ถนัด ดังนั้นการโหวตโนจึงไม่ได้เป็นเพียงการตัดคะแนนของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่มีผลกระทบต่อทั้ง 2 ขั้วการเมือง” นายปานเทพ กล่าว
** “แซมดิน”ยันต้องสร้างบรรทัดฐานใหม่
ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ เลขาธิการพรรคเพื่อฟ้าดิน กล่าวว่า การที่พรรคตัดสินใจเข้าร่วมแนวทางโหวตโนกับภาคประชาชนนั้นมาจากสาเหต 3 ประการ คือ
1. การเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองในปัจจุบันไม่ได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างมโหฬาร โดยที่ กกต.หรือประชาชนก็ทราบดี แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งจับกุมการทุจริตได้เลย
2. เมื่อนักการเมืองเข้าสู่อำนาจแล้ว ก็มีการใช้อำนาจโดยไม่สนใจประชาชน โดยเฉพาะเรื่องเขตแดนที่มีข้อแนะนำจากประชาชนถึงหนทางการแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง จนทำให้ประเทศต้องถูกรุกล้ำอธิปไตย
3. ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของนักการเมืองไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนส่งผลให้คนผิดไม่ได้รับการลงโทษ ดังนั้นพรรคเพื่อฟ้าดินจึงเห็นว่า การปฏิรูปการเมืองเป็นหนทางในการแก้ไขปัฐหาของประเทศทั้งระบบโดยเสียงของคนไทยทั้งประเทศ
**“ประพันธ์” จวกจงใจเลือกปฏิบัติ
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวเสริมว่า ตามข่าวที่ปรากฏนั้นพบว่ามติของ กกต.ไม่ได้มีรายละเอียดที่ชัดเจน การรณรงค์โดยภาคประชาชนนั้นสามารถทำได้ตามกฎหมาย โดยการติดตั้งป้ายในพื้นที่ของตัวเอง กกต.ก็ไม่มีอำนาจสั่งให้ปลด ขณะที่พรรคเพื่อฟ้าดินก็ได้ทำตามกฎระเบียบ
ทั้งนี้ ในส่วนของกิจกรรมดาวกระจายที่จะมีภาคประชาชนไปรณรงค์โหวตโนที่จะเริ่มต้นในวันที่10 มิ.ย. นั้น นายปานเทพยืนยันว่าจะยังคงดำเนินกิจกรรมตามที่กำหนดไว้ โดยได้เตรียมป้ายรณรงค์โหวตโนทั้ง 2 แบบร่วมในการเดินขบวนรณรงค์ด้วย ซึ่งกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่ 11.00 น.ที่บริเวณลานพระบรมรูป ร.6 สวนลุมพินี ก่อนที่จะปล่อยขบวนรถขยายเสียง ขบวนแจกแผ่นพับใบปลิวและสติ๊กเกอร์ไปตาม ถ.สีลม ต่อเนื่องไปสุดที่ ถ.เจริญกรุง และสิ้นสุดกิจกรรมในเวลาประมาณ 12.00 น.
**กกต.แจงป้ายโนโหวตแค่ผิดขนาด
เวลา 08.29 น. นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์กรณีที่ กกต.มีมติป้ายโนโหวตรูปสัตว์ ว่า ในที่ประชุม กกต.ได้มีการพิจารณากันถึงป้ายต่างๆ ว่า เป็นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งมีความเห็นว่า ป้ายดังกล่าวเป็นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่เป็นอำนาจในการควบคุมของ กกต. จึงได้มีมติเสียงข้างมากตามที่ปรากฎ หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการปลดป้ายและผู้ที่เสียหายไม่ยอมจะดำเนินการฟ้องร้องก็สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นสิทธิ์ แต่ในส่วนของ กกต.ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะอยู่ในอำนาจในการควบคุมดูแลการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ก็มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามขอบเขต ซึ่งป้ายหาเสียงผู้สมัคร ส.ส.สามารถดำเนินการได้ตามขอบเขตที่ กกต.ขนาดที่ กกต.กำหนด
“ต้องไม่ใหญ่โตทำให้เกิดความเสียเปรียบ ได้เปรียบ ซึ่งเราก็ได้วินิฉัยจุดเดียวว่าเป็นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้วินิจฉัยลึกเข้าไปถึงถ้อยคำหรือเนื้อหาสาระจากป้าย ขอได้โปรดเห็นใจ กกต. ที่ต้องว่าไปตามกฎหมาย เราไม่ได้ดูในเนื้อหาว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ ซึ่งบางคนยังเห็นว่าภาพสิงห์สาราสัตว์ต่างๆ ก็น่ารักดี และก็ยังเป็นการกระตุ้นการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้สำหรับเด็กๆ ทำให้ตื่นตัว ผมก็ยอมรับในจุดนี้” นายอภิชาตกล่าวและว่าหากทำป้ายตามขนาดที่ กกต.กำหนดและติดตามสถานที่ที่ได้รับอนุญาตก็สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงป้ายแบบใหม่ที่กลุ่มพันธมิตรและพรรคเพื่อฟ้าดินจะนำมาติดใหม่ นายอภิชาต กล่าวว่า หากไม่เกินขนาดที่ กกต.กำหนดก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งให้ทางฝ่ายสืบสวนฯของ กกต.ที่มีอำนาจรับผิดชอบไปดูว่าเนื้อหาในป้ายเป็นอย่างไรผิดหรือไม่ ส่วนเรื่องเนื้อหาและรูปจะสอดเสียดผู้สมัคร ส.ส.หรือนักการเมืองหรือไม่ ต้องดูอีกที เบื้องต้นยังไม่ได้พิจารณา ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็มีการร้องเรียนเข้ามามาก
ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรกับป้ายหลัง กกต.มีมติ นายอภิชาตย้ำว่า “คงต้องเอาออก ส่วนจะใช้อำนาจอะไรนั้น ทาง เทศกิจ กทม.มีสิทธิ์ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการหารือมายังกกต. ไม่ใช่อยู่ๆ กกต.จะไปสั่งปลด”
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่ามติของ กกต.นั้นจะต้องดำเนินการตามระเบียบกติกาที่ได้กำหนดไว้ ทั้งมาตรา 60 ประกอบมาตรา 59 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. และมาตรา 53 ในเรื่องการหาเสียง รวมถึงประกาศของ กกต.ที่ว่าด้วยระเบียบและข้อความปฎิบัติในเรื่องของการติดตั้งป้ายหาเสียง ที่สนับสนุนโดยรัฐ เรื่องนี้ กกต.ได้พิจารณาประกอบกัน เมื่อมีการร้องเรื่องป้ายเข้ามาก็ต้องเข้าไปดูในรายละเอียด และเท่าที่เห็นชัดเจนก็คือป้ายขนาดใหญ่ ซึ่งตามหลักเกณฑ์ กกต.จะกำหนดขนาดของป้าย ความชัดเจนของคัทเอ๊าท์ขนาดใหญ่ดูแล้ว ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนั้น กกต.ต้องแจ้งให้กับพรรคการเมืองทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หากไม่ดำเนินการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถรื้อถอนออกไป แต่หากไม่ให้รื้อถอนก็สามารถดำเนินการได้ และในระเบียบของ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงยังกำหนด ว่าจะต้องใช้ถ้อยคำที่สุภาพด้วย
**“สมชัย” ยันป้ายโหวตโน ไม่ได้ขนาด
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงมติ กกต.ให้ปลดป้ายโหวตโนของพรรคเพื่อฟ้าดิน ว่า กกต.ได้พิจารณาตอบข้อหารือตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร้องเข้ามาว่า เป็นอำนาจของหน่วยงานใด ซึ่ง กกต.เสียงส่วนใหญ 4 เสียง เห็นว่า ป้ายดังกล่าวเป็นป้ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 59 และ 60 จึงเป็นอำนาจของ กกต.โดยตรง แต่ป้ายดังกล่าวไม่ได้มีขนาดตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องหลักเกณฑ์การดำเนินการของรัฐ ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส.ข้อ 9 ที่ระบุว่า กรณีที่พรรคการเมือง หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง ปิดประกาศหรือแผ่นป้ายไม่ถูกต้อง หรือเกินขอบเขตที่จัดไว้ให้ ให้หัวหน้าหน่วยงาน มีอำนาจสั่งพรรคการเมือง หรือผู้สมัครแล้วแต่กรณีให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในกำหนด และหากไม่ดำเนินการแก้ไขภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ดำเนินการรื้อถอน หรือปลดออกได้ ทั้งนี้ โดยไม่เป็นการลบล้างความผิดที่อาจเกิดขึ้นตามกฎหมาย
โดย กกต.กทม.ต้องแจ้งไปยังพรรคการเมืองให้นำป้ายลง และหากไม่ดำเนินการ ทาง กทม.ต้องเป็นผู้ดำเนินการเอาออก เนื่องจากป้ายดังกล่าวผิดระเบียบ กกต. จึงไม่ได้รับความคุ้มครองการเป็นป้ายหาเสียง ซึ่งผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดเรียบร้อย สำหรับกรณีดังกล่าวจะเอาผิดกับพรรคการเมือง หรือผู้สมัครนั้น ตามระเบียบของ กกต.จะต้องมีการสืบสวนสอบสวน หากเห็นว่าผิดก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองมาชี้แจงก่อนที่จะพิจารณาความผิด
**เผย มติ 4 ต่อ 1 “สดศรี” เห็นต่าง ชี้น่ารัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาของ กกต.ต่อกรณีป้ายโนโหวตมีมติให้ปลด 4 ต่อ 1 โดยเสียงส่วนใหญ่ เห็นว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ตามมาตรา 59 มาตรา 60 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มา ซึ่ง ส.ว. และประกาศระเบียบการจัดสถานที่ปิดประกาศ และที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในบริเวณสาธารณสถาน ซึ่งเป็นของรัฐ ข้อ 9 กรณีที่พรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง ปิดประกาศหรือแผ่นป้ายไม่ถูกต้อง หรือเกินขอบเขตที่จัดไว้ให้ ให้หัวหน้าหน่วยงาน มีอำนาจสั่งพรรคการเมืองหรือผู้สมัครแล้วแต่กรณีให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในกำหนด และหากไม่ดำเนินการแก้ไขภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ดำเนินการรื้อถอน หรือปลดออกได้ ทั้งนี้ โดยไม่เป็นการลบล้างความผิดที่อาจเกิดขึ้นตามกฎหมาย
ส่วนเสียง นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเสียงข้างน้อย เห็นว่ากรณีป้ายดังกล่าวนั้น ไม่ใช่ป้ายหาเสียงเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และรูปภาพบางภาพก็ดูน่ารักดี และยังเห็นว่าเป็นการช่วยกระตุ้นให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
**กกต.กทม.จี้ปลด ชักช้าสั่งให้กทม.ทำ
พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธาน กกต. กทม. กล่าวว่า หากพรรคไม่ดำเนินการรื้อป้ายดังกล่าวออก ก็เป็นหน้าที่ของกทม.ในการดำเนินการจัดเก็บป้าย ส่วนจะผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.และระเบียบกกต.ว่าด้วยการหาเสียง ข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามมิให้ปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งส.ส.และการดำเนินการใดๆของพรรคการเมือง เนื่องจากยังไม่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาอย่างเป็นทางการ กกต.กทม.จึงไม่ได้พิจารณาในข้อนี้
**ปลัด กทม.อ้างรอคำวินิจฉัย
นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.จะต้องรอหนังสือพิจารณาคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจาก กกต. จากนั้นจึงจะดำเนินการให้เป็นไปตามมติโดยเร็ว ซึ่งกรณีการปลดป้ายที่มิชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ นั้น กทม.จะแจ้งให้เจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว แต่หากแจ้งแล้วเจ้าของป้ายไม่ดำเนินการก็เป็นดุลพินิจของผู้อำนวยการเขตในการสั่งการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
**ตจว.ไม่สนกกต.ขึ้นป้ายในบ้าน
ที่ จ.ชัยภูมิ บรรยากาศช่วงเลือกตั้งอีกด้านหนึ่ง ในกลุ่มพลังเงียบเครือข่ายเลือกตั้งโหวตโน ทยอยออกมาเคลื่อนไหวกันจำนวนมากถึงแม้จะมีการห้ามไม่ให้นำป้ายรณรงค์โหวตโนออกไปติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ จาก กก.ต. โดยกลุ่มโหวตโนชัยภูมิ จะใช้วิธีแจกจ่ายป้ายกันไปติดในที่ดิน และหน้าบ้านพักของตัวเองแทน พร้อมมีการเปิดเครื่องขยาย นำรถแห่ประกาศเสียงเชิญชวนให้คนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ให้ช่วยกันกากช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโหวตโน
นางจำเนียร สุวรรณศา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรลำปาง หุ้นส่วนร้าน ASTV Shop ตั้งอยู่บริเวณ สี่แยกวัดน้ำล้อม ถนนรอบเวียง เขตเทศบาลนครลำปาง เปิดเผยว่า ป้ายคัทเอาท์โนโหวตที่นำมาวางเรียงราย อยู่หน้าร้านริมถนนนั้น ถือว่าเป็นการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย