สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงาน SET Note Quarterly Corporate Update พบว่าไตรมาส 1ปี 54 พบว่าบริษัทจดทะเบียน ( บจ. ) มีผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี และมีกำไรรวมเพิ่มขึ้นถึง 30.78% จากไตรมาส 1 ปี 53 ส่งผลดีต่อฐานะทางการเงินให้อยู่ในเกณฑ์มั่นคง บริษัทจดทะเบียนใช้เงินเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยให้ความสำคัญต่อการลงทุนในบริษัทในเครือและบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก รวมถึงมีมูลค่าการระดมทุนเพิ่มขึ้นจากการระดมทุนของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อขยายกิจการในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1 ปี 54 มีสัญญาณการชะลอตัวลงของรายได้ โดยเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีรายได้การขายและบริการปรับลดลงหรือขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ยกเว้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับสูงขึ้น
โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 ปี 54 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น โดยมีรายได้การขายและบริการรวม 2,099,245.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.00% ขณะที่มีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่า ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 214,141.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.29% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 204,922.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.32% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลประกอบการดีขึ้น โดยมีบริษัทที่มีผลกำไรถึง 428 บริษัท คิดเป็น 84.42% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เทียบกับ 81.94% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 80.61% ในไตรมาส 1/2553 อีกทั้งมีจำนวนบริษัทถึง 302 บริษัทที่มีมูลค่าของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งในไตรมาสแรกปีนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีกำไรจากการดำเนินงานและมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีรายได้เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าเกษตร
ด้านดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 ปี 54 ปรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาส 1 ปี 53 ทุกรายการตาม ทิศทางของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ฐานะทางการเงินยังคงอยู่ในเกณฑ์มั่นคงและมีระดับสภาพคล่องในการชำระหนี้ทรงตัวในระดับสูงแม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับสูงขึ้น
ในด้านการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรมีจำนวนเพิ่มขึ้นแต่มีมูลค่าการลงทุนลดลง โดยมีบริษัทที่ลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 470 บริษัท คิดเป็น 87.04% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 85.95% อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในด้านมูลค่าการลงทุน พบว่า บริษัทจดทะเบียนมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 85,872.03 ล้านบาท ลดลง 35.22% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับการระดมทุนในรูปตราสารทุนในไตรมาส 1 ปี 54 มีมูลค่าระดมทุนรวม 42,178.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งการระดมทุนในตลาดแรกและตลาดรองจากการระดมทุนของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อขยายกิจการ โดยมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดแรก 1 บริษัท คือ บมจ. วินเทจ วิศวกรรม (VTE) และมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เข้าระดมทุน2 กองทุน คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DTCPF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตรีนิตี้ (TNPF) ด้านการระดมทุนในตลาดรองมีมูลค่ารวม 37,342.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 2 เท่า จากไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1 ปี 54 มีสัญญาณการชะลอตัวลงของรายได้ โดยเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีรายได้การขายและบริการปรับลดลงหรือขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ยกเว้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับสูงขึ้น
โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 ปี 54 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น โดยมีรายได้การขายและบริการรวม 2,099,245.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.00% ขณะที่มีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่า ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 214,141.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.29% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 204,922.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.32% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลประกอบการดีขึ้น โดยมีบริษัทที่มีผลกำไรถึง 428 บริษัท คิดเป็น 84.42% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เทียบกับ 81.94% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 80.61% ในไตรมาส 1/2553 อีกทั้งมีจำนวนบริษัทถึง 302 บริษัทที่มีมูลค่าของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งในไตรมาสแรกปีนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีกำไรจากการดำเนินงานและมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีรายได้เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าเกษตร
ด้านดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 ปี 54 ปรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาส 1 ปี 53 ทุกรายการตาม ทิศทางของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ฐานะทางการเงินยังคงอยู่ในเกณฑ์มั่นคงและมีระดับสภาพคล่องในการชำระหนี้ทรงตัวในระดับสูงแม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับสูงขึ้น
ในด้านการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรมีจำนวนเพิ่มขึ้นแต่มีมูลค่าการลงทุนลดลง โดยมีบริษัทที่ลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 470 บริษัท คิดเป็น 87.04% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 85.95% อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในด้านมูลค่าการลงทุน พบว่า บริษัทจดทะเบียนมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 85,872.03 ล้านบาท ลดลง 35.22% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับการระดมทุนในรูปตราสารทุนในไตรมาส 1 ปี 54 มีมูลค่าระดมทุนรวม 42,178.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งการระดมทุนในตลาดแรกและตลาดรองจากการระดมทุนของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อขยายกิจการ โดยมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดแรก 1 บริษัท คือ บมจ. วินเทจ วิศวกรรม (VTE) และมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เข้าระดมทุน2 กองทุน คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DTCPF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตรีนิตี้ (TNPF) ด้านการระดมทุนในตลาดรองมีมูลค่ารวม 37,342.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 2 เท่า จากไตรมาสก่อนหน้า
