ASTVผู้จัดการรายวัน- ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของ บจ.ปี 53 ดีขึ้นทุกรายการ ผลดีจากตัวเลขกำไรสุทธิขยับเพิ่ม ส่งผลให้ ROE แตะระดับเกือบ 16% และฐานะการเงินล้วนอยู่ในเกณฑ์มั่นคง D/E เพียง 1.16 เท่า สภาพคล่องในการชำระหนี้สูงแม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้พุ่ง ขณะการระดมทุนเพิ่มมีมูลค่ารวม 90,355.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.82% จากปี52
สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงาน SET Note Quarterly Corporate Update พบว่าปี 53 ด้านดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนปรับดีขึ้นในทุกรายการเมื่อเทียบกับปี 52 ซึ่งเป็นผลจากกำไรสุทธิที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยในปี 53 บริษัทจดทะเบียนมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) 15.48% เพิ่มจาก 11.98% ในปี 52 และมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) 7.18% เพิ่มขึ้นจาก 5.51% ในปี 52 นอกจากนี้ฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนยังคงอยู่ในเกณฑ์มั่นคง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E RATIO )ที่ 1.16 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับต่ำและเป็นระดับเดียวกับปี 52 อีกทั้งมีระดับสภาพคล่องในการชำระหนี้สูงขึ้นแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 53
สำหรับการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนในปี 53 ส่วนใหญ่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ถาวร โดยมีจำนวนบริษัทที่ลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 465 บริษัท หรือ 85.95% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 80.48% ในปี 52 คิดเป็นมูลค่าการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรรวม 405,164.57 ล้านบาท ทั้งนี้ พบว่า ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น ยกเว้น กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง และกลุ่มบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ (NPG)
ด้านการระดมทุนในรูปตราสารทุนปี 53 จากภาวะเศรษฐกิจและภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับดีขึ้น บริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนเพิ่มขึ้น ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง โดยมีมูลค่ารวม 90,355.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.82% จากปี52 โดยการระดมทุนในตลาดแรก (Initial public offering: IPO) มีบริษัทจดทะเบียนเข้าระดมทุนจำนวน 11 บริษัท และ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวม 12.587.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.63% จากปี 52 ขณะที่การระดมทุนในตลาดรอง (Secondary equity offering: SEO) มีมูลค่ารวม 77,940.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 230.66% จากปี 52
ทั้งนี้ ในปีดังกล่าว บริษัทจดทะเบียน (ไม่นับรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์) มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ ประกอบกับมีผลกำไรจากเงินลงทุนทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 38.98% จากปี 52 โดยข้อมูลด้านฐานะทางการเงินยังอยู่ในเกณฑ์มั่นคง ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและการระดมทุนพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม สะท้อนการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพของภาคธุรกิจไทย และความพร้อมสำหรับการขยายตัวในอนาคต
โดยปี 53 บริษัทจดทะเบียน (ไม่นับรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์) มีผลการดำเนินงานดีขึ้น จากรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้การขายและบริการ 7,405,892.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.67% จากปี 52 ขณะที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนใกล้เคียงกับปี 2552 โดยมีสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ 91.04% เทียบกับ 90.84% ในปี 52 ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 663,819.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.16% จากปี 52 ขณะที่รายได้อื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากผลกำไรจากเงินลงทุนและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 29.57% จากปี 52 เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ในปี 53 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิ 592,456.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.98% จากปี 52 และมีอัตรากำไรสุทธิ 7.50% เพิ่มขึ้นจาก 6.38% ในปี 52
นอกจากนี้ พบว่า บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นและกระจายตัวมากขึ้น โดยมีบริษัทที่มีผลกำไรถึง 443 บริษัท คิดเป็น82.65 %ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เทียบกับ 76.68% ในปี 52 และ 73.64% ในปี 51
สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงาน SET Note Quarterly Corporate Update พบว่าปี 53 ด้านดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนปรับดีขึ้นในทุกรายการเมื่อเทียบกับปี 52 ซึ่งเป็นผลจากกำไรสุทธิที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยในปี 53 บริษัทจดทะเบียนมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) 15.48% เพิ่มจาก 11.98% ในปี 52 และมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) 7.18% เพิ่มขึ้นจาก 5.51% ในปี 52 นอกจากนี้ฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนยังคงอยู่ในเกณฑ์มั่นคง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E RATIO )ที่ 1.16 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับต่ำและเป็นระดับเดียวกับปี 52 อีกทั้งมีระดับสภาพคล่องในการชำระหนี้สูงขึ้นแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 53
สำหรับการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนในปี 53 ส่วนใหญ่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ถาวร โดยมีจำนวนบริษัทที่ลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 465 บริษัท หรือ 85.95% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 80.48% ในปี 52 คิดเป็นมูลค่าการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรรวม 405,164.57 ล้านบาท ทั้งนี้ พบว่า ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น ยกเว้น กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง และกลุ่มบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ (NPG)
ด้านการระดมทุนในรูปตราสารทุนปี 53 จากภาวะเศรษฐกิจและภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับดีขึ้น บริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนเพิ่มขึ้น ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง โดยมีมูลค่ารวม 90,355.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.82% จากปี52 โดยการระดมทุนในตลาดแรก (Initial public offering: IPO) มีบริษัทจดทะเบียนเข้าระดมทุนจำนวน 11 บริษัท และ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวม 12.587.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.63% จากปี 52 ขณะที่การระดมทุนในตลาดรอง (Secondary equity offering: SEO) มีมูลค่ารวม 77,940.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 230.66% จากปี 52
ทั้งนี้ ในปีดังกล่าว บริษัทจดทะเบียน (ไม่นับรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์) มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ ประกอบกับมีผลกำไรจากเงินลงทุนทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 38.98% จากปี 52 โดยข้อมูลด้านฐานะทางการเงินยังอยู่ในเกณฑ์มั่นคง ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและการระดมทุนพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม สะท้อนการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพของภาคธุรกิจไทย และความพร้อมสำหรับการขยายตัวในอนาคต
โดยปี 53 บริษัทจดทะเบียน (ไม่นับรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์) มีผลการดำเนินงานดีขึ้น จากรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้การขายและบริการ 7,405,892.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.67% จากปี 52 ขณะที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนใกล้เคียงกับปี 2552 โดยมีสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ 91.04% เทียบกับ 90.84% ในปี 52 ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 663,819.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.16% จากปี 52 ขณะที่รายได้อื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากผลกำไรจากเงินลงทุนและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 29.57% จากปี 52 เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ในปี 53 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิ 592,456.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.98% จากปี 52 และมีอัตรากำไรสุทธิ 7.50% เพิ่มขึ้นจาก 6.38% ในปี 52
นอกจากนี้ พบว่า บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นและกระจายตัวมากขึ้น โดยมีบริษัทที่มีผลกำไรถึง 443 บริษัท คิดเป็น82.65 %ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เทียบกับ 76.68% ในปี 52 และ 73.64% ในปี 51