นายพีรเจต สุวรรณภาศรี ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ยูเนี่ยน อินทราโก้ หรือ UIC ผู้จัดหา พัฒนาและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemical) สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เปิดเผยว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทคือ บมจ. ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล หรือ UKEM ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.99 มีนโยบายในการนำ UIC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Spin-Off) เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของ UIC โดยอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 130 ล้านบาทและแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 52 ล้านหุ้นหรือร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียน และนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
ทั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้งให้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้ โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ UIC จำนวน 52 ล้านหุ้น ซึ่งแบ่งเป็นเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นของ UKEM ตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนไม่เกิน 13 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนและอีก 39 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 30 จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป โดยเสนอขายในราคาเดียวกัน ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอได้ประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในเดือนเดียวกัน
" ผมมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้นของ UIC เปิดให้จองซื้อจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนล้นหลาม เพราะ UIC เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากในอนาคตและเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งผลประกอบการที่ผ่านมาของ UIC มีการเติบโตและมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้รวมของบริษัทระหว่างปี 51 – ปี 53 อยู่ที่ 199.98 ล้านบาท 206.87 ล้านบาท และ 303.02 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิ 7.28 ล้านบาท 10.62 ล้านบาท และ 17.07 ล้านบาทตามลำดับ "
ด้าน นายสมภพ กล่าวว่า บล.ฟินันเซีย ไซรัส เชื่อมั่นว่าหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 52 ล้านหุ้นของUIC จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยปัจจัยสนับสนุนในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐานของบริษัทซึ่งมีความโดดเด่นจากการเป็นผู้นำในตลาด มีผู้บริหารและทีมขายที่มีประสบการณ์และความชำนาญประกอบกับปัจจุบันสภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างคึกคักพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นไอพีโอจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ คาดว่า UIC คาดว่าจะสรุปราคาและเสนอขายหุ้น IPO ได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ พร้อมคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ โดยคาดว่าในปีนี้รายได้จะเติบโตราว 40-50% จากปีก่อน
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นUIC ของ UKEMนั้น เดิมอยู่ที่ 99% แต่หลังกระจายหุ้นจะเหลือการถือหุ้นเพียง 60% และเชื่อว่าผู้ถือหุ้น UKEMจะใช้สิทธิในการซื้อทั้งหมด 13 ล้านหุ้น ส่วนเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการชำระหนี้ระยะสั้นที่มีอยู่ประมาณ 60 ล้านบาท ชำระค่าสินค้าและที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ
ทั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้งให้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้ โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ UIC จำนวน 52 ล้านหุ้น ซึ่งแบ่งเป็นเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นของ UKEM ตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนไม่เกิน 13 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนและอีก 39 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 30 จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป โดยเสนอขายในราคาเดียวกัน ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอได้ประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในเดือนเดียวกัน
" ผมมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้นของ UIC เปิดให้จองซื้อจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนล้นหลาม เพราะ UIC เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากในอนาคตและเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งผลประกอบการที่ผ่านมาของ UIC มีการเติบโตและมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้รวมของบริษัทระหว่างปี 51 – ปี 53 อยู่ที่ 199.98 ล้านบาท 206.87 ล้านบาท และ 303.02 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิ 7.28 ล้านบาท 10.62 ล้านบาท และ 17.07 ล้านบาทตามลำดับ "
ด้าน นายสมภพ กล่าวว่า บล.ฟินันเซีย ไซรัส เชื่อมั่นว่าหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 52 ล้านหุ้นของUIC จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยปัจจัยสนับสนุนในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐานของบริษัทซึ่งมีความโดดเด่นจากการเป็นผู้นำในตลาด มีผู้บริหารและทีมขายที่มีประสบการณ์และความชำนาญประกอบกับปัจจุบันสภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างคึกคักพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นไอพีโอจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ คาดว่า UIC คาดว่าจะสรุปราคาและเสนอขายหุ้น IPO ได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ พร้อมคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ โดยคาดว่าในปีนี้รายได้จะเติบโตราว 40-50% จากปีก่อน
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นUIC ของ UKEMนั้น เดิมอยู่ที่ 99% แต่หลังกระจายหุ้นจะเหลือการถือหุ้นเพียง 60% และเชื่อว่าผู้ถือหุ้น UKEMจะใช้สิทธิในการซื้อทั้งหมด 13 ล้านหุ้น ส่วนเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการชำระหนี้ระยะสั้นที่มีอยู่ประมาณ 60 ล้านบาท ชำระค่าสินค้าและที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ