xs
xsm
sm
md
lg

วงจรอุบาทว์ เครือข่ายผลประโยชน์โครงการพลังงานลม มูลค่าหมื่นล้านบาท (2)

เผยแพร่:   โดย: ประพันธ์ คูณมี

3) ใช้วิชามารสร้างอุปสรรคทิ้งห่างคู่แข่ง

นายนพพร รู้ดีว่า กลุ่มของเขาไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ทำธุรกิจพลังงานลม ยังมีกลุ่มอื่นๆ อีกหลายกลุ่มที่มีทุนและเทคโนโลยีที่สามารถต่อกรกับเขาได้ รวมทั้งการแข่งขันรุนแรงขึ้นทุกขณะ วิธีที่ดีที่สุดคือหากคู่แข่งต้องเจอกับอุปสรรคมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้กลุ่มของเขาได้เปรียบมากขึ้น อุปสรรคแรกที่ได้ผลชะงักคือกำหนดหลักประกันการยื่นเสนอขายไฟฟ้าย่อมทำให้กลุ่มอื่นๆ ที่มีความแข็งแกร่งของทุนน้อยกว่า ย่อมทำให้โครงการสะดุดลงได้โดยง่าย เขาจึงไม่ลังเลที่สนับสนุนการออกมาตรการการวางหลักประกันอย่างเต็มที่

เมื่อเดือนมีนาคม 2552 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนดให้มีการวางหลักประกันเพื่อเสนอขายไฟฟ้าเมกะวัตต์ละสองแสนบาท ซึ่งเป็นการประกาศย้อนหลังที่ บริษัท ซัสเทนเอเบิลฯ ของกลุ่มนายนพพร ได้ตอบรับซื้อไปก่อนหน้าแล้วตั้งแต่สิงหาคม 2551 โครงการเขาค้อของเขาจึงลอยตัวและถือว่าได้เปรียบคู่แข่งอื่นๆ มากเพราะไม่ต้องหาเงินมาวางหลักประกันเพื่อให้ได้รับการพิจารณา แม้ กฟผ.ซึ่งปฏิบัติตามมติ กพช.จะออกระเบียบย้อนหลังให้บริษัทที่ได้รับตอบรับซื้อไปแล้วมาวางหลักประกันเช่นกัน แต่กลุ่มของนายนพพร ซึ่งได้ บมจ.ราชบุรี เป็นหุ้นส่วนแล้ว ย่อมมีสถานะการเงินและความพร้อมมากกว่ากลุ่มอื่น เขาสามารถวางหลักประกันสำหรับโครงการของเขาเองได้ทุกโครงการ และเมื่อเดือนสิงหาคม 2552 กลุ่มของเขาสามารถขายหุ้นให้แก่ บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด อีกร้อยละ 6 เป็นจำนวนเงิน 15 ล้านบาท

อุปสรรคอื่นๆ ที่คู่แข่งต้องเจอคือความยากลำบากในการขออนุญาตเชื่อมโยงกับสายส่งไฟฟ้าของ กฟผ. ซึ่งมี 2 กรณีคือ ความสามารถการรองรับได้ของระบบ และความมีเสถียรภาพของระบบเมื่อเชื่อมต่อโรงไฟฟ้ากังหันลม ในกรณีแรกสำหรับคู่แข่งอื่นๆ ที่ไม่มีข้อมูลภายในอย่างดีเท่ากับกลุ่มของนายนพพรแล้ว ย่อมยากที่จะได้รับอนุมัติเชื่อมโยงโดย กฟผ.จะอ้างว่าสายส่งเต็มไม่สามารถรองรับไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงการได้นั่นหมายถึงไม่ได้ตอบรับซื้อไฟฟ้า

ในกรณีหลัง กฟผ.ได้ออกข้อกำหนดให้ผู้เสนอขายไฟฟ้าต้องใช้โปรแกรมวิเคราะห์เสถียรภาพระบบเพื่อการเชื่อมโยงกังหันลมกับระบบไฟฟ้าของ กฟผ.เป็นโปรแกรม DIgSILENT เท่านั้น ทั้งๆ ที่โครงการที่เขาค้อ กฟผ.ยอมให้บริษัท ซัสเทนเอเบิลฯ ใช้โปรแกรม PSS/E ในการวิเคราะห์ได้ ในขณะนั้นมีกังหันลมยี่ห้อ Siemens เท่านั้นที่สามารถวิเคราะห์ได้ทั้ง DIgSILENT และ PSS/E แต่กังหันลมยี่ห้ออื่นมักจะมีเพียงโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่ง เมื่อยื่นเรื่องให้ กฟผ.ศึกษาการเชื่อมโยง หากไม่ตอบสนองข้อกำหนดของ กฟผ.ย่อมทำให้ กฟผ.ไม่สะดวกซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เสนอโครงการไม่พึงประสงค์ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ต้องติดต่อไปยังบริษัท Siemens เพื่อขอใช้ข้อมูล DIgSILENT แต่สิ่งที่ได้คือบริษัท Siemens ซึ่งได้มีข้อตกลงผูกขาดขายกังหันลมให้กลุ่มของนายนพพรแล้ว จะไม่ให้ความร่วมมือกับคู่แข่งของนายนพพรอย่างเด็ดขาด กฟผ.จึงไม่สามารถพิจารณาข้อเสนอได้ โดยวิธีนี้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ เมื่อได้พบอุปสรรคก็ไม่สามารถแข่งขันอย่างเป็นธรรมและมีความยากลำบากอย่างยิ่งที่จะได้ตอบรับซื้อ ดังนั้นโดยความพร้อมของกระสุนและไม่มีอุปสรรคทางเทคนิคที่เกี่ยวกับการเชื่อมโยง รวมทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับกระทรวงพลังงาน และ กฟผ.กลุ่มของนายนพพร จึงสามารถก้าวรุดไปข้างหน้าโดยทิ้งห่างคู่แข่งอย่างไม่เห็นฝุ่น

และในที่สุดก็ได้รับอนุมัติรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มอีก 2 โครงการที่ ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โครงการละ 90 เมกะวัตต์ โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก. ในนามบริษัท เฟิร์สโคราชวินด์ จำกัด และ บริษัท เค อาร์ ทู จำกัด

4) ล็อกองค์การบริหารส่วนตำบลซื้อตัวข้าราชการท้องถิ่น

วิชามารอย่างหนึ่งที่เป็นกลยุทธ์ตื้นๆ แต่ได้ผลของบริษัทในเครือนายนพพร คือ นอกจากสูตรสำเร็จคือจัดกิจกรรมพาไปดูงานเลี้ยงดูปูเสื่อโดยการเหมารถทัวร์ไปต่างจังหวัดแล้ว การทุ่มซื้อตัวผู้บริหาร อบต. ให้เป็นพวกเป็นสิ่งที่ได้พบเห็นเป็นประจำ รวมทั้งพยายามแต่งตั้งตัวแทนที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ทุกระดับที่จะทำได้ ให้ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับบริษัทตัวเอง และให้ร้ายคู่แข่งซึ่งในหลายๆ ท้องที่ทำได้ผล

เมื่อสามารถซื้อตัวนายก อบต.หรือประธาน อบต.ได้แล้ว นายก อบต.หรือประธาน อบต.ก็จะออกแรงปกป้องบริษัทในเครือของเขาและปฏิบัติไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการอื่น เช่น หากการขออนุญาตต่อส่วนราชการใดๆ ที่ต้องให้ อบต.ออกหนังสือรับรองให้ก่อนก็จะล็อบบี้ไม่ให้ อบต.ออกหนังสือให้ ไม่ให้ความร่วมมือ หรือบล็อกโหวตในที่ประชุมสภาเพื่อไม่ให้ความเห็นชอบ และมักใช้วิธีโฆษณาว่าเป็นบริษัทของพวกเขาเป็นบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือของ กฟผ. โดยอ้าง บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ซึ่งทำให้ดูดีมาก นอกจากนั้นยังใช้วิธีบ่อนทำลายคู่แข่ง เช่น กล่าวหาว่ารุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ และปลุกม็อบต่อต้าน ทำเรื่องร้องเรียนต่อกรรมาธิการสภาผู้แทนฯ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ส่วนราชการอื่นๆ หรือจังหวัดออกใบอนุญาตให้ บริษัทในเครือของเขาเคยถึงขนาดพานายก อบต.บางคนเดินสายไปจังหวัดต่างๆ อวดอ้างสรรพคุณความดีความชอบต่างๆนานา และโจมตีผู้ประกอบการอื่น

มีอยู่หนึ่งกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้าทำการตรวจสอบพบว่าบริษัทของนายนพพร เสนอผลประโยชน์ให้แก่ อบต. คือกรณีโครงการห้วยบง ที่เขาได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เขาได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ อบต.ห้วยบงเพื่อผูกขาดพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว สตง.ได้ตรวจสอบแล้วจึงส่งบันทึกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาแก้ไข และทวนมติดังกล่าวซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลักฐานดังกล่าวมีความสมบูรณ์และถือว่าได้กระทำความผิดสำเร็จแล้วสามารถดำเนินคดีต่อนายนพพร และกลุ่มบริษัทของเขาได้

5) เหิมเกริมละเมิดกฎหมายซื้อสิทธิล็อกพื้นที่ในเขต ส.ป.ก.-และเขตป่า

กลุ่มบริษัทของนายนพพรจะใช้วิธีการซื้อสิทธิในพื้นที่ ส.ป.ก.ทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 และในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโซน E ที่เป็น ภบท.5 โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยเฉพาะในเขตป่าอนุรักษ์โซน C มีบันทึกการประชุมระดับจังหวัดร้อยเอ็ดที่รับทราบว่ามีการซื้อสิทธิที่ดินที่ละเมิดกฎหมายบนป่าดงแม่เผดที่เขต ต.คำพอุง อ.โพธิ์ชัย ที่สามารถดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัทของนายนพพรได้ วิธีการคือบริษัทของนายนพพร ได้หว่านเงินให้เกษตรกรไร่ละ 200 บาท และให้ราษฎรทำข้อตกลงยินยอมผูกขาดไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ได้

ในกรณี ส.ป.ก. เขาได้ประกาศในวันที่ลงนามซื้อกังหันลมจากบริษัท Siemens โดย นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติมาเป็นประธานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2553 ว่าสามารถซื้อสิทธิหรือเช่าในที่ดิน ส.ป.ก.ได้เป็นหมื่นๆ ไร่ในเขตจังหวัดนครราชสีมา และจะทำให้ได้ 8 หมื่นไร่ ใน 5 ปี นับว่าเป็นการกระทำที่เหิมเกริมเต็มที่เพราะข้อตกลงที่กระทำไว้กับราษฎรคือการให้ราษฎรสละสิทธิ์การครอบครองให้บริษัทซึ่งขัดต่อกฎหมายและเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มีบันทึกการประชุมระดับจังหวัดนครราชสีมา ที่รับทราบว่ามีการซื้อสิทธิที่ดิน ส.ป.ก.ที่ละเมิดกฎหมายในพื้นที่ ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด ต.บึงปรือ อ.เทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถดำเนินคดีเอาผิดกับนายนพพร และกลุ่มบริษัทของเขาได้เช่นกัน

6) ส.ป.ก.กระโดดเข้าร่วมวง

ข้าราชการในสำนักงาน ส.ป.ก. ไม่ว่าส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคแทนที่จะเข้มงวดกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกลับปล่อยปละละเลยไม่บังคับใช้กฎหมายแต่อย่างใด โดยเฉพาะเป็นความผิดซึ่งหน้าและได้กระทำการก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสั่งการให้ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัดกลับทำตัวเหมือนพนักงานของบริษัทที่เร่งดำเนินการอำนวยความสะดวกให้บริษัททำการให้สำเร็จ รวมทั้งข่มขู่ราษฎรหากไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งข้าราชการระดับสูงในส่วนกลางก็เร่งแก้ไขระเบียบให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอนุมัติให้บริษัทสามารถเช่าพื้นที่ตั้งกังหันลมได้โครงการละ 50 ไร่ ข้าราชการที่เป็นผู้ชงเรื่องในขณะนั้นคือ รองเลขาธิการ ส.ป.ก.นายสถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ และร่วมกับอดีตเลขาธิการ ส.ป.ก.ในสมัยนั้นคือ นายเฉลิมพร พิรุณสาร เด็กในคาถาของ เติ้งเสี่ยวหาร ที่สนองงานมังกรเติ้งจนปัจจุบันได้ดิบได้ดีเลื่อนขั้นเป็นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนายสถิตย์พงษ์ และนายเฉลิมพร ต่างหลับหูหลับตาไม่รับรู้ว่าได้มีการกว้านซื้อสิทธิที่ดินในเขต ส.ป.ก.แล้วนับหมื่นไร่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กลับอนุมัติให้บริษัทเอกชนใช้ที่ดิน ส.ป.ก.โดยอ้างกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรกรรมโดยละเลยหรือละเว้นไม่บังคับใช้กฎระเบียบอื่นที่สำคัญที่กำหนดไว้คือกิจการผลิตไฟฟ้าเป็นกิจการสาธารณูปโภคที่ยกเว้นให้ทำได้เฉพาะกิจการไม่แสวงหากำไรเท่านั้น โดยเฉพาะการก่อสร้างถนน การปักเสาพาดสายที่พาดผ่านที่ดิน ส.ป.ก.ต้องทำการเวนคืนสิทธิ หรือสละสิทธิ์คืนให้ ส.ป.ก.โดยการยินยอมของเกษตรกรทุกราย และเกษตรกรได้รับค่าชดเชยที่เป็นธรรม รวมทั้งต้องทำประชาพิจารณ์และทำกระบวนการมีส่วนร่วมของเกษตรกรให้ครบถ้วนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

และในกรณีกังหันลมที่อยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.โดยเฉพาะต.ห้วยบงที่อยู่ใกล้หมู่บ้านในรัศมี 2 กิโลเมตร คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานต้องออกระเบียบมิให้สามารถตั้งกังหันลมได้ และต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนออกใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน และใบอนุญาตระบบส่งและจำหน่ายระบบไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทได้เริ่มงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าบนที่ชาวบ้านและทางสาธารณะโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน

7) เวรกรรมตามสนองโครงการเขาค้อไม่ง่ายอย่างที่คิด

แม้จะได้หนังสือตอบรับซื้อไฟฟ้าเมื่อ 22 สิงหาคม 2551 แต่ก็หาใช่ว่าเส้นทางแห่งความสำเร็จจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ จะว่าด้วยเพราะความอ่อนด้อยประสบการณ์ทั้งของนายนพพรเอง และบริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ที่ไม่เคยพัฒนาโครงการพลังงานลมมาก่อน และสุ่มสี่สุ่มห้ารีบกระโดดเข้ามาซื้อหุ้นโดยจ่ายเงินไปนับร้อยๆ ล้านบาท โดยที่โครงการยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากส่วนราชการแต่อย่างใด และไม่มีทางที่จะสามารถก่อสร้างได้

โดยข้อเท็จจริงโครงการนี้ใช้กังหันลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางพัดยาว 100 เมตร จำนวน 26 ชุด กำลังผลิตกังหันลมตัวละ 2.3 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิตไฟฟ้าประมาณ 60 เมกะวัตต์ ใช้พื้นที่ตั้งทั้งหมดประมาณ 450 ไร่ ในพื้นที่ตาบอดคือถูกล้อมรอบโดยผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 (1 A และ 1 B) ไม่มีเส้นทางที่สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก วิธีการที่บริษัท ซัสเทนเอเบิลฯ ดำเนินการคือปกปิดความจริงและขออนุญาตใช้พื้นที่เพียงเฉพาะที่ตั้งกังหันลมต่อกรมป่าไม้เท่านั้น หาได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ทางเข้าและเดินสายส่งไฟฟ้าด้วย เพราะหากทำเรื่องขอใช้พื้นที่ทางเข้าด้วยจะต้องขอยกเว้นการใช้พื้นที่จากคณะรัฐมนตรี และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อขออนุมัติประกอบคำขออนุญาต โดยมีเงื่อนไขของหนังสือตอบรับซื้อกำหนดระยะให้มาลงนามสัญญาภายใน 22 สิงหาคม 2553 และต้องได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนจึงจะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้

หากขออนุญาตให้ครบถ้วนอาจไม่ทันระยะเวลาดังกล่าว บริษัท ซัสเทนเอเบิลฯ จึงเลือกวิธีขออนุญาตใช้พื้นที่เพียงเฉพาะที่ตั้งกังหันลมอย่างเดียว และโดยความสัมพันธ์ของนายประเดช กิตติอิสรานนท์ ที่มีกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นสถาบันวิทยาลัยตลาดทุนรุ่นที่ 6 (วตท. 6) บริษัท ซัสเทนเอเบิลฯ สามารถได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ เมื่อเดือน ตุลาคม 2552 และเตรียมเดินหน้าเข้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. โดยปกปิดข้อเท็จจริงดังกล่าว (อ่านต่อวันศุกร์หน้า)
กำลังโหลดความคิดเห็น