นายเจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผย ถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ว่าคาดว่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 53 และมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้ เพราะรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเป็นงานที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น สะท้อนให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกันด้วย
" คาดว่าไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะเป็นอีกไตรมาสที่เราเติบโตได้อย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรสุทธิ เพราะเป็นการรับรู้รายได้จาก Backlog ซึ่งเป็นงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีที่จ่ายในอัตราที่ต่ำกว่าโครงการปกติประมาณ 3% จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นด้วย และน่าจะสะท้อนให้กำไรสุทธิดีตามไปในทิศทางเดียวกัน "
แม้ที่ผ่านมาบริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ในมืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็เดินหน้าประมูลงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมและได้รับการตอบรับจากเจ้าของโครงการเป็นอย่างดี ล่าสุดได้สร้างสถิติใหม่สะสม Backlog ในมือทะลุ 4,400 ล้านบาทเป็นครั้งแรก หลังจากที่ชนะงานประมูลโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 1,240 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรอเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ส่วน 6 เดือนที่เหลือหลังจากนี้คาดว่าจะเข้ายื่นประมูลงานอีกมูลค่าไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 20% ของงานที่ยื่นประมูลทั้งหมด
นายเจริญกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการมุ่งขยายงานรับเหมาก่อสร้างแล้ว บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลควบคู่กันไปด้วย โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจผ่านทางบริษัท ทีโพลี่ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ภายในปลายปี 54 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ แนวราบใหม่ 1 โครงการ มูลค่า 200 ล้านบาท ถือเป็นโครงการนำร่องเป็นโครงการแรก และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปี 55 ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ คาดว่าปีนี้จะเปิดได้ครบ 3 แห่งตามแผน
" การขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวล และอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นการเป็นการสานต่อนโยบายเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิและเพิ่มกระแสเงินสดที่มั่นคงให้กับบริษัทฯในระยะยาวที่สำคัญทั้งสองธุรกิจถือว่ามีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง ซึ่งจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้นด้วย" นายเจริญกล่าว
" คาดว่าไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะเป็นอีกไตรมาสที่เราเติบโตได้อย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรสุทธิ เพราะเป็นการรับรู้รายได้จาก Backlog ซึ่งเป็นงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีที่จ่ายในอัตราที่ต่ำกว่าโครงการปกติประมาณ 3% จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นด้วย และน่าจะสะท้อนให้กำไรสุทธิดีตามไปในทิศทางเดียวกัน "
แม้ที่ผ่านมาบริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ในมืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็เดินหน้าประมูลงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมและได้รับการตอบรับจากเจ้าของโครงการเป็นอย่างดี ล่าสุดได้สร้างสถิติใหม่สะสม Backlog ในมือทะลุ 4,400 ล้านบาทเป็นครั้งแรก หลังจากที่ชนะงานประมูลโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 1,240 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรอเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ส่วน 6 เดือนที่เหลือหลังจากนี้คาดว่าจะเข้ายื่นประมูลงานอีกมูลค่าไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 20% ของงานที่ยื่นประมูลทั้งหมด
นายเจริญกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการมุ่งขยายงานรับเหมาก่อสร้างแล้ว บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลควบคู่กันไปด้วย โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจผ่านทางบริษัท ทีโพลี่ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ภายในปลายปี 54 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ แนวราบใหม่ 1 โครงการ มูลค่า 200 ล้านบาท ถือเป็นโครงการนำร่องเป็นโครงการแรก และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปี 55 ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ คาดว่าปีนี้จะเปิดได้ครบ 3 แห่งตามแผน
" การขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวล และอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นการเป็นการสานต่อนโยบายเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิและเพิ่มกระแสเงินสดที่มั่นคงให้กับบริษัทฯในระยะยาวที่สำคัญทั้งสองธุรกิจถือว่ามีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง ซึ่งจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้นด้วย" นายเจริญกล่าว
