ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท.หนุนรัฐจัดโซนนิ่งท่องเที่ยว เสริมแกร่งรับศึกการแข่งขัน แก้ปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย
นายอักกพล พฤกษะวัน ที่ปรึกษาระดับ 11 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ต้องการให้ภาครัฐในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดระเบียบการใช้ที่ดินในพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการเกิดโอเวอร์ซัพพลาย และช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ
รัฐควรมีการจัดพื้นที่ตามการใช้งานให้ชัดเจน เช่น พื้นที่ให้ควรเปิดให้ลงทุนสร้างที่พัก โดยต้องประเมินความสมดุลระหว่างดีมานด์กับซัพพลาย เพื่อลดปัญหาจำนวนที่พักล้นตลาดเกิดโอเวอร์ซัพพลาย และแข่งขันสงครามราคากันในบางพื้นที่ซึ่งมีให้เห็นแล้วในขณะนี้ โดยควรจะกระจายการลงทุนไปยังพื้นที่ที่ยังขาดแคลน
ในส่วนการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวรัฐควรทำให้ชัดเจนว่า พื้นที่ใดเป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวแบบสนุกสนาน พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลให้มีศักยภาพ ปัจจุบันมีหลายจังหวัดเริ่มทยอยจัดระเบียบพื้นที่อย่างชัดเจนแล้ว
ปัจจุบันหลายพื้นที่ท่องเที่ยวของไทย มีที่พักใหม่ๆเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยมีตัวเลขโรงแรมที่ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย 9,800 กว่าแห่งทั่วประเทศ มีจำนวนห้องพักรวมกันกว่า 400,000 ห้อง โดยยังไม่นับรวมโรงแรม ที่พักที่ไม่จดทะเบียน หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ โดยไม่มีดัชนีหรือผังเมืองชี้นำ จะเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมาก
เพราะขณะนี้นอกจากการลงทุนของผู้ประกอบการรายเดิม ยังมีผู้ประกอบการจากภาคธุรกิจอื่นๆ หันมาลงทุนในภาคท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และเรื่องนี้ยังไม่สามารถควบคุมได้
อนาคตการแข่งขันในภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในแถบเอเชีย เนื่องจากแนวโน้มการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้มีมากขึ้น มีประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกิดใหม่ และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประเทศไทย แบรนด์ด้านการท่องเที่ยวก็ยังแข็งแกร่ง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แต่ประเทศคู่แข่งขันอื่นๆ
ต่างมีรัฐบาลของประเทคอยสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการคนไทย ก็จะต้องเตรียมพร้อมรับมือเช่นกัน
นายอักกพล พฤกษะวัน ที่ปรึกษาระดับ 11 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ต้องการให้ภาครัฐในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดระเบียบการใช้ที่ดินในพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการเกิดโอเวอร์ซัพพลาย และช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ
รัฐควรมีการจัดพื้นที่ตามการใช้งานให้ชัดเจน เช่น พื้นที่ให้ควรเปิดให้ลงทุนสร้างที่พัก โดยต้องประเมินความสมดุลระหว่างดีมานด์กับซัพพลาย เพื่อลดปัญหาจำนวนที่พักล้นตลาดเกิดโอเวอร์ซัพพลาย และแข่งขันสงครามราคากันในบางพื้นที่ซึ่งมีให้เห็นแล้วในขณะนี้ โดยควรจะกระจายการลงทุนไปยังพื้นที่ที่ยังขาดแคลน
ในส่วนการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวรัฐควรทำให้ชัดเจนว่า พื้นที่ใดเป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวแบบสนุกสนาน พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลให้มีศักยภาพ ปัจจุบันมีหลายจังหวัดเริ่มทยอยจัดระเบียบพื้นที่อย่างชัดเจนแล้ว
ปัจจุบันหลายพื้นที่ท่องเที่ยวของไทย มีที่พักใหม่ๆเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยมีตัวเลขโรงแรมที่ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย 9,800 กว่าแห่งทั่วประเทศ มีจำนวนห้องพักรวมกันกว่า 400,000 ห้อง โดยยังไม่นับรวมโรงแรม ที่พักที่ไม่จดทะเบียน หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ โดยไม่มีดัชนีหรือผังเมืองชี้นำ จะเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมาก
เพราะขณะนี้นอกจากการลงทุนของผู้ประกอบการรายเดิม ยังมีผู้ประกอบการจากภาคธุรกิจอื่นๆ หันมาลงทุนในภาคท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และเรื่องนี้ยังไม่สามารถควบคุมได้
อนาคตการแข่งขันในภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในแถบเอเชีย เนื่องจากแนวโน้มการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้มีมากขึ้น มีประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกิดใหม่ และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประเทศไทย แบรนด์ด้านการท่องเที่ยวก็ยังแข็งแกร่ง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แต่ประเทศคู่แข่งขันอื่นๆ
ต่างมีรัฐบาลของประเทคอยสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการคนไทย ก็จะต้องเตรียมพร้อมรับมือเช่นกัน