อีกประมาณหนึ่งเดือนข้างหน้า ประชากรไทยที่มีใจประชาธิปไตยก็ต้องไปเลือกตั้งทั่วไป เพื่อให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ตนเองศรัทธาเลื่อมใส ทั้งตัวบุคคลและนโยบายพรรคการเมืองที่เขาสังกัดอยู่ จำนวน 40 พรรคการเมือง โดยในครั้งนี้มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนรวมทั้งสิ้น 379 คน จาก 375 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ
ในพรรค 40 พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ๆ นั้น ต่างรณรงค์หาเสียงด้วยนโยบาย “เพื่อประชาชน” ให้อยู่ดีกินดี มีเงินใช้ เช่น เน้นที่การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำบ้าง เช่าซื้อบ้านด้วยอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ ชำระหนี้ระยะยาวบ้าง หรือส่งเสริมหางานทำให้ โดยเฉพาะหารถแท็กซี่ให้ขับ เป็นต้น
แต่แปลกที่มีพรรคการเมืองอย่างน้อยแค่ 3 พรรค ที่สำแดงนโยบายในเรื่องความเที่ยงตรงโปร่งใส และให้เป็นนิติรัฐ แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เคยกล่าวถึงต้องการให้ประเทศไทยเป็นนิติรัฐในห้วงวิกฤตพฤษภาคมหฤโหด 2553 แต่เมื่อลงเลือกตั้งกลับไม่ได้แสดงเจตนารมณ์นี้เลย กลับไปแข่งขันในเรื่องประชานิยม ซึ่งหากพูดแล้วก็จะแตกต่างกับรัฐสวัสดิการ เพราะประชาชนนิยมเป็นการให้แต่อย่างเดียว ไม่ได้คำนึงถึงภาระหน้าที่ของผู้รับจะต้องปฏิบัติ จึงเสมือนว่าประชาชนแบมือขออย่างเดียว การเอาใจประชาชนโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนความมุมานะตั้งใจที่แท้จริงของคน ซึ่งเป็นปรัชญาพื้นฐานสากลของมนุษยชาติที่ต้องลงทุนลงแรง เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นการเอาใจเพื่อคะแนนเพียงอย่างเดียวเป็นอันตรายต่อพฤติกรรมสังคม
นโยบายลักษณะนี้ไม่มีวันที่จะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนได้ เพราะรายได้ของรัฐจากภาษีนั้น แหล่งที่มาใหญ่สุดเป็นภาษีจากการบริโภคของประชาชน หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax-VAT) คือ ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนการผลิตสินค้าหรือบริการ และการจำหน่ายสินค้าหรือบริการชนิดต่างๆ โดยผู้ประกอบการเป็นผู้มีหน้าที่เก็บจากลูกค้า แล้วนำภาษีนี้ไปชำระให้แก่รัฐบาลเพื่อนำมาทำนุบำรุงประเทศ
VAT เป็นภาษีที่ทุกคนและทุกฐานะต้องเสียให้แก่รัฐโดยเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะจนไม่มีเงินฝากในธนาคาร หรืออภิมหาเศรษฐีที่มีเงินฝากทุกประเภทในธนาคารหลายแห่งทั้งในประเทศและนอกประเทศ แต่ความร่ำรวยเกินความจำเป็นไม่ถูกเก็บภาษี โดยเฉพาะความซับซ้อนของเงินรายได้จากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เช่น กรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร ทายาททักษิณ ซื้อหุ้นชินคอร์ป จำนวน 329.9 ล้านหุ้น จากบริษัท Ample Rich Investment ในราคาหุ้นละ 1 บาท ในขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49 บาท ทำให้บุคคลทั้งสองได้รับผลประโยชน์จากส่วนต่างราคาหุ้นจำนวน 15,802 ล้านบาท เข้าข่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมายในอัตราสูงสุด 37 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงิน 5,800 ล้านบาท แต่สิ้นกันยายน 2548 ไม่ยื่นแบบเสียภาษี ถูกปรับ 1 เท่าตัวเป็นเงิน 11,600 ล้านบาท และถูกปรับอีกเดือนละ 1.5 เปอร์เซ็นต์ หรือเดือนละ 82 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่กฎหมายประมวลรัษฎากร แต่อยู่ที่ความสัมพันธ์ของตัวละครในเหตุการณ์นี้ คือ ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน เป็นทายาททักษิณ และมีการซื้อขายหุ้นกันในราคาที่ไม่สมจริง ทำให้ตัวเงินภาษีที่รัฐพึงจะได้ถูกยักยอกไปด้วยเล่ห์กลทางการเงินหรือฮั้วกันเพื่อผลประโยชน์ครอบครัวแต่เป็นครอบครัวนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจรัฐ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวที่เกิดขึ้น แต่สถานการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่รัฐในอนาคตจะต้องหาหนทางอุดช่องโหว่ของกฎหมาย หรือกฎระเบียบการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องเสียภาษีมากกว่าปัจจุบันนี้ ถ้าทำได้ก็จะเป็นการลดช่องว่างความรวยจนและเปิดโอกาสให้คนจนที่จะได้รับสวัสดิการจากรัฐมากขึ้นได้ระดับหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเรื่องการลงทุนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และอาจจะกระทบต่อการจ้างงาน แต่ประเด็นที่สำคัญยิ่งของนักการเมืองที่จะต้องพิจารณา คือ ฐานล่างของสังคมเศรษฐกิจของไทยคือเกษตรกรปลูกผักหญ้าเลี้ยงชีพ ซึ่งมีมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานเลี้ยงคนทั้งประเทศ แต่ผลตอบแทนต่ำ ขณะที่บรรดาเศรษฐีเล่นหุ้นและฮั้วกันได้กำไร แต่ละวันมีมูลค่าเกินกว่าเกษตรกรเป็นพันเท่า
ดังนั้น รัฐสวัสดิการจึงเป็นกุญแจในการสร้างสังคมและการสวัสดิการ ต้องได้มาจากภาษีของคนที่มีโอกาสมากกว่าคนจนในทุกด้าน ประเทศที่เจริญทางด้านรัฐสวัสดิการนั้น สามารถทำให้ประชาชนได้พึ่งพารัฐอย่างสมบูรณ์ เช่น ในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เยอรมนี และออสเตรเลีย เป็นต้น ขณะเดียวกันประชาชนจะต้องทำงานตามความสามารถและความมุ่งมั่น ภายใต้กรอบกฎหมายแรงงาน อันเป็นสวัสดิการพื้นฐาน อันเป็นที่มาของค่าจ้างที่มีปัจจัยในการคำนวณมากมาย รวมทั้งมูลค่าของหุ้นในตลาดที่เป็นมูลค่าจริง การปั่นหุ้นเพื่อให้หุ้นมีราคาจนเกิดการเก็งกำไร แต่พนักงานไม่ได้รับส่วนแบ่งก็เป็นเรื่องไม่ยุติธรรม
การแสวงความเป็นนิติรัฐนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสังคมที่มีความซับซ้อน หากปราศจากกฎหมายที่แท้จริงแล้ว สังคมก็ขาดระเบียบ มีการเอาเปรียบในสิทธิกันอย่างเด่นชัด เช่น การมีกลุ่มคนเสื้อแดง อันเป็นหนึ่งในแก้วสามประการของทักษิณ คือ พรรคการเมืองก็คือพรรคเพื่อไทย มวลชนก็คือกลุ่มคนเสื้อแดง และกองกำลังใช้ความรุนแรงก็คือพวกการ์ดเสื้อแดง ที่ถูกจ้างให้มาทำงานก่อความไม่สงบ จนถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาคม 2553 จนวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา
สิทธิในการค้าขายของกลุ่มคนค้าขายหาเช้ากินค่ำถูกลิดรอน และละเมิดเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท เพราะว่ากลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งได้รับค่าจ้างให้ออกมายึดพื้นที่ธุรกิจกลางกรุงเทพฯ กินพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ ประตูน้ำ สยามสแควร์ และสีลม เพราะทันทีที่มีการปิดกั้นการจราจรในพื้นที่หลักสี่ แยกราชประสงค์แล้ว ห้างร้านในบริเวณก็จะปิดทำการ ลูกค้าหายไปจากตลาด แล้วพ่อค้าแม่ค้าจะอยู่ได้หรือ ข้าวของซื้อมาบูดเน่าเสียหาย
นี่เป็นการคอร์รัปชันประเภทหนึ่ง หากเราพิจารณาคำว่าคอร์รัปชันในภาษาอังกฤษแล้ว จะพบว่าคำนี้กินความกว้างขวาง ทั้งการกระทำชั่ว รูปธรรม นามธรรม ต่อมนุษย์
มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการช่วยรัฐปราบปรามการค้ายาเสพติด เพราะรัฐประสบปัญหายาเสพติดระบาด กองทัพได้รับการร้องขอให้สนับสนุนตำรวจในการปราบปรามการค้ายาเสพติดในทั้งกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด แต่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 นี้เอง เมื่อพรรคเพื่อไทยกินปูนร้อนท้อง และไม่มั่นใจในความนิยมของประชาชนในพื้นที่เขตหนองจอก พรรคเพื่อไทยจึงระบุว่าหน่วยเฉพาะกิจ 315 ของกองทัพบกกดดันทางการเมืองมากกว่าการทำงานปราบปรามยาเสพติด
ประชาชนมีวิจารณญาณในเรื่องพฤติกรรมค้ายาเสพติดอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นติดยาในแหล่งชุมชน ไม่ใช่เรื่องโกหกแต่มันเกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน – ปปง. เข้าตรวจยึดทรัพย์สินนายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือ ป.เป็ด อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ หรือแก๊งนายพนัส อาจจิตตเอิบ และนายพรเทพ อาจจิตตเอิบ อาหลานย่านดอนเมือง หรือนายอานนท์ สะและน้อยหรือบังร็อดหรือนายวิฑูรย์ ปะทะวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 37/13 หมู่ 4 เขตหนองจอก ถูกยิงตาย เพราะหักหลังกันเองในหมู่ค้ายาเสพติด และนายวิฑูรย์ เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในแถบนี้
ดังนั้น การกดดันของ ฉก.315 เป็นเรื่องปกติที่ติดตามพฤติกรรมของขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง คงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในช่วงเลือกตั้ง จึงขอให้นักการเมืองอย่าได้กินปูนร้อนท้อง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้จัดการกับคนค้ายาเสพติดตามกฎหมายจะดีที่สุด และให้พึงสังวรว่าทหารทุกคนทำตามหน้าที่ การแสดงตัวกดดันผู้ค้ายาเสพติดเป็นหน้าที่ นักการเมืองก็หาเสียงไปคงไม่กระทบกัน และข่าวสวนกระแสต้านพรรคเพื่อไทยที่กล่าวหาทหารโดยในวันที่ 2 มิถุนายน นี้เอง ทหารจากกองกำลังผาเมือง จังหวัดเชียงราย จับยึดยาบ้าจำนวน 900,000 เม็ด ยาไอซ์ 25 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท นักการเมืองควรตรึกตรองหากหลุดเข้ากรุงเทพฯ เด็กๆ จะเป็นอย่างไรในยามโรงเรียนเปิดเรียนแล้ว
ในพรรค 40 พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ๆ นั้น ต่างรณรงค์หาเสียงด้วยนโยบาย “เพื่อประชาชน” ให้อยู่ดีกินดี มีเงินใช้ เช่น เน้นที่การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำบ้าง เช่าซื้อบ้านด้วยอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ ชำระหนี้ระยะยาวบ้าง หรือส่งเสริมหางานทำให้ โดยเฉพาะหารถแท็กซี่ให้ขับ เป็นต้น
แต่แปลกที่มีพรรคการเมืองอย่างน้อยแค่ 3 พรรค ที่สำแดงนโยบายในเรื่องความเที่ยงตรงโปร่งใส และให้เป็นนิติรัฐ แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เคยกล่าวถึงต้องการให้ประเทศไทยเป็นนิติรัฐในห้วงวิกฤตพฤษภาคมหฤโหด 2553 แต่เมื่อลงเลือกตั้งกลับไม่ได้แสดงเจตนารมณ์นี้เลย กลับไปแข่งขันในเรื่องประชานิยม ซึ่งหากพูดแล้วก็จะแตกต่างกับรัฐสวัสดิการ เพราะประชาชนนิยมเป็นการให้แต่อย่างเดียว ไม่ได้คำนึงถึงภาระหน้าที่ของผู้รับจะต้องปฏิบัติ จึงเสมือนว่าประชาชนแบมือขออย่างเดียว การเอาใจประชาชนโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนความมุมานะตั้งใจที่แท้จริงของคน ซึ่งเป็นปรัชญาพื้นฐานสากลของมนุษยชาติที่ต้องลงทุนลงแรง เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นการเอาใจเพื่อคะแนนเพียงอย่างเดียวเป็นอันตรายต่อพฤติกรรมสังคม
นโยบายลักษณะนี้ไม่มีวันที่จะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนได้ เพราะรายได้ของรัฐจากภาษีนั้น แหล่งที่มาใหญ่สุดเป็นภาษีจากการบริโภคของประชาชน หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax-VAT) คือ ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนการผลิตสินค้าหรือบริการ และการจำหน่ายสินค้าหรือบริการชนิดต่างๆ โดยผู้ประกอบการเป็นผู้มีหน้าที่เก็บจากลูกค้า แล้วนำภาษีนี้ไปชำระให้แก่รัฐบาลเพื่อนำมาทำนุบำรุงประเทศ
VAT เป็นภาษีที่ทุกคนและทุกฐานะต้องเสียให้แก่รัฐโดยเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะจนไม่มีเงินฝากในธนาคาร หรืออภิมหาเศรษฐีที่มีเงินฝากทุกประเภทในธนาคารหลายแห่งทั้งในประเทศและนอกประเทศ แต่ความร่ำรวยเกินความจำเป็นไม่ถูกเก็บภาษี โดยเฉพาะความซับซ้อนของเงินรายได้จากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เช่น กรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร ทายาททักษิณ ซื้อหุ้นชินคอร์ป จำนวน 329.9 ล้านหุ้น จากบริษัท Ample Rich Investment ในราคาหุ้นละ 1 บาท ในขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49 บาท ทำให้บุคคลทั้งสองได้รับผลประโยชน์จากส่วนต่างราคาหุ้นจำนวน 15,802 ล้านบาท เข้าข่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมายในอัตราสูงสุด 37 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงิน 5,800 ล้านบาท แต่สิ้นกันยายน 2548 ไม่ยื่นแบบเสียภาษี ถูกปรับ 1 เท่าตัวเป็นเงิน 11,600 ล้านบาท และถูกปรับอีกเดือนละ 1.5 เปอร์เซ็นต์ หรือเดือนละ 82 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่กฎหมายประมวลรัษฎากร แต่อยู่ที่ความสัมพันธ์ของตัวละครในเหตุการณ์นี้ คือ ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน เป็นทายาททักษิณ และมีการซื้อขายหุ้นกันในราคาที่ไม่สมจริง ทำให้ตัวเงินภาษีที่รัฐพึงจะได้ถูกยักยอกไปด้วยเล่ห์กลทางการเงินหรือฮั้วกันเพื่อผลประโยชน์ครอบครัวแต่เป็นครอบครัวนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจรัฐ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวที่เกิดขึ้น แต่สถานการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่รัฐในอนาคตจะต้องหาหนทางอุดช่องโหว่ของกฎหมาย หรือกฎระเบียบการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องเสียภาษีมากกว่าปัจจุบันนี้ ถ้าทำได้ก็จะเป็นการลดช่องว่างความรวยจนและเปิดโอกาสให้คนจนที่จะได้รับสวัสดิการจากรัฐมากขึ้นได้ระดับหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเรื่องการลงทุนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และอาจจะกระทบต่อการจ้างงาน แต่ประเด็นที่สำคัญยิ่งของนักการเมืองที่จะต้องพิจารณา คือ ฐานล่างของสังคมเศรษฐกิจของไทยคือเกษตรกรปลูกผักหญ้าเลี้ยงชีพ ซึ่งมีมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานเลี้ยงคนทั้งประเทศ แต่ผลตอบแทนต่ำ ขณะที่บรรดาเศรษฐีเล่นหุ้นและฮั้วกันได้กำไร แต่ละวันมีมูลค่าเกินกว่าเกษตรกรเป็นพันเท่า
ดังนั้น รัฐสวัสดิการจึงเป็นกุญแจในการสร้างสังคมและการสวัสดิการ ต้องได้มาจากภาษีของคนที่มีโอกาสมากกว่าคนจนในทุกด้าน ประเทศที่เจริญทางด้านรัฐสวัสดิการนั้น สามารถทำให้ประชาชนได้พึ่งพารัฐอย่างสมบูรณ์ เช่น ในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เยอรมนี และออสเตรเลีย เป็นต้น ขณะเดียวกันประชาชนจะต้องทำงานตามความสามารถและความมุ่งมั่น ภายใต้กรอบกฎหมายแรงงาน อันเป็นสวัสดิการพื้นฐาน อันเป็นที่มาของค่าจ้างที่มีปัจจัยในการคำนวณมากมาย รวมทั้งมูลค่าของหุ้นในตลาดที่เป็นมูลค่าจริง การปั่นหุ้นเพื่อให้หุ้นมีราคาจนเกิดการเก็งกำไร แต่พนักงานไม่ได้รับส่วนแบ่งก็เป็นเรื่องไม่ยุติธรรม
การแสวงความเป็นนิติรัฐนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสังคมที่มีความซับซ้อน หากปราศจากกฎหมายที่แท้จริงแล้ว สังคมก็ขาดระเบียบ มีการเอาเปรียบในสิทธิกันอย่างเด่นชัด เช่น การมีกลุ่มคนเสื้อแดง อันเป็นหนึ่งในแก้วสามประการของทักษิณ คือ พรรคการเมืองก็คือพรรคเพื่อไทย มวลชนก็คือกลุ่มคนเสื้อแดง และกองกำลังใช้ความรุนแรงก็คือพวกการ์ดเสื้อแดง ที่ถูกจ้างให้มาทำงานก่อความไม่สงบ จนถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาคม 2553 จนวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา
สิทธิในการค้าขายของกลุ่มคนค้าขายหาเช้ากินค่ำถูกลิดรอน และละเมิดเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท เพราะว่ากลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งได้รับค่าจ้างให้ออกมายึดพื้นที่ธุรกิจกลางกรุงเทพฯ กินพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ ประตูน้ำ สยามสแควร์ และสีลม เพราะทันทีที่มีการปิดกั้นการจราจรในพื้นที่หลักสี่ แยกราชประสงค์แล้ว ห้างร้านในบริเวณก็จะปิดทำการ ลูกค้าหายไปจากตลาด แล้วพ่อค้าแม่ค้าจะอยู่ได้หรือ ข้าวของซื้อมาบูดเน่าเสียหาย
นี่เป็นการคอร์รัปชันประเภทหนึ่ง หากเราพิจารณาคำว่าคอร์รัปชันในภาษาอังกฤษแล้ว จะพบว่าคำนี้กินความกว้างขวาง ทั้งการกระทำชั่ว รูปธรรม นามธรรม ต่อมนุษย์
มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการช่วยรัฐปราบปรามการค้ายาเสพติด เพราะรัฐประสบปัญหายาเสพติดระบาด กองทัพได้รับการร้องขอให้สนับสนุนตำรวจในการปราบปรามการค้ายาเสพติดในทั้งกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด แต่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 นี้เอง เมื่อพรรคเพื่อไทยกินปูนร้อนท้อง และไม่มั่นใจในความนิยมของประชาชนในพื้นที่เขตหนองจอก พรรคเพื่อไทยจึงระบุว่าหน่วยเฉพาะกิจ 315 ของกองทัพบกกดดันทางการเมืองมากกว่าการทำงานปราบปรามยาเสพติด
ประชาชนมีวิจารณญาณในเรื่องพฤติกรรมค้ายาเสพติดอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นติดยาในแหล่งชุมชน ไม่ใช่เรื่องโกหกแต่มันเกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน – ปปง. เข้าตรวจยึดทรัพย์สินนายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือ ป.เป็ด อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ หรือแก๊งนายพนัส อาจจิตตเอิบ และนายพรเทพ อาจจิตตเอิบ อาหลานย่านดอนเมือง หรือนายอานนท์ สะและน้อยหรือบังร็อดหรือนายวิฑูรย์ ปะทะวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 37/13 หมู่ 4 เขตหนองจอก ถูกยิงตาย เพราะหักหลังกันเองในหมู่ค้ายาเสพติด และนายวิฑูรย์ เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในแถบนี้
ดังนั้น การกดดันของ ฉก.315 เป็นเรื่องปกติที่ติดตามพฤติกรรมของขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง คงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในช่วงเลือกตั้ง จึงขอให้นักการเมืองอย่าได้กินปูนร้อนท้อง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้จัดการกับคนค้ายาเสพติดตามกฎหมายจะดีที่สุด และให้พึงสังวรว่าทหารทุกคนทำตามหน้าที่ การแสดงตัวกดดันผู้ค้ายาเสพติดเป็นหน้าที่ นักการเมืองก็หาเสียงไปคงไม่กระทบกัน และข่าวสวนกระแสต้านพรรคเพื่อไทยที่กล่าวหาทหารโดยในวันที่ 2 มิถุนายน นี้เอง ทหารจากกองกำลังผาเมือง จังหวัดเชียงราย จับยึดยาบ้าจำนวน 900,000 เม็ด ยาไอซ์ 25 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท นักการเมืองควรตรึกตรองหากหลุดเข้ากรุงเทพฯ เด็กๆ จะเป็นอย่างไรในยามโรงเรียนเปิดเรียนแล้ว